“ยูนิลีเวอร์” อัดโซเชียลมาร์เก็ตติ้งหวังเป็นหมัดเด็ดมัดใจผู้บริโภค นำร่อง "บรีส" อัดฉีด 60 ล้านบาท ระเบิดแคมเปญ "ลานเล่นบรีส เพิ่มพลังเรียนรู้" สร้างสนามเด็กเล่นให้โรงเรียน-ชุมชน 60 แห่งทั่วประเทศ หวังเป็นหมากเด็ด ปิดทาง "แฟ้บ-เพค" แจ้งเกิดทุกหนทาง
นายลออิค ทาร์ดี ประธานกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า แนวทางการทำตลาดกลุ่มสินค้าของยูนิลีเวอร์ที่เป็นผู้นำตลาด จะเน้นการทำโซเชียลมาร์เก็ตติ้งในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างสัมพันธ์ในชุมชนและสร้างแบรนด์ให้มีความใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น แต่จะขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสทางการตลาดด้วย ซึ่งผู้ประกอบการที่อยู่ในตลาดจะงัดขึ้นมาใช้มากขึ้นในยุคนี้
ล่าสุดเพื่อตอกย้ำบรีส ผลิตภัณฑ์ที่เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 46% จากมูลค่าตลาดรวม 11,120 ล้านบาท บริษัทฯจึงใช้โซเชียลมาร์เก็ตติ้งขึ้นมาเพื่อต่อยอดกับ ”โกลเบิ้ล แบรนด์ แคมเปญของผงซักฟอกบรีส“ กล้าเลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์ ซึ่งปีนี้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 ภายใต้แคมเปญ ”บรีสเปิดโลกการเรียนรู้” โดยทุ่มงบ 60 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญที่จัดขึ้นในประเทศไทยเป็นแห่งแรกของโลก ”ลานเล่นบรีส เพิ่มพลังเรียนรู้” ภายใต้แนวคิด ”เล่นเลอะ= เรียนรู้ เติมพลังชีวิตให้กับเด็ก
โดยเตรียมจัดสร้างสนามเด็กเล่นทั้งในโรงเรียนและชุมชน 60 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็น ภาคใต้ 10 แห่ง ภาคเหนือ 10 แห่ง,ภาคกลาง 14 แห่ง ภาคตะวันออก-ตะวันตก 11 แห่ง และอีสาน 11 แห่ง ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างเพลย์ คิวหรือฉลาดทางการเล่นให้กับเด็กไทย นอกจากนี้ยังได้เตรียมนำพนักงานระดับบริหาร จนถึงพนักงานทุกฝ่ายของยูนิลีเวอร์จำนวน 3,000 คน ในแต่ละแผนกพัฒนาตามโรงเรียนและชุมชน 60 แห่งทั่วประเทศ
“การทำโซเชียลมาร์เก็ตติ้งของบรีสจะแตกต่างกันไปแต่ละประเทศ อย่างประเทศไทยจัดแคมเปญ ”บรีสเปิดโลกการเรียนรู้” ประเทศแอฟริกาจะเน้นเกี่ยวกับโรคเอดส์ เวียดนามเน้นในเรื่องวัคซีน อินเดียเน้นในเรื่องของการล้างมือ เป็นต้น สำหรับประเทศไทยแคมเปญ”ลานเล่นบรีส เพิ่มพลังเรียนรู้”ปีนี้จัดขึ้นก็เพื่อเฉลิมฉลองในวโรกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งสำหรับชาวไทย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60ปี”
นางศันสนีย์ สุภัทรวณิชย์ รองประธานกรรมการบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือและทันตผลิตภัณฑ์ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ในสิ้นปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าหมายกลุ่มผงซักฟอก ประกอบด้วย 3 แบรนด์ บรีส โอโม และเซิฟ จะมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 1-2% จากในปีที่ผ่านมาส่วนแบ่งโดยรวมในเชิงมูลค่าคิดเป็น 64.3% แบ่งเป็น บรีส 46% โอโม18% และเซิฟ 0.3% โดยส่วนแบ่งรวมรอบล่าสุดเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 65.6% แบ่งเป็น โอโม 18% เซิฟ 0.3% และบรีส 47.3% ประกอบด้วย บรีส เอกเซล 23.1% บรีสคัลเลอร์ 10.9% บรีสเพาเวอร์ 9.9%บรีสเอกเซลโกลด์ 2.2% บรีสเมติก 0.8% และบรีสเอกเซลลิควิด 0.5%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวโน้มการแข่งขันตลาดผงซักฟอกปีนี้มีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะสงครามราคา การที่ยูนิลีเวอร์อัดโซเชียลมาร์เก็ตติ้งหนักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีเสมือนเป็นการปิดทางพีแอนด์จีที่ประกาศเตรียมบุกตลาดผงซักฟอกในไตรมาสสองของปีนี้ ภายหลังจากได้ซื้อกิจการ 4 แบรนด์จากบริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ สองในสี่แบรนด์นั้นก็คือ ผงซักฟอกแฟ้บ และผงซักฟอกไฟติ้งแบรนด์ “เพค”
ตลาดผงซักฟอกมูลค่า 11,120 ล้านบาท ปีนี้ในเชิงมูลค่ามีอัตราการเติบโต 17% ส่วนเชิงปริมาณ 188,864 ตัน โต 8% โดยตลาดผงซักฟอกสูตรเข้มข้นสัดส่วน 41.4% หรือคิดเป็นมูลค่า 4,550 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตสูงสุด คือ 39.3% และคาดว่าอีก 1 ปี ตลาดผงซักฟอกสูตรเข้มข้นจะกลายเป็นตลาดใหญ่แทนที่ตลาดผงซักฟอกสูตรมาตรฐานซึ่งมีสัดส่วน 50.8% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 5,560 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตลดลงเหลือเพียง 4.6% เนื่องจากผู้บริโภคไทยหันมาซักด้วยเครื่องซักผ้ามากขึ้น ขณะที่ตลาดน้ำยาซักผ้าสัดส่วน 7.8% หรือคิดเป็นมูลค่า 880 ล้านบาท เติบโต 13.5%
|