นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส เดอะมอลล์ กรุ๊ป เปิดเผยถึงทิศทางการขยายตัวของห้างสรรพสินค้าในปีนี้ว่า
จะเป็นยุคของการปรับปรุงเปลี่ยนโฉมใหม่ เนื่องจากห้างสรรพสินค้าในปัจจุบันได้เปิดให้บริการมาจนถึงเวลาที่ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว
เพื่อให้เป็นห้างที่ทันสมัยและสดใสอยู่ตลอดเวลา
สำหรับการปรับปรุงศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นั้น ในช่วงปลายปี 2545
เดอะมอลล์ได้ปรับปรุงสาขางามวงศ์วาน รวมทั้งการเพิ่มพื้นที่ขายและพื้นที่จอดรถ
ซึ่งใช้งบประมาณไปทั้งสิ้นกว่า 300 ล้านบาท ส่วนปีนี้ สาขางามวงศ์วานก็ยังจะปรับพื้นที่เพิ่มอีก
โดยจะเพิ่มในส่วนของห้องคอนเวนชั่น ฮอลล์ ในอาคารใหม่ เพื่อให้มีพื้นที่จัดกิจกรรมมากขึ้น
ส่วนการปรับปรุงพื้นที่สาขาบางกะปินั้น นายไพบูลย์ กนกวัฒนาวรรณ รองประธานกรรมการบริหาร
เดอะมอลล์ กรุ๊ป กล่าวว่า การปรับปรุงสาขาบางกะปิในขณะนี้มีเพียงการปรับปรุงสะพานลอยคนข้ามให้ใหญ่ขึ้น
การจัดทำสะพานลอยแห่งใหม่ต่อเชื่อมเข้าห้างที่บริเวณชั้น 1 ข้างร้านเดอะพิซซ่า
ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2546 และได้พัฒนาพื้นที่บริเวณทางเชื่อมให้เป็นจุดนัดพบแห่งใหม่ของวัยรุ่น
ที่มีร้านอาหารและเครื่องดื่มคอยให้บริการ
อย่างไรก็ตาม ทางเดอะมอลล์มีโครงการที่จะขยายพื้นที่ขายและที่จอกรถให้มากขึ้น
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าของที่ดินบริเวณด้านหลังศูนย์ ซึ่งจะอยู่อีกฝั่งหนึ่งของคลองแสนแสบ
แต่การเจรจาในขณะนี้ยังไม่บรรลุข้อตกลง
สำหรับการปรับปรุงศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียม ห้างหรูระดับไฮเอนด์ของกลุ่มเดอะมอลล์นั้น
ทางบริษัทจะขยายพื้นที่บริเวณด้านหลังซึ่งเป็นที่ดินเช่าประมาณ 2 ไร่ โดยจะก่อสร้างเป็นอาคารที่จอดรถ
รองรับรถยนต์ได้ประมาณ 400 คัน นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มในส่วนของพื้นที่ขายของห้างสรรพสินค้าเข้ามายังอาคารที่จะก่อสร้างใหม่นี้ได้ด้วย
โดยกลุ่มสินค้าที่จะเพิ่มขึ้นนั้นจะเป็นสินค้าทางด้านแฟชั่น และสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค
ทั้งนี้คาดว่าจะใช้งบสำหรับก่อสร้างตัวอาคารใหม่ประมาณ 300-400 ล้านบาท (ไม่รวมค่าเช่าที่ดิน)
นางสาวศุภลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงห้างสรรพสินค้าแต่ละสาขานั้น
นอกจากการปรับปรุงบรรยากาศให้สดใสแล้ว ในด้านสินค้าก็จะปรับตำแหน่งสินค้าให้สูงขึ้น
เพื่อหลีกหนีการแข่งขันจากกลุ่มดิสเคานต์สโตร์ และเพื่อให้สอดคล้องกับการเป็น one
stop shopping complex ซึ่งจะส่งผลให้เดอะมอลล์ เป็นห้างและศูนย์การค้าที่ได้เปรียบคู่แข่งขันรายอื่น
ที่บางแห่งมีเฉพาะห้างหรือศูนย์การค้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“ห้างสรรพสินค้าที่เป็นสแตนอโลนปีนี้คงต้องเหนื่อยหนัก เพราะต้องแข่งขันกับดิสเคานต์สโตร์
ที่กลุ่มหลังพยายามจะสร้างความหลากหลาย ทั้งสินค้าที่มีราคาถูกและการสร้างพลาซ่าไว้ให้บริการลูกค้าด้วย”
นางสาวศุภลักษณ์ กล่าว
โรบินสันเตรียมพลิกโฉม3สาขา
ทางด้านห้างสรรพสินค้าโรบินสัน หลังจากที่ได้ทุ่มงบกว่า 140 ล้านบาท เพื่อปรับโฉมโรบินสัน
สาขารัชดา เป็นที่เรียบร้อยเมื่อปลายปี 2545 จนสร้างปรากฏการณ์ new look ให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว
ทั้งการตกแต่งภายนอกและภายใน ซึ่งทางผู้บริหารของโรบินสันคาดว่าน่าจะส่งผลให้ยอดขายรวมในปี
2546 เพิ่มขึ้น เพราะหลังจากที่ได้เปิดโฉมใหม่เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาพบว่ายอดขายสาขารัชดามีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า
20%
ทั้งนี้ ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน ประธานบริหารสายปฏิบัติการและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในขณะนี้โรบินสันได้ทยอยปรับโฉมสาขาอื่นๆ
ได้แก่ สุขุมวิท บางรัก และศรีราชา เพื่อให้เป็นรูปลักษณ์ใหม่เช่นเดียวกับสาขารัชดา
ซึ่งการปรับตัวในครั้งนี้จะทำให้โรบินสันเป็นห้างที่สามารถตอบสนองการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ได้
เพราะคนกลุ่มนี้เป็นตลาดใหญ่ที่เพียงพอจะให้โรบินสันเติบโตในธุรกิจค้าปลีกได้อย่างมั่นคง