บล.ภัทร เผยเริ่มใช้กรีนชูโรงกลั่นน้ำมันระยองตั้งแต่ราคาหุ้นปรับตัวเท่าราคาจอง เพื่อรักษาเสถียรภาพ แต่ต้านภาวะตลาดหุ้นทั่วโลก-ไทย ปรับตัวลดลงหนักไม่ไหวฉุดราคาหุ้นหลุดจองวันแรก แนะนักลงทุนมองราคาหุ้นระยะยาว จากปัจจัยพื้นฐานแกร่ง ขณะที่ผู้บริหารโรงกลั่นน้ำมันระยองพอใจที่ราคาปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงทุกบริษัทและลงมาหนักกว่า

วานนี้ราคาหุ้น(14 มิ.ย.)บริษัท โรงกลั่นน้ำมันระยอง จำกัด (มหาชน)หรือ RRC ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาจองเป็นวันแรก โดยปิดตลาดราคาหุ้นอยู่ที่ 17.90บาท ลดลง 0.30บาท หรือ 0.30% มูลค่าการซื้อขาย 1,561.36 ล้านบาท เป็นหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายมากเป็นอันดับสอง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนราคาหุ้นบริษัทโรงกลั่นน้ำมันระยองเคยปิดเท่ากับราคาจองที่ 18 บาทมาแล้ว

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ภัทร จำกัด (มหาชน)หรือ PHATRA ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท โรงกลั่นน้ำมันระยอง เปิดเผยว่า การที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาจองที่ 18 บาทต่อหุ้นเป็นวันแรก เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นไม่ดีจากที่นักลงทุนมีความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา และเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวจึงส่งผลให้นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศมีการขายหุ้นของบริษัท โรงกลั่นน้ำมันระยองออกมา

ทั้งนี้บริษัทในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินได้มีการใช้หุ้นจัดสรรส่วนเกิน (กรีนชู ออฟชั่น)ของ บริษัทโรงกลั่นน้ำมัน ตั้งแต่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงเท่าราคาจอง เพราะการใช้หุ้น กรีนชูสามารถที่จะใช้ได้เมื่อราคาหุ้นปรับตัวลดลงเท่าราคาจอง โดยทีมที่ปรึกษาทางการเงินได้มีการดูราคาหุ้นของ บริษัท โรงกลั่นน้ำมันระยองแบบชั่วโมงต่อชั่วโมง ทั้งภาวะตลาดหุ้นและราคาหุ้นของ โรงกลั่นน้ำมันระยอง

“บริษัทได้เริ่มมีการใช้กรีนชูหุ้นของ โรงกลั่นน้ำมันระยองตั้งแต่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงเท่าราคาจอง เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาหุ้น ซึ่งทีมที่ปรึกษามีการดูราคาหุ้นของ โรงกลั่นน้ำมันระยองแบบชั่วโมงต่อชั่วโมง ซึ่งการที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงวานนี้ เป็นวันแรก เนื่องจาก นักลงทุนทั้งในประเทศกังวลในเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลกทำให้ขายหุ้นไทยทำให้ดัชนีปรับตัวลดลง จึงส่งผลให้ราคาหุ้นโรงกลั่นน้ำมันระยองปรับตัวลดลง แต่บริษัทก็พอใจกับระดับราคาหุ้นที่มีการปรับตัวลดลงไม่มาก ส่วนราคาหุ้นต่อไปอย่างไรจะต้องดูกันระยะยาว ไม่ควรตัดสินในระยะเวลาอันสั้น ”นายแมนพงศ์ กล่าวว่า

อย่างไรก็ตามหากบริษัทมีจังหวะในการเข้าไปใช้กรีนชู เพื่อจะรักษาเสถียรภาพของราคาหุ้นก็จะใช้ทันที แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะใช้หมดทั้งจำนวน 113ล้านหุ้น หมดทันทีหรือไม่ เพราะ ขึ้นอยู่กับจังหวะซึ่งบริษัทเพิ่งเข้ามาจดทะเบียนได้ เพียง 10 วัน ซึ่งยังมีระยะเวลาในการใช้กรีนชูอีก 1 เดือน

นายแมนพงศ์กล่าวว่า ราคาหุ้นของโรงกลั่นน้ำมันระยอง จะเป็นอย่างไรนั้นจะต้องมองในระยะยาว ไม่ควรมองระยะสั้น ถึงแม้ราคาน้ำมันมีการปรับตัวลดลงนั้นก็ไม่ส่งผลกระทบกับบริษัท เนื่องจาก บริษัทดังกล่าวทำธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งจะมีรายได้จากการกลั่นน้ำมัน และปริมาณความต้องการใช้น้ำมันที่ยังคงอยู่ในอัตราที่สูง ซึ่งภายใน 1-2 ปี จากนี้ยังไม่มีโรงกลั่นสร้างใหม่ในภูมิภาค ดังนั้นทำให้ไม่มีกำลังการกลั่นมากขึ้น ดังนั้นความต้องการใช้น้ำมันขณะนี้ยังคงอยู่ในระดับที่สูง แต่หากราคาน้ำมันมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ก็จะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลง เพราะ ทุกคนจะต้องมีการประหยัดการใช้น้ำมัน

นายบวร วงศ์สินอุดม รองกรรมการผู้จัดการปฏิบัติการและพาณิชยกิจ บริษัทโรงกลั่นน้ำมันระยอง จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า การที่ราคาหุ้นของบริษัทมีการปรับตัวลดลง

เนื่องจากปรับตัวลดลงตามภาวะตลาดที่ปรับตัวลดลงกว่า 20 จุด ซึ่งบริษัทก็พอใจกับระดับราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลง 0.10บาทต่อหุ้นถือว่าปรับตัวลดลงน้อยมากและถือเป็นเรื่องธรรมดา อย่างหุ้น บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)หรือ TOP ก็ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 60 บาทต่อหุ้น

สำหรับก่อนหน้านี้ที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวสูงกว่าราคาจองได้ทั้งที่ภาวะตั้งแต่ช่วงที่บริษัทเข้าจดทะเบียนและหลังการเข้าจดทะเบียนก็ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทก็สามารถยืนเหนือจองที่ 18 บาทต่อหุ้น เนื่องจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่ดี

"การที่ราคาหุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงต่ำกว่าจองวานนี้เป็นวันแรกนั้นถือว่าไม่น่าตกใจอะไร เพราะภาวะตลาดหุ้นได้มีการปรับตัวลดลงกว่า 20 จุด และ หุ้นกลุ่มพลังงานก็มีการปรับตัวลดลงทุกบริษัท ซึ่งหุ้น TOPก็ปรับตัวลดลงต่ำกว่า 60 บาท แต่หุ้นของบริษัทปรับตัวลดลงเพียง 0.10บาทต่อหุ้นก็ถือว่าเก่งมากแล้ว "นายบวร