|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"คลัง-พัฒนาสังคมฯ" เรียก 3 หน่วยงานธอส. การเคหะฯ บตท.ถกด่วนอุ้มบ้านเอื้ออาทร บีบธอส.ตรึงดอกเบี้ย 5.5% สวนทางดอกเบี้ยในตลาดปล่อยกู้รักษานโยบายประชานิยมกว่า 3.6 พันล้านบาท ก่อนหารือแบงก์ชาติของซอฟท์โลนรักษาฐานเสียงรากหญ้าต่อไป พร้อมให้บตท.รับพอร์ตบ้านเอื้ออาทรจากธอส.ทำซีเคียวรีไทเซชั่น "ไชยยศ" ยืนยัน ล้มโครงการโยกเงินฝากแสนล้านแล้ว
นายไชยยศ สะสมทรัพย์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้หารือกับการเคหะแห่งชาติ(กคช.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์(บตท.) และบรรษัทตลาดรองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย(บตท.) เพื่อหาทางบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งลูกค้าที่กู้เงินจากธอส.เพื่อซื้อบ้านเอื้ออาทรจากการเคหะฯ ต่างได้รับผลกระทบจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว
เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนการหารือในครั้งนี้จึงมีแนวทางให้ธอส.ตรึงอัตราดอกเบี้ยให้เป็นแบบขั้นบันไดโดยในปีแรกอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.5% ปีที่ 2 คงที่ 6.0% และปีที่ 3 คงที่ 6.5% ปีที่ 4 เป็นต้นไปเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MLR ซึ่งปัจจุบันต้นทุนดอกเบี้ยของธอส.อยู่ที่ระดับ 5.25% การตรึงอัตราดอกเบี้ยให้กับการเคหะฯ ถือว่าธอส.แบกรับภาระไว้มาก
“วงเงินที่ทางธอส.กันไว้สำหรับปล่อยกู้โครงการบ้านเอื้ออาทรที่ในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 3,636 ล้านบาท และมีจำนวนบ้านที่เหลือจำนวน 10,000 หน่วย ซึ่งถือว่าเป็นเงินจำนวนมากและธอส.ต้องแบกรับภาระต้นทุนทางการเงินที่สูง แต่เป็นการทำเพื่อสังคมให้ประชาชนหลายล้านรายมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองจึงไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องกำไรมากนัก” นายไชยยศกล่าว
นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า หากวันนี้ ธปท.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตร ระยะ 14 วัน (อาร์พี 14 วัน) เชื่อว่าธนาคารพาณิชย์จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตาม แต่ในส่วนของธนาคารนั้น จะรอดูแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ก่อน
ทั้งนี้ หากธนาคารพาณิชย์ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี เกินอัตรา 5.5% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุดของธนาคาร และทำให้เงินฝากของธนาคารไหลออก หรือสภาพคล่องลดลงเหลือ 10% จากปัจจุบัน 18% ธนาคารก็จะทำการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ เพื่อรักษาฐานลูกค้า แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุด เพื่อช่วยเหลือประชาชน ในภาวะที่ราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ที่ผ่านมาธนาคารได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี มาอยู่ที่ 5.5% ซึ่งสูงที่สุดแล้ว หากธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นมากกว่าระดับนี้แล้วทำให้เงินของธนาคารไหลออก ธนาคารก็อาจจะต้องปรับขึ้น ซึ่งธนาคารมีเวลาในการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยประมาณ 1-2 เดือน นับตั้งแต่ธปท.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันนี้”
นายวัฒนา เมืองสุข รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ประชาชนที่กู้เงินธอส.ซื้อบ้านเอื้ออาทรที่มีการปล่อยกู้ไปแล้วจะรับภาระการผ่อนบ้านงวดละ 1,500 บาท โดยวงเงินดังกล่าวเป็นดอกเบี้ยคงที่จึงไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนกลุ่มดังกล่าว แต่ประชาชนที่กำลังจะโอนบ้านภายในสิ้นปีนี้จะรับภาระดอกเบี้ยในปีแรก 5.5% ทำให้ต้องผ่อนบ้านต่องวด 1,800 บาท ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ประชาชนยอมรับได้
ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวถือเป็นการช่วยเหลือประชาชนในระยะสั้นเท่านั้นซึ่งในระยะยาวทางกระทรวงพัฒนาสังคมฯ จะเข้าหารือกับม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อของเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือ ซอฟท์โลน ให้กับธอส.เพื่อมาเฉลี่ยต้นทุนทางการเงินของธอส.ให้ต่ำลง ส่วนวงเงินที่จะขอกู้จากแบงก์ชาติยังไม่ได้กำหนดเพราะต้องรอให้ธอส.คำนวนต้นทุนทางการเงินก่อน
นายไชยยศกล่าวว่า นอกจากการตรึงดอกเบี้ยให้กับผู้กู้แล้วกระทรวงการคลังยังได้สั่งการให้บตท.ไปศึกษาข้อมูลเพื่อทำการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ หรือ ซีเคียวรีไทเซชั่น จากพอร์ตสินเชื่อบ้านเอื้ออาทรที่ธอส.ปล่อยกู้เพื่อให้ธอส.มีสภาพคล่องเพื่อปล่อยกู้ให้กับประชาชนที่ต้องการกู้เงินซื้อบ้านเอื้ออาทรได้
นางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า กคช.ได้เลิกการปล่อยกู้ให้กับประชาชนที่ซื้อบ้านจากกคช.มาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว เนื่องจากต้นทุนทางการเงินของกคช.ไม่สอดคล้องกับการปล่อยกู้ โดยกคช.ออกพันธบัตรเป็นเวลา ปี 5 ปี แต่ต้องมาปล่อยกู้ระยะยาวถึง 30 ปี สินเชื่อส่วนใหญ่จึงอยู่ที่ธอส.เป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้มูลค่าบ้านเอื้ออาทรที่เหลือที่ยังไม่มีการโอนจนถึงสิ้นปี 2553 มีมูลค่ารวม 213,000 ล้านบาท
ล้มโยกเงินฝากแสนล้านแล้ว
นายไชยยศ กล่าวยอมรับด้วยว่า แนวทางการโอนย้ายเงินนอกงบประมาณของหน่วยราชการไปยัง ธอส.และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)ไม่สามารทำได้แล้ว เนื่องจากการโอนย้ายเงินโดยที่ได้รับผลตอบแทนต่ำกว่านั้น ไม่มีหน่วยงานใดสมัครใจทำได้ ซึ่งรัฐบาลต้องวางแนวทางใหม่แทน
สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ กระทรวงการคลัง ไม่ได้มีการรายงานแนวทางการช่วยเหลือประชาชนผู้มีภาระผ่อนบ้าน โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์พร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ต่อไปอีกระยะ แต่ไม่สามารถลดดอกเบี้ยเงินกู้ได้ เพราะจะกลายเป็นการบิดเบือนกลไกตลาด เนื่องจาก ธอส.มีต้นทุนดำเนินการสูง ในขณะที่ ไม่สามารถหาแหล่งเงินต้นทุนต่ำได้ อีกทั้ง ปัจจุบัน ลูกค้า ธอส. ไม่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น แต่ลูกค้าใหม่ อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง ดังนั้น จึงต้องหาแนวทางให้ ธอส. ได้แหล่งเงินต้นทุนต่ำ
|
|
|
|
|