|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ตระกลู“โตวชิรกลุ” หุ้นส่วนกลุ่มอมรพันธ์ กรุ๊ป เจ้าของโครงการสวนสยามของไทย เร่งปั้นแบรนด์ “สิริยาฯ”หลังแยกตัวแตกบริษัทย่อยพัฒนาบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์ ล่าสุดเปิดตัว2 โครงการบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์ มูลค่ารวมกว่า 465ล้านบาท ย่านรามอินทรา จงปรับกลยุทธ์ใหม่ผลิตบ้านพร้อมอยู่ลดต้นทุนก่อสร้าง พร้อมเตรียมผุดเพิ่มอีกโครงการหากเจรจาซื้อที่ดินเพิ่มอีก 20 ไร่สำเร็จ
นายสิริวัฒน์ โตวชิรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทสิริยา โฮม แลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์อีก 2 โครงการ หลังจากที่บริษัทสิริยาฯ หยุดการพัฒนาโครงการไประยะหนึ่งเนื่องจากประสบกับปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ โดยโครงการที่บริษัทเปิดขายในปี47-48 ที่ผ่านมา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับกลางบน ราคา 5.4-10.5 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “สิริยา” ซึ่งขณะนี้สามารถปิดการขายโครงการไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนโครงการ ใหม่ที่จะมีการเปิดตัวในปีนี้ มี2 โครงการคือโครงการบ้านเดี่ยว สิริยาโฮม และโครงการทาวน์เฮาส์ สิริยาทาวน์
โดยทั้ง2 โครงการจะตั้งอยู่ในทำเล ย่านเรียบถนนรามอินทรา ใกล้กับสวนสยาม สำหรับโครงการบ้านเดี่ยวจะมีระดับราคาขายเริ่มต้นที่ 4.4 - 7 ล้านบาท จำนวน 55 ยูนิต มีพื้นที่ในการพัฒนาโครงการรวม 14 ไร่ มูลค่าขาย 300 กว่าล้านบาท ขณะนี้มียอดจองซื้อแล้ว 8 ยูนิต หรือประมาณ 15% ส่วนโครงการทาวน์เฮาส์ จะแยกออกจากโครงการพัฒนาบ้านเดี่ยวอย่างชัดเจน โดยมีพื้นที่ในการพัฒนาโครงการ 5 ไร่เศษ และจะมีการพัฒนาเป็นทาวน์เฮาส์จำนวน 62 ยูนิต ระดับราคาขายเริ่มต้นที่ 2.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 165 ล้านบาท
นอกจากการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้ง2 โครงการดังกล่าวแล้ว บริษัทยังมีแผนในการพัฒนาโครงการใหม่อีก 1 แห่ง โดยขณะนี้อยู่ในช่วงการเจรจาซื้อที่ดินเพิ่มอีก 20 ไร่ ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นของเพื่อนๆ ตั้งอยู่ติดกับที่ดินของตระกูล“โตวชิรกุล” ในย่านถนนรามอินทรา ใกล้กับโครงการของบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) โดยที่ดินของตระกลูโตวชิรกุลเองก็มีอยู่เดิม 20 ไร่ และหากสามารถตกลงราคาซื้อขายได้จะทำให้มีแลนด์แบงก์สำหรับพัฒนาประมาณ 40 ไร่ ซึ่งทำเลดังกล่าวมีศักยภาพเหมาะพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยว ระดับราคา 3-5 ล้านบาท และหากจะพัฒนาเป็นทาวน์เฮาส์ ก็สามารถพัฒนาขายในระดับราคาเริ่มต้น 2.5 ล้านบาทได้
ด้านนางสาวอารยา โตวชิรกุล กรรมการผู้จัดการร่วม กล่าวว่าจากการศึกษาและสำรวจพฤติกรรม พบว่า ตลาดบ้านเดี่ยวที่ระดับราคา3-5 ล้านบาทและทาวน์เฮาส์ระดับ 2.5 ล้านบาท เป็นที่ต้องการของลูกค้าในพื้นที่อย่างมาก และเพื่อรองรับความต้องการ บริษัทจึงแบ่งพัฒนาโครงการออกเป็น 2 ส่วน หวังสร้างทางเลือกให้แก่ลูกค้า
นอกจากนี้ เพื่อให้สร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มลูกค้า และเป็นการควบคุมต้นทุนในการก่อสร้าง บริษัท จึงปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาสินค้าใหม่ โดยหันมาพัฒนาในรูปแบบบ้านพร้อมอยู่ หรือสร้างเกือบเสร็จก่อนขาย ทั้งนี้ บริษัทจะเปิดให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการปรับเปลี่ยนฟังค์ชั่นเล็กน้อยในการตกแต่ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้ามากขึ้น ขณะเดียวกันเพื่อไม่ให้เกิดการล่าช้าในการก่อสร้างจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการตกแต่ของลูกค้า บริษัทก็ได้นำรูปแบบการก่อสร้างบ้านพร้อมอยู่เข้ามาใช้ด้วย
“ปัญหาเรื่องดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับวัสดุราคาแพงขึ้นจากการขึ้นราคาน้ำมัน ทำให้ต้องเร่งระยะเวลาในการก่อสร้างให้เร็วขึ้น เพื่อหนีต้นทุนดอกเบี้ย ขณะเดียวกันจะแบ่งเฟสของบ้านสั่งสร้างเพื่อควบต้นทุนทางด้านวัสดุก่อสร้าง ” นางสาวอารยา กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพยายยามรักษาระดับกำไรเบื้องต้นไว้ที่ระดับ30% แม้ว่าระดับราคาวัสดุก่อสร้างจะมีการขยายตัวขึ้นสูง ซึ่งเรื่องดังกล่าวบริษัทมีประสบการณ์แล้วในช่วงปลายปี48 ที่ผ่านมา โดยหลังจากที่มีการปรับขึ้นราคาสินค้า บริษัทต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงเรื่องการขอปรับราคาขึ้นไป 20-30% ตามต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่ปรับขึ้นจริง ส่วนในปีนี้ บริษัทได้มีการเซ็นสัญญาก่อสร้างล่วงหน้ากับบริษัทรับเหมาไว้แล้ว หากาคาวัสดุก่อสร้างปรับขึ้น จะไม่ส่งผลกับต้นทุนก่อสร้างมากนัก
นางอภิญญา วิศวพลานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ในช่วงแรกของการเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการนี้ บริษัทจะจัดโปรโมชันพิเศษ มอบส่วนลดสูงสุด 10% สำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านในโครงการบ้านเดี่ยว 10 ยูนิตแรก โดยจะสามารถซื้อบ้านในราคา 3.99ล้านบาท จากระดับราคาปกติ 4.4 ล้านบาท และทุกๆ 3 เดือน บริษัทจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง
|
|
|
|
|