Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน2 มิถุนายน 2549
APเบนเข็มบุกตลาดคอนโดฯทุ่ม500ล้านซื้อแลนด์แบงก์ผุดต่อแบรนด์"Vogue"             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด

   
search resources

เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์, บมจ.
อนุพงษ์ อัศวโภคิน
Real Estate




"เอเซี่ยนฯ" ปรับกลยุทธ์ สู้ค่าน้ำมันแพง ทุ่มงบ500ล้านบาทเร่งซื้อที่ดินสะสมใกล้เมืองเกาะระบบราง ลุยพัฒนาคอนโดฯเจาะลูกค้าเก่า กำลังขยายครอบครัว ต้องการที่อยู่อาศัยย่าน CBD-ใกล้เมือง-ติดแนวรถไฟฟ้า หนีต้นทุนค่าครองชีพ-การเดินทางเพิ่ม พร้อมเร่งสร้างแบรนด์ "Vogue"ติดตลาด ล่าสุดนำอาคาร อาร์เอสเก่า พัฒนาเป็นคอนโดฯระดับ 3-5ล้านบาทขาย ภายใต้แบรนด์ Vogue

นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ AP กล่าวว่า แผนธุรกิจของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าคอนโดมิเนียมที่ต้องการขยายครอบครัว และต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลเดิมหรือใกล้กับทำเลเดิม โดยเฉพาะในทำเลรถเกาะแนวรถไฟฟ้าหรือระบบราง ทั้งนี้จากการที่น้ำมันปรับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่องทำให้กำลังซื้อและต้นทุนค่าครองชีพของกลุ่มลูกค้าหดตัวลง โดยเฉพาะต้นทุนในการเดินทาง ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 20% ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท หันมาลดต้นทุนค่าครองชีพ จากการเดินทางมากขึ้น โดยเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในทำเลในเมืองหรือสามารถเดินทางสู่ย่านธุรกิจกลางเมืองได้รวดเร็ว

"อย่างไรก็ดีบริษัทจะไม่เน้นพัฒนาตลาดใดตลาดหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่จะดูสภาวะตลาดเป็นหลักว่าแต่ละปีเหมาะสำหรับพัฒนาโครงการประเภทใด อย่างในช่วงปีนี้นอกจากโครงการประเภททาวน์เฮาส์ในแบรนด์บ้านกลางกรุง และบ้านกลางเมืองติดตลาดแล้ว บริษัทจึงหันมารุกตลาดคอนโดมิเนียม ในแบรนด์ Vogue (โว้ค)ที่เน้นกลุ่มตลาดระดับบนและแบรนด์ Life เน้นกลุ่มตลาดระดับกลาง ที่เป็นคนรุ่นใหม่ มากขึ้น" นายอนุพงษ์กล่าว

ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจะใช้แบรนด์ Vogue ในการเจาะกลุ่มลูกค้าในตลาดคอนโดมิเนียมเป็นหลัก โดยขณะนี้เปิดตัวโครงการคอนโดฯไปแล้ว 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการคอนโดฯ Vogue๑ สยาม ซึ่งเป็นคอนโดฯสูง 25 ชั้น จำนวน 224 ยูนิต ราคา 70,000-90,000 บาทต่อตารางเมตร หรือราคาขายประมาณ 3-4 ล้านบาท ต่อยูนิต โดยได้เปิดพรีเซลล์ไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้มียอดขายแล้วประมาณ 101 ยูนิต และคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ก.ค.49นี้ ส่วนโครงการคอนโดฯ Vogue ๑ทองหล่อ ซึ่งเป็นการนำอาคารเก่า อาร์เอส ทาวเวอร์ ที่บริษัทได้เทคโอเวอร์มาเมื่อปีที่48 มาปรับปรุงและพัฒนาเป็น โครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งคาดว่าจะมีราคาขายประมาณ 3-5 ล้านบาท โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ

ส่วนแบรนด์ Life ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา1 โครงการโดยใช้ชื่อว่าโครงการ Life @ บีทีเอส ท่าพระ เป็นคอนโดมิเนียม สูง 17 ชั้น จำนวน 600 ยูนิต ราคา 4.5 หมื่นบาทต่อตารางเมตรหรือ 1.5 ล้านบาทต่อยูนิต คาดว่าจะสามารถเปิดพรีเซลล์ได้ประมาณกลางเดือนมิ.ย.นี้

นายอนุพงษ์ กล่าวว่า สำหรับช่วงครึ่งหลังของปีนี้บริษัทได้เตรียมงบประมาณในการหาซื้อที่ดินสะสมเพื่อพัฒนาโครงการเพิ่มอีกประมาณ 500 ล้านบาท โดยเป็นที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการประเภทคอนโดมิเนียมในปีนี้ทั้งหมด จากมูลค่ารวมของโครงการใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้ทั้งหมดประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท ทั้งนี้ จากการที่บริษัทหันมาเน้นให้ความสำคัญกับโครงการประเภทคอนโดฯ จึงทำให้ปี49 นี้ บริษัทมีสัดส่วนรายของจากโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นเป็น 30% ส่วนทาวน์เฮาส์ จะมีสัดส่วนที่เท่าเดิมคือ 60% สำหรับบ้านเดี่ยว จะมีสัดส่วนรายได้จะลดลงจาก 23-24% เหลือ 10%

นอกจากนี้ ในส่วนของการจัดกิจกรรมส่งเสริมด้านการตลาด เอเซี่ยนฯ ได้ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน)หรือ SCB ในการมอบสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าวัยหนุ่มสาวที่มีเงินออกไม่มากนัก แต่ต้องการที่อยู่อาศัยในย่านชุมชนที่ยังคงความเป็นส่วนตัว สะดวกในการเดินทางและไม่ไกลจากย่านธุรกิจมากนัก ด้วยแคมเปญ "ศูนย์ มหัศจรรย์"หรือ "Amazing Zero"รับสิทธิดาวน์ 0% อัตราดอกเบี้ย 0% ตลอด 1 ปีแรก พร้อมรับข้อเสนอพิเศษอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งลูกค้าสามารถทำสัญญาและเข้าอยู่ได้ทันที หลังนั้นจะคิดอัตราดอกเบี้ย MLR-0.5

โดยโครงการของบริษัทที่เข้าร่วมแคมเปญดังกล่าวจะเป็นโครงการประเภททาวน์เฮาส์มีทั้งสิ้น 7 โครงการ ได้แก่ บ้านกลางกรุง แกรนด์ เวียนนา พระราม 3,บ้านกลางกรุง ออฟฟิศ พาร์ค ซิดนีย์ ลาดพร้าว71,บ้านกลางกรุง ออฟฟิศ พาร์ค ซานฟรานซิสโก สุขุมวิท-บางนา,บ้านกลางเมือง บริติซ ทาวน์ ศรีนครินทร์,บ้านกลางเมือง แกรนด์ เดอ ปารีส รัชดา,บ้านกลางเมือง ลูเซิร์น สุขุมวิท และบ้านกลางเมือง มอนติคาร์โล รัชวิภา ซึ่งบริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายจากแคมเปญ "Amazing Zero" ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.49 นี้ไว้ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มียอดขายแล้ว 200 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us