“เป๊ปซี่” หวั่นปัจจัยลบกระทบยอด อัดฉีด 100 ล้านบาท โหนกระแสบอลโลก 2006 เต็มรูปแบบ เพิ่มความถี่อัดกิจกรรม-โปรโมชัน โกยยอดขายโต 10% ตั้งแต่ไก่โห่ ล่าสุดทุ่ม 20 ล้านบาทระเบิดนวัตกรรใหม่”เป๊ปซี่ โกลด์ “ พร้อมดึงสองสุดยอดวงการ “เธียรี่ อองรี” สุดยอดนักเตะดาวซัลโวทีมชาติฝรั่งเศส คลอเดีย ชิฟเฟอร์ สุดยอดนางแบบผมทองชาวเยอรมัน มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ สิ้นปีแชร์ขยับเป็น 64%

นายชาลี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เป๊ปซี่ โคล่า ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดในปีนี้มีปัจจัยลบเกิดขึ้นมาก ไม่ว่าจะเป็น ราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง รวมทั้งภาวะการณ์แข่งขันตลาดเครื่องดื่มก็มีความรุนแรง โดยเฉพาะเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ดังนั้นในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 บริษัทจึงได้ทุ่มงบเกือบ 100 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ”เป๊ปซี่ ฟุตบอล 2006” อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเมื่อเทียบกับฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา บริษัทใช้งบน้อยมาก อีกทั้งยังไม่ได้จัดกิจกรรมอย่างเต็มรูปแบบเหมือนปีนี้ โดยการอัดกิจกรรมที่ถี่และแรงมากขึ้น ก็เพื่อกระตุ้นยอดขายให้ได้เต็มที่ในช่วงฟุตบอลโลก ก่อนที่ 6 เดือนหลังจะมีปัจจัยลบอื่นๆตามมา อาทิ น้ำท่วม เป็นต้น

ในช่วงฟุตบอลโลกพฤติกรรมของผู้บริโภค ส่วนใหญ่จะดูบอลไปและมีการดื่ม-กิน ดังนั้นบริษัทจึงฉวยในช่วงนี้อัดแคมเปญหนัก นำร่องด้วยการเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา นำนักเตะระดับโลก 11 คน ได้แก่ โรนัลดินโญ่ , เดวิด เบคแฮม กัปตันทีมชาติอังกฤษ รวมทั้ง แฟรงค์ แลมพาร์ด มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ อีกทั้งยังได้เปิดตัวโปรโมชั่นแจกรถยนต์โตโยต้ายาริสจำนวน 14 คัน ภายใต้ชื่อ “โชควิ่งหา ฝาเป๊ปซี่” และล่าสุดเปิดตัวนวัตกรรมใหม่เป๊ปซี่ โกลด์ 3 ขนาด ได้แก่ บรรจุภัณฑ์กระป๋อง ขวดขนาด 1.25 ลิตร โดยมีไฮไลต์ที่บรรจุภัณฑ์ขนาด 500 มล.ซึ่งเป็นรุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น เป็นน้ำสีทองมีจำนวนจำกัด

สำหรับการเปิดตัวเป๊ปซี่ โกลด์ บริษัทได้ทุ่มงบ 20 ล้านบาท โดยวางแผนการสื่อสารการตลาดอย่างครบวงจร พร้อมกันนี้ยังได้เปิดภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ เธียรี่ อองรี สุดยอดนักเตะดาวซัลโวทีมชาติฝรั่งเศส และคลอเดีย ชิฟเฟอร์ สุดยอดนางแบบผมทองชาวเยอรมัน มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสะท้อนแนวคิดของการกล้าทดลองสิ่งใหม่ให้กับผู้บริโภค นอกจากนี้การเปิดตัวเป๊ปซี่ โกลด์ยังเป็นการนำร่องเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่”ขวดกริป”ขนาด 500 มล.ซึ่งเป็นการปรับบรรจุภัณฑ์ใหม่ในรอบ 6-7 ปี ทั้งนี้เพื่อให้ผู้บริโภคมีความสะดวกสบายการถือมากขึ้น หลังจากนั้นจะทยอยปรับเปลี่ยนขนาดอื่นๆในอนาคต จากปัจจุบันบริษัทได้ลงทุนเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์ไปแล้ว

“การเปิดเป๊ปซี่โกลด์ ในไทยถือว่าเป็นประเทศแรกๆในทั่วโลก และคาดว่าในเอเชียจะเปิดนวัตกรรมตัวใหม่นี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ในเวียดนาม เป็นต้น ทั้งนี้ปัจจัยหลักที่บริษัทเลือกเปิดตัวเป๊ปซี่ โกลด์จะคำนึงถึงความนิยมกีฬาฟุตบอลของคนในแต่ละประเทศนั้นๆ อย่างไรก็ตามการเปิดตัวเป๊ปซี่ โกลด์ บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 10 ล้านขวด”

นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับการจัดกิจกรรมอย่างเต็มรูปแบบของเป๊ปซี่ในช่วงฟุตบอลโลกปีนี้ ตั้งเป้าว่าจะกระตุ้นยอดขายโต 10% จากปกติเป๊ปซี่ จะมีอัตราการเติบโตเพียงแค่ 6-7% อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับฟุตบอลโลก 4 ปีที่แล้ว เป๊ปซี่มีอัตราการเติบโต เพียง 6-7% ล่าสุดหลังจากที่บริษัทโหมจัดกิจกรรมอย่างหนักตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น 0.5% หรือเป็น 63.5% และคาดว่าสิ้นปีนี้ส่วนแบ่งของเป๊ปซี่จะเพิ่มเป็น 64%

สำหรับภาพรวมตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 30,000 ล้านบาท แบ่งเป็นน้ำดำคิดเป็นสัดส่วน 75% หรือราว 2,3000 ล้านบาท ปีนี้คาดว่ามีอัตราการเติบโต 3-4% เนื่องจากได้รับอานิสงส์ฟุตบอลโลก ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงปกติตลาดน้ำดำมีอัตราการเติบโต 1-2% เท่านั้น