"ไทยแอร์เอเชีย"โอดแผนใช้ดอนเมืองหลังสุวรรณมิเปิดไม่ชัด ทำให้วางแผนการบินปี 2550 ไม่ได้ ชี้ให้ดอนเมืองใช้สำหรับเที่ยวบินในประเทศไม่มีต่อเครื่อง โลว์คอสต์ฯ เสียเปรียบ สุดท้ายแข่งกับต่างประเทศไม่ได้ ถามรัฐต้องการเป็นฮับจริงหรือ เผยจำนวนผู้โดยสารยังเติบโตตามเป้า แม้ภาวะน้ำมันแพงเน้นบริหารค่าใช้จ่ายสู้ ด้านทอท.เตรียมเรียกหารือร่วมสัปดาห์นี้

นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทย แอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทไม่สามารถวางแผนการบินในปี 2550 ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ต.ค. 2549 ได้เนื่องจากเป็นช่วงรอยการเปิดสนามบินสุวรรณภูมิเชิงพาณิชย์ ซึ่งในส่วนของสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์แอร์ไลน์) ยังไม่มีความชัดเจน และยังไม่ได้รับคำยืนยันใดๆ จาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.เกี่ยวกับการใช้สนามบินดอนเมืองหลังเปิดสุวรรณภูมิแล้วด้วย โดยมีเพียงการติดต่อว่าจะมีการเรียกสายการบินต้นทุนต่ำไปหารือในสัปดาห์นี้และเชื่อว่าหลังหารือแล้วน่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นและสามารถนำมาวางแผนการบินได้

โดยในหลักการ ไทยแอร์เอเชียเป็นสายการบินระหว่างประเทศ พยายามเปิดเส้นทางบินไปในภูมิภาค เพื่อแข่งขันกับโลว์คอสต์ฯ ของประเทศอื่น ซึ่งขณะนี้ได้ก้าวไปอีกขั้นแล้ว เพราะมีเทอร์มินอลเป็นของตัวเองแยกจากสายการบินปกติ แต่ประเทศไทยยังไม่มี และเชื่อว่าในปีหน้าในภูมิภาคจะมีโลว์คอสต์เกิดขึ้นอีก ดังนั้น รัฐต้องชัดเจนในเรื่องนี้ว่าจะแข่งหรือเปล่า และยิ่งใกล้เปิดสุวรรณภูมิก็ยิ่งต้องรีบสรุปว่าใครจะอยู่ดอนเมืองใครจะไปสุวรรณภูมิ แต่ถึงวันนี้ ตนยังไม่รู้เลยว่าถ้าไปสุวรรณภูมิแล้วอะไรอยู่ตรงไหน สำนักงาน เป็นอย่างไร

นายทัศพลกล่าวว่า ประเด็นที่จะให้ดอนเมืองรองรับเที่ยวบินภายในประเทศ ในลักษณะ point to point ไม่มีผู้โดยสารต่อเครื่องนั้น ไม่ได้ส่งผลดีต่อ ไทยแอร์เอเชีย แม้ไทยแอร์เอเชียจะมีผู้โดยสารต่อเครื่อง ในแต่ละเที่ยวบินประมาณ 5% เท่านั้น เพราะผู้โดยสารส่วนใหญ่ ที่ใช้บริการโลว์คอสต์ฯ จะดูแลเรื่องการต่อเครื่อง การซื้อตั๋วเอง แต่ถ้ามาโลว์คอสต์แล้วจะต่อเครื่องแต่ต้องเดินทางจากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิอีกต่อหนึ่งก็คงไม่มีใครใช้โลว์คอสต์ สุดท้ายก็คงต้องไปใช้สายการบินปกติ ยอมจ่ายเพิ่มอีกหน่อย เพราะสะดวกกว่า ดังนั้นสายการบินปกติที่อยู่สุวรรณภูมิจะได้เปรียบที่สุด

"ปัจจุบันไทยมีสายการบินราคาถูก 3 สาย ซึ่งส่วนใหญ่ต้องบริหารต้นทุนให้ต่ำที่สุด เพราะมีทุนไม่มากนัก จึงใช้พนักงานดูแลทั้งเที่ยวบินในประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศ รวมทั้งพยายามใช้เครื่องบินให้มากที่สุดเพื่อความคุ้มค่า ดังนั้นถ้าให้แยกพนักงานและบริการออก 2 ส่วนจะรับต้นทุนไม่ไหว ตอนนี้ผมเหมือนคนตาบอด หูหนวก เพราะไม่มีอะไรชัดเจนเลย"นายทัศพลกล่าว

นายทัศพลกล่าวว่า จำนวนผู้โดยสารใน 4 เดือนแรกปี 2549 ของไทยแอร์เอเชีย ยังเป็นไปตามเป้าคือ 1 ล้านคน โดยทั้งปีตั้งไว้ที่ 3 ล้านคน ส่วนภาวะราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อธุรกิจการบินแน่นอน แต่ยังอยู่ในระดับที่รับได้ เพราะรายได้ยังเป็นไปตามเป้าหมาย เพียงแต่ต้องพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายให้ดี

ด้านนายสมชัย สวัสดิผล ผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท.กล่าวว่า ทอท.ได้ทำหนังสือถึงสายการบิน ทั้งหมดเกี่ยวกับการใช้สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่พ.ค. 2547 และเชิญประชุมร่วมกันเมื่อ ส.ค. 2548 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดในปี 2549 และได้ให้สายการบินเริ่มเข้าพื้นที่ได้ในเดือนม.ค. 2549 แต่สายการบินส่วนใหญ่ต้องของบประมาณจากสำนักงานใหญ่ ซึ่งขณะนี้สนใจเรื่องกำหนดเปิดสุวรรณภูมิที่แน่นอน เมื่อยังตอบไม่ได้ ก็เลยไม่มีการส่งเงินมาลงทุน

ส่วนสนามบินดอนเมืองหลังเปิดสุวรรณภูมิแล้วนั้น ล่าสุด สรุปว่า สายการบินที่มีตารางบินชัดเจน และมีการต่อเครื่องจะต้องย้ายมาสุวรรณภูมิทั้งหมด ส่วนดอนเมืองจะใช้สำหรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เป็นต้น ซึ่งในสัปดาห์นี้ ทอท.จะเชิญโลว์คอสต์แอร์ไลน์มาประชุมร่วมกัน เพื่อสรุปความชัดเจนอีกครั้ง