Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2539
วีระ - กนกวิภา ใครคือทายาทคนต่อไป ?             
โดย ไพเราะ เลิศวิราม
 


   
search resources

สหวิริยาโอเอ
กนกวิภา วิริยะประไพกิจ
วีระ อิงค์ธเนศ




ใครล่ะ จะเป็นทายาททางธุรกิจคนต่อไปที่จะแทนที่แจ็ค ?

นั่นเป็นคำถามที่ยากจะหาคำตอบ

"สหวิริยาจะต้องเดินต่อไปได้ แม้จะไม่มีผม เวลานี้ผมก็มีผู้อำนวยกลุ่มธุรกิจที่มีฝีมือทั้งนั้น" แจ็คสะท้อนความคิดของเขา

ในช่วงต้นปีทีแล้ว แจ็คได้พยายามสร้าง "ระบบ" ขึ้นมาในสหวิริยาด้วยการปรับแต่งองค์กรใหม่ แบ่งสายธุรกิจออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ เพื่อสร้างความชัดเจนและถ่ายโอนอำนาจให้กับผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจแต่ละสายเป็นผู้รับผิดชอบไป

แต่การปรับเปลี่ยนในครั้งนั้นแม้จะได้รับผลในเชิงโครงสร้างแต่เอาเข้าจริงแล้ว ในเชิงปฏิบัติ แจ็คก็ยังต้องเป็นผู้วางแนวทางธุรกิจ การตัดสินใจในเรื่องสำคัญ ๆ ยังต้องขึ้นอยู่กับเขา

ไม่สำคัญเท่ากับว่า ไม่มีผู้บริหารคนใดที่โดดเด่นเพียงพอที่จะขึ้นแท่นเป็นคนต่อไป

วีระ อิงค์ธเนศ และกนกวิภา วิริยประไพกิจ น่าจะเป็นเพียงสองทายาทที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษมากที่สุด ไม่ได้เป็นเพียงแค่มือปืนรับจ้าง เพราะเขาและเธอต่างอยู่ในฐานะทายาทของผู้ถือหุ้น

วีระ เป็นน้องต่างมารดาของแจ็ค มิน ชุน ฮู เป็นทายาทคนเล็กของอุดม อิงค์ธเนศ ในขณะที่กนกวิภา เป็นบุตรสาวคนรองของเสี่ยวิทย์ และเป็นหลานของคุณหญิงประภา ซึ่เงป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลที่เข้ามาในธุรกิจคอมพิวเตอร์

เรียกว่าทั้งสองมีภาษีในเรื่อง "แบ็ค" หนุนหลังไม่แตกต่างกันนัก

วีระนั้นจบการศึกษาทางด้านออกแบบคอมพิวเตอร์มาจากสหรัฐอเมริกา รับผิดชอบงานธุรกิจซอฟท์แวร์ของไทยซอฟต์มาตลอด ก่อนจะได้รับการโปรโมตจากแจ็คให้ขึ้นมารับผิดชอบธุรกิจกิจการไอทีเทอร์มินัล ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของสหวิริยา โอเอ ในขณะที่กนกวิภาจบการศึกษาทางด้านเศรษฐศาสตร์และเรียนรู้งานในสหวิริยามาตั้งแต่การเป็นพนักงานขาย อุปกรณ์ต่อพ่วง จนกระทั่งมาบุกเบิกธุรกิจทางซิสเต็มอินทริเกรชั่น (เอสไอ) ให้กับสหวิริยา โอเอ ก่อนจะได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการของกลุ่มนี้

หากเปรียบหน้าที่การงานแล้ว ภารกิจที่วีระได้รับมอบหมายอาจดูโดดเด่น และหนักอึ้งมากกว่า เพราะไอทีเทอร์มินัลเป็นกลุ่มธุรกิจดั้งเดิมที่ทำรายได้สูงสุดถึง 50% ให้กับสหวิริยาโอเอ แม้จะฐานะที่ดี และมีสินค้าที่โดดเด่นในมือหลายตัว แต่ก็ต้องเผชิญความผันผวนที่มาจากการแข่งขัน และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ทำให้ผลกำไรลดลงทุกขณะ

ในขณะที่กลุ่มเอสไอที่กนกวิภารับผิดชอบมีขนาดเล็กกว่าแต่ก็เป็นธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มที่ดี โดยเฉพาะผลกำไรที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวของวีระนั้น เป็นคนสนุกสนาน ไม่ชอบปัญหาความขัดแย้ง ทำให้กลายเป็นคนไม่กล้าตัดสินใจ ไม่เฉียบขาด ผิดกับแจ็ค ผู้เป็นพี่ชายอย่างสิ้นเชิง

"ต้องยอมรับว่า คุณวีระเป็นคนน่ารัก ใจดี คนรอบข้างจะรัก แต่ด้วยนิสัยเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าจะได้ผลที่ดีในการทำธุรกิจ เพราะเวลาเกิดปัญหาขัดแย้งกันขึ้น คุณวีระจะไม่กล้าตัดสินใจอะไรเลย" แหล่งข่าวเล่าให้ "ผู้จัดการรายเดือน" ฟัง

แจ็คเองก็ตระหนักถึงจุดเหล่านี้ นอกจากจะมอบหมายให้เหล่าขุนพลทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้แล้ว แจ็คยังต้องติวเข้มน้องชายคนนี้อยู่ตลอดเลา

ในขณะที่กนกวิภา อาจมีภาษีดีกว่าในเรื่องของการเรียนรู้งานด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะความโดดเด่นในการติดต่อกับบรรดา "ผู้ใหญ่" ที่เป็นลูกค้าสำคัญ ๆ เช่น ธนาคาร ที่กนกวิภาทำได้ดีพอควร แม้ว่าจะต้องอาศัยแจ็คในการเปิดและปิดการขายกับลูกค้ารายสำคัญ ๆ ทุกครั้งก็ตาม

แต่ความสุขในชีวิตการทำงานของกนกวิภาในวันนี้ไม่ได้อยู่ที่สหวิริยาโอเอเท่านั้น ในอีกมุมหนึ่งเธอยังมีกิจการขายเสื้อผ้าชั้นดีจากฝรั่งเศส "เทียร์รี่ มูแกลร์" ธุรกิจส่วนตัวที่เธอและพี่สาวได้ร่วมลงขันกันเปิดกิจการนี้มาตั้งแต่ปีที่แล้ว

กนกวิภา ยืนยันว่า งานส่วนใหญ่ของเธอยังอยู่ที่สหวิริยามากกว่า 90% เพราะเธอใช้เวลาเพียง 2-3% ในการทำธุรกิจที่ชอบนี้เท่านั้น

เวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ใครจะเป็นทายาทคนต่อไประหว่างวีระ หรือกนกวิภา หรือดึงมืออาชีพภายนอกเข้ามา ?

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us