Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน2 มิถุนายน 2549
SALEEถือสาลี่เอคอทเป็น 90%เหตุสิงคโปร์ทิ้งนโยบายขัดแย้ง             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน)

   
search resources

สาลี่อุตสาหกรรม, บมจ.




SALEE ซื้อหุ้น สาลี่ เอคอท (ประเทศไทย) เพิ่มจากเดิม 52% เป็น 90% หลังจากพันธมิตรสิงคโปร์ขายหุ้นที่ถืออยู่ 38% ออกมาทั้งหมด "สาทิส" เผยไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน พร้อมเดินหน้าหาพันธมิตรใหม่มาร่วมดำเนินงาน และยังคงเป้ารายได้ปีนี้ 500 ล้านบาท

นายสาทิส ตัตวธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (SALEE) เปิดเผยว่า ตามที่ได้ลงทุนในบริษัท สาลี่ เอคอท (ประเทศไทย) จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ 52% ซึ่ง SALLE ได้ลงขันกับ Ray Tech Acot Singapore Pte Ltd. เป็นบริษัทในกลุ่ม Acot Group ซึ่งมีโรงงานทำแม่พิมพ์อยู่ทั่วโลกกว่า 11 แห่ง เพื่อผลิตแม่พิมพ์จำหน่าย

โดยวานนี้ SALEE แจ้งการเพิ่มสัดส่วนลงทุนในบริษัทดังกล่าว โดยซื้อหุ้นสาลี่ เอคอท ฯ จากผู้ร่วมทุนเดิมกลุ่ม Ray Tech Acot Singapore Pte Ltd. จำนวน 95,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท รวม 9,500,000 บาท ส่งผลให้ SALEE มีสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้นจากเดิม 52% เป็น 90% ซึ่งได้เข้าซื้อหุ้นเมื่อ 31 พฤษภาคม 2549 โดยใช้ราคาตามมูลค่าทางบัญชี ณ วันที่ 30 เมษายน 2549 ของ บริษัท สาลี่ เอคอท ซึ่งราคาจ่ายซื้อเท่ากับ 6.8 ล้านบาท

การที่ SALEE เข้าซื้อหุ้นดังกล่าว เนื่องจากกลุ่ม Ray Tech Acot Singapore Pte Ltd. ต้องการขายหุ้นออก เนื่องจากนโยบายในการดำเนินธุรกิจไม่สอดคล้องกันกับบริษัท ซึ่งขนาดของรายการคิดเป็นประมาณ 2.42% ของสินทรัพย์สุทธิของบริษัท (ซึ่งมีจำนวน 281 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มี.ค. 2549) หรือคิดเป็นประมาณ 0.99% ของสินทรัพย์รวมของบริษัท (ซึ่งมีจำนวน 687 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2549)

อย่างไรก็ตาม การที่กลุ่ม Ray Tech Acot Singapore Pte Ltd.ได้ขายหุ้นคืน 38% ให้กับบริษัทจะไม่กระทบกับธุรกิจของบริษัท เพราะแม้จะขายหุ้น แต่ยังคงเป็นพันธมิตรต่อกัน และยังดำเนินธุรกิจร่วมกันในการหาลูกค้าให้กับ SALEE อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสิงคโปร์จะได้ผลประโยชน์เพียงแค่ค่าคอมมิชชั่นจากการหาลูกค้า ขณะที่การรับรู้รายได้จะไม่มีเนื่องจากไม่มีหุ้นในมือแล้ว

"นโยบายที่ไม่สอดคล้องกัน เราจึงซื้อคืน แต่เขาก็ยังหาออร์เดอร์ให้ หากเขามีมาเราก็จ่ายเพียงค่าคอมมิชชั่นให้เท่านั้น และขณะนี้เราได้หาคนใหม่เข้ามาบริหารในการผลิตทูลลิ่งหรือโมล ที่มีความชำนาญมากว่า 20 ปี เพื่อบริหารงานต่อจากสิงคโปร์ ซึ่งงานของเราไม่มีปัญหาในด้านการบริหารงาน " นายสาทิสกล่าว

นายสาทิสกล่าวเพิ่มว่า SALEE จะหาพันธมิตรรายใหม่ ที่จะเข้ามาร่วมดำเนินการใน บริษัท สาลี่ เอคอท (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่งและให้แน่ใจกันก่อน เพื่อที่จะไม่เกิดความผิดพลาดเหมือนที่ผ่านมา จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะเห็นภาพได้ช่วงไหน เพราะต้องขึ้นอยู่กับความพอใจของทั้งสองฝ่ายด้วย ขณะที่ยืนยันว่าจะไม่กระทบต่อรายได้ของบริษัทและจะสามารถทำรายได้ไว้ที่ระดับ 500 ล้านบาทปีนี้ เนื่องจากบริษัทอิงกับธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ที่ฟื้นตัวและดีขึ้นมาตั้งแต่ปลายปี 48

ขณะที่สำนักงานตัวแทนของ SALEE ที่จะเปิดในออสเตรเลียเมื่อปลายปีที่แล้ว ขณะนี้ยังไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากมีตัดขัดปัญหาบางอย่าง ซึ่งขณะนี้จึงทำได้เพียงส่งสินค้าไปจำหน่ายตามออร์เดอร์และยังพบว่ามีออร์เดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us