|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจไทยจะผันผวนรวมทั้งราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอาจไม่ส่งผลกระทบโดยตรงกับธุรกิจโรงแรม ยิ่งนับวันถอยหลังการเปิดให้บริการของสนามบินสุวรรณภูมิ....เชื่อได้ว่าการการเดินทางทางอากาศต้องเพิ่มขึ้นส่งผลให้การท่องเที่ยวในแถบเอเชียเติบโตสูงตาม
ในปี 2548 การเดินทางในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก มีอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 ซึ่งก่อนหน้านั้นในปี 2547 มีอัตราการเติบโตร้อยละ 27 ขณะที่การเดินทางของตลาดจีนกับอินเดียอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น จึงไม่น่าสงสัยเลยว่าในอนาคตอันใกล้นั้นการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะเป็นส่วนสำคัญอย่างมากของการเติบโตโดยรวมของทั่วโลก
เมื่อมีการเดินทางกันมากขึ้นกลุ่มธุรกิจที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดน่าจะหนีไม่พ้นธุรกิจโรงแรม... การปรับตัวเพื่อรองรับกระแสการเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเริ่มมีกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเชนโรงแรมไทยอย่างเครือดุสิต ธานีทีมีทั้งเครือรอยัล ปริ๊นเซทอยู่แล้ว ภายช่วงปีที่ผ่านมากลับกระโดดลงมาเล่นตลาดโรงแรมชั้นประหยัดเปิด “ดีทู”นำร่องเพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตรหวังโกยลูกค้าให้มากที่สุดเช่นกัน
ขณะที่เชนโรงแรมจากต่างชาติที่รุกอัดดีกรีการแข่งขันเพิ่มขึ้นปรับกลยุทธ์ใหม่หวังสู้ศึกธุรกิจโรงแรมไทยอย่าง “แอคคอร์”ก็ทวีความรุนแรงไม่แพ้กัน
ล่าสุดช่วงไตรมาสแรกของปี 2549 อัตราการเข้าพักโรงแรมที่เชนแอคคอร์รับบริหารอย่างเดียวกว่า 15 แห่งในประเทศไทย ดูจะสวนกระแสเศรษฐกิจเพราะยอดพุ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 8 โดยเฉพาะที่ภูเก็ตมีอัตราการเข้าพักถึง 37% ทำให้เชนแอคคอร์ได้ใจประกาศจุดยืนภายในอีก 2 ปีข้างหน้าคือปี 2550 จะมีโรงแรมในเครือข่ายสูงถึง 40 แห่งทั่วประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันแอคคอร์มีโรงแรมในเครือที่รับบริหารสำหรับประเทศไทยอยู่ในมือถึง 25 แห่ง และกำลังจะเปิดให้บริการใหม่เพิ่มอีกจำนวน 3 แห่ง คือในเมืองพัทยา,ชุมพร และกรุงเทพฯ
สอดคล้องกับคำพูดของ มร.ไมเคิล ไอเซนเบิร์ก กรรมการผู้จัดการ แอคคอร์ เอเชีย แปซิฟิก ที่บอกว่า จะมีการขยายแบรนด์ในทุกระดับดาว ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์ โซฟิเทล โรงแรมระดับ 5 ดาว,แกรนด์ เมอร์เคียว 4 ดาวครึ่ง,โนโวเทล 4 ดาว,เมอร์เคียว 3 ดาวครึ่ง และอีบิส 3 ดาว
จึงไม่แปลกที่กลุ่มเชนแอคคอร์จะเพิ่มเครือข่ายมากกว่า 1 เท่าตัวใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น....
เปิดตัวแบรนด์ใหม่สไตล์รีสอร์ต
การบริหารโรงแรมใหม่ในสำหรับปีนี้ มร.ไมเคิล กล่าวว่า มีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ภายใต้ชื่อ “ออลซีซั่นส์” เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวในรูปแบบสไตล์รีสอร์ท และถือเป็นการเข้ามาครั้งแรกของแบรนด์นี้สำหรับประเทศไทย และเป็นแห่งที่สองในแถบภูมิภาคเอเชีย
“คาดว่าจะเจาะกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวระดับกลางเช่นเดียวกันอีบิส”มร.ไมเคิล กล่าว
กลยุทธ์สำคัญของแบรนด์ ออล ซีซั่นส์ นับว่าเป็นแบรนด์ที่ 6 ของกลุ่มแอคคอร์ที่ถูกส่งมาวางตำแหน่งทางการตลาดเดียวกับอีบีส คือระดับ 3 ดาวแต่จะแตกต่างที่โลเคชั่นของโรงแรม โดยอิบิสจะเน้นกลุ่มโรงแรมในเมือง และมีราคาประหยัด
ขณะที่ ออล ซี ซั่นส์จะถูกวางตำแหน่งทางการตลาดเป็น โรงแรมสไตล์รีสอร์ท ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยจะเน้นไปที่โลเคชั่นหัวเมืองท่องเที่ยวหลักๆ อย่างเช่น พัทยา ที่กำลังจะเปิดให้บริการเร็วๆนี้
“ด้วยศักยภาพที่มีเครือข่ายบริหารโรงแรมไปทั่วโลก โดยเฉพาะแถบภูมิภาคเอเชีย ทำให้ธุรกิจของแอคคอร์ในประเทศไทยกว่า 70%มาจากนักเดินทางในทวีปเอเชียด้วยกัน ดังนั้นแบรนด์ ออล ซีซั่นส์น่าจะเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ประกอบการคนไทยที่ไม่มีประสบการณ์ในการบริหารโรงแรมและรีสอร์ทได้เช่นกัน”มร.ไมเคิล กล่าว
จากตัวเลขการเดินทางในแถบเอเชียที่เติบโตสูงขนาดนี้ น่าจะส่งผลให้การเติบโตของธุรกิจโรงแรมอิบิสราคาประหยัด ออลซีซั่น เมอร์เคียวและโนโวเทลจะมีอัตราเติบโตรวดเร็วกว่าแบรนด์โซฟิเทล ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มนักเดินทางที่มาจากประเทศห่างไกล อาทิ ยุโรป อเมริกา
แผนขยายเครือข่ายแถบเอเชีย
การเปิดให้บริการสนามบินสุวรรณภูมิที่จะเป็นศูนย์กลางการจราจรทางอากาศของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวียดนามและจีนตอนใต้...การเลือกที่จะเปิดให้บริการโรงแรมในสนามบินจึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ถูกเชนแอคคอร์วางยุทธศาสตร์ไว้ โนโวเทล สุวรรณภูมิ แอร์พอร์ต คือโรงแรมแห่งที่ 2 ในจำนวนโรงแรมโนโวเทลทั้ง 3 แห่งที่เปิดให้บริการภายในบริเวณสนามบิน
“แอคคอร์เปิดให้บริการโรงแรมโนโวเทล ซิตี้เกท ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติฮ่องกงเพียง 5 นาท นอกจากนี้เตรียมตัวเปิดโรงแรม บันยัน กวางโจว ในเดือนกันยายนศกนี้ โรงแรมทั้ง 3 แห่งมีความสำคัญและเป็นโรงแรมแฟลกชิพของแอคคอร์”มร.ไมเคิล กล่าวถึงเหตุผลที่ต้องมีโรงแรมในบริเวณสนามบินให้ครอบคลุมภูมิภาค
การเปิดให้บริการของสนามกอล์ฟโภคีธรา คันทรี่ กลับ นครวัต เป็นเสมือนหนึ่งการปรับโฉมของการเล่นกอล์ฟท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ ถึงแม้ว่าสนามกอล์ฟจะตั้งอยู่ในประเทศที่การเมืองผันผวนอยู่ตลอดเวลาอย่างกัมพูชาก็ตาม แต่การบริหารจัดการหรือมุมมองทางการตลาดที่เชนแอคคอร์วางไว้กลับไม่เป็นเช่นนั้น ศักยภาพและตลาดการเล่นกอล์ฟท่องเที่ยวที่มีอยู่ยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศไทย เกาหลี ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
มร.ไมเคิล บอกว่า โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัล หัวหิน รีอสอร์ทก็ประสบความสำเร็จมาแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากกรที่มีสนามกอล์ฟที่ดีหลายแห่ง เช่นเดียวกับเมืองพัทยาที่เติบโตเพราะส่วนหนึ่งมาจากการลงทุนกอล์ฟ
“ในภูมิภาคนี้แอคคอร์มีรีสอร์ทหลายแห่งที่ให้บริการสนามกอล์ฟด้วย และโภคีธรา คันทรี่ คลับก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่จะใช้มาตรฐานโซฟิเทลเข้าไปบริหารจัดการ และคาดว่าการทำตลาดคงไม่ยากนักเพราะมีนักเดินทางเข้าประเทศกัมพูชาประมาณปีละไม่ต่ำกว่า 7 แสนคน”มร.ไมเคิลกล่าว
|
|
|
|
|