Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2543








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2543
8 ปีกับมูลนิธิโตโยต้า มูลนิธิเพื่อคนไทย             
 


   
search resources

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย, บจก.




จนถึงวันนี้ ดูราวกับว่ากิจกรรมของ

มูลนิธิ "โตโยต้า แห่งประเทศไทย"

จะเป็นที่รู้จักกันทั่วไป แล้วหลายคน

แม้ไม่ได้ใช้รถโตโยต้า แต่มีส่วนร่วม

ในกิจกรรมต่างๆ ที่มูลนิธิจัดมาอย่างต่อเนื่องนับเป็นการใช้กลไกแห่งสาธารณประโยชน์ สร้างสื่อความสัมพันธ์ด้านลึกกับผู้บริโภค และตอกย้ำแบรนด์เนม ที่ได้ผลอย่างมากๆ บริษัทหนึ่งในเมืองไทย โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ปี

มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย (Toyota Thailand Foun-dation - TTF) แจ้งเกิดในเมืองไทย เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2535 ซึ่งเป็นปีที่ดำเนินงานมาครบรอบ 30 ปีพอดี และได้เก็บเกี่ยวเม็ดเงินผลกำไรไปแล้วหลายร้อยล้านบาท มีเงินทุนจดทะบียนเริ่ม แรก 30 ล้านบาท กับปณิธาน ที่สำคัญว่า จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างสังคมที่ดี ด้วยการส่งเสริมในด้านคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม และการศึกษา

ตลอดเวลา ที่ผ่านมา มูลนิธิได้จัดให้มีโครงการต่อเนื่องมากมายหลายโครงการ มีกลยุทธ์ ที่ทำให้แต่ละโครงการเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว ด้วยการทุ่มงบประมาณทำสปอตโฆษณาประชา สัมพันธ์ ที่สวยงาม มีเนื้อหา และใจความ ที่ลึกซึ้งกินใจผ่านสื่อทีวี และสื่ออื่นๆ ไปสู่ผู้คนกว่า 60 ล้านคนพร้อมๆ กัน เช่น สปอตโฆษณาของโครงการ "กองทุนหมุนเวียนนักเรียนพยาบาลในเขตจังหวัดภาคเหนือ" สปอตโฆษณา "โครงการอาหารกลางวัน หนูรักผักสีเขียว" และโครงการ "ต้นน้ำ-ต้นชีวิต"

นอกจากนั้น ยังมีโครงการ และกิจกรรมพิเศษ ที่ร่วมกับองค์กรต่างๆ อีกเช่น โครงการ "พ่อแม่อุปถัมภ์" ร่วมกับมูลนิธิ หมอเสม พริ้งพวงแก้ว โครงการ "บ้านตะวันใหม่" ร่วมกับมูลนิธิป้องกัน และปราบปรามยาเสพย์ติด รวมทั้งทุนการศึกษาต่างๆ อีกหลายทุน

วันนี้ภารกิจสำคัญอีกอย่างหนึ่งของมูลนิธิ ก็คือ ดำเนินกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้โครงการ "ตามรอยพระราชปณิธาน" ซึ่งมากมายหลายกิจกรรม

โครงการ "หนังสือมือสอง" เป็นหนึ่งในกิจกรรมนั้น ที่ ใช้เวลาประมาณ 5 เดือน ในการรวบรวมหนังสือ ที่ใช้แล้วคุณภาพ ยังดี และมีสารประโยชน์ต่อเด็กวัยเรียน โดยมอบผ่านโชว์รูมตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ 234 แห่ง ครั้งแรกผ่านไปแล้ว และยังมีการรับบริจาคไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง

ภาพของกองหนังสือมหึมา ที่ได้รับบริจาค ที่ปรากฏอยู่แทนพื้นที่โฆษณารถ ตามสื่อต่างๆ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความ ตั้งใจจริงในการทำงานของมูลนิธิ ที่แทบไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ

.เมื่อเร็วๆ นี้ ทางมูลนิธิฯ ได้จัดพิมพ์หนังสือ ที่สำคัญอีก 2 เรื่อง ซึ่งมีเนื้อหาสำคัญน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง และเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งของโครงการตามรอยพระราชปณิธาน คือ

"หนังสือเฉลิมพระเกียรติคู่มือการพัฒนาอาหาร เพื่อ เด็กในโรงเรียน และชุมชน ประสบการณ์จากการดำเนินงาน โครงการหนูรักผักสีเขียว" หนังสือเล่มนี้เป็นการประมวล และสังเคราะห์ เรียบเรียงประสบการณ์ ซึ่งมีทั้งผลสำเร็จ อุปสรรค ของหลายฝ่ายในโครงการ "หนูรักผักสีเขียว" เป็นเวลา 5 ปี มีนักเรียนในโครงการ 90,000 คน จาก 409 โรงเรียน พื้นที่ดำเนิน งาน 15 จังหวัด

ผู้บริหารโรงเรียน ผู้นำชุมชนเครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชน ที่ทำงาน เพื่อเด็กสามารถนำไปเป็นคู่มือการปฏิบัติได้ เป็นอย่างดี

อีกเล่มหนึ่ง ที่น่าสนใจอย่างมากๆ และกำลังจัดพิมพ์เป็นครั้ง ที่ 2 ในเดือนตุลาคม 2543 ที่ผ่านมา คือ "คำพ่อสอน" ซึ่งประมวลพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัสเกี่ยวกับเด็ก และเยาวชน ที่ได้ทรงพระราชทานไว้ในโอกาสต่างๆ นับตั้งแต่ทรงครองสิริราชสมบัติจนถึงปัจจุบัน

รายได้ของมูลนิธิส่วนใหญ่มาจากดอกผลของเงินฝาก ที่บริษัทโตโยต้า มอเตอร์แห่งประเทศไทย ได้ทยอยบริจาคทุกปี ปัจจุบันเป็นเงินถึง 250 ล้านบาท

อาจจะเป็นสัดส่วนการคืนกำไรแก่สังคมเพียงส่วนน้อยเมื่อเทียบกับยอดขายของโตโยต้าในแต่ละปี แต่อย่างไรก็ตามเมื่อประชาชนส่วนหนึ่งยังหวังการพึ่งพิงจากรัฐบาลไม่ได้ โครงการที่ดีๆ เช่นนี้ จึงน่าจะเป็นแบบอย่างให้กับอีกหลายๆองค์กร

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us