Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์29 พฤษภาคม 2549
2 ยักษ์ น้ำผลไม้พร้อมดื่ม เปิดเกมชิงบัลลังค์ เฮลตี้ดริ้ง กินรวบครบเซกเมนต์             
 


   
www resources

โฮมเพจ มาลี
โฮมเพจ ทิปโก้

   
search resources

ทิปโก้ฟูดส์, บมจ.-TIPCO
มาลี เอ็นเตอร์ไพรส์, บจก.
Marketing
Soft Drink




ทิปโก้ มาลี เปิดศึกชิงความเป็นผู้นำตลาดน้ำเพื่อสุขภาพครบวงจร พาเหรดออกน้ำผลไม้พร้อมดื่ม 100% เครื่องดื่มธัญพืช และน้ำดื่มบรรจุขวด พร้อมออกกลยุทธ์กระตุ้นการบริโภค กิจกรรมการตลาดต่างรูปแบบ สร้างแบรนด์เข้ายึดครองใจลูกค้าเป้าหมายในทุกกลุ่ม

การเตรียมพร้อมรบ จากเวทีการแข่งขันในตลาดน้ำผลไม้พร้อมดื่ม ที่ขยายขอบเขตออกไปสู่ตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพประเภทอื่นที่ออกจากตลาดน้ำผลไม้ของทั้ง 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ทิปโก้ Re-Branding ภายใต้แนวคิด "Tipco Nutritional Innovation" หรือ ทิปโก้ โภชนาการก้าวล้ำ และมาลี ก็ได้ Re-Branding ตามหลังมาอย่างกระชั้นชิดในปีที่ผ่านมา ด้วยแบรนด์คอนเซ็ปต์ใหม่ว่า "Loving Life with Nature's Secrets" สะท้อนความเป็นปราชญ์แห่งธรรมชาติ ที่พร้อมมอบชีวิตที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภค

ทั้งนี้การปรับตัวของผู้นำตลาดน้ำผลไม้พร้อมดื่มในเวลานั้น ถือเป็นช่วงที่การแข่งขันมีการปรับตัวจากการแข่งขันด้วยตัวสินค้าไปสู่การแข่งขันด้วย แบรนด์กับแบรนด์ เพราะหากเปรียบมวย จุดขายและความหลากหลายของสินค้าระหว่างค่ายทิปโก้ และมาลีไม่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทำให้การสร้างความแตกต่างโดยแบรนด์คอนเซปต์กลายเป็นทางเลือกที่มีศักยภาพที่สุด

กลยุทธ์กินรวบตลาด

สำหรับการแข่งขันของทั้ง 2 ค่ายต่างก็มีการขยายฐานออกสินค้าเซกเมนต์ใหม่มาทำคลาดอย่างต่อเนื่องโดยการเป็นแบรนด์ที่มีสินค้าครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งก็เป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันทำให้ทิปโก้ ขึ้นเป็นแบรนด์ผู้นำของตลาดน้ำผลไม้พร้อมดื่ม

ทิปโก้ มีสินค้าออกมาตอบสนองลูกค้าครบทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้ 100 % กลุ่มพาสเจอร์ไรส์ ภายใต้แบรนด์ทิปโก้ สควีช และน้ำผลไม้ 100 % กลุ่มยูเอชที ในรสชาติต่างๆที่ตอบสนองความต้องการลูกค้าทุกกลุ่ม ขณะที่แบรนด์ ทิปโก้ คูล น้ำผลไม้ 40% และเตเต้ จับตลาดน้ำผลไม้ 25%

ส่วนค่ายน้ำผลไม้ มาลี ก็มีผลิตภัณฑ์ออกมาทำตลาดครบทุกเซกเมนต์ด้วย โดยใช้แบรนด์มาลีเป็นแบรนด์หลัก ในตลาดน้ำผลไม้ 100 % กลุ่มพาสเจอร์ไรส์ และมาลีทีน จับตลาดน้ำผลไม้ 40% และน้ำผลไม้มาลี ทรอปิคอล จับตลาดน้ำผลไม้ 25%พิศักดิ์วลี เศวตนันทน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มาลี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด กล่าวว่า

"ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ "มาลี" มีความชัดเจนด้านกำลังการผลิต และมีความสามารถในการเป็นผู้รับจ้างผลิต และผลิตสินค้าได้ในทุกกลุ่มเครื่องดื่ม ทำให้บริษัทมีความหลากหลายในสินค้าภายใต้แบรนด์ "มาลี"ทั้งน้ำนมข้าวโพด น้ำผลไม้ และการทำตลาดน้ำดื่ม บรรจุขวดผ่านบางช่องทางการขาย โดยสัดส่วนธุรกิจของมาลี แบ่งเป็น น้ำผลไม้ 55% น้ำธัญพืช 30% ผลไม้กระป๋องและน้ำดื่ม 20 % "

ขณะที่ตลาดรวมของเครื่องดื่มธัญหาร ที่มีโอกาสเติบโตได้อีกในอนาคตตามกระแสความห่วงใยสุขภาพของคนไทยในปัจจุบัน และมีมูลค่าการเติบโตสูงถึง 26% จาก 187 ล้านบาท เป็น 236 ล้านบาท ในปี 2548 ก็เป็นกลุ่มสินค้าดาวเด่นใหม่ ที่ทั้งทิปโก้และมาลี ได้ขยายฐานลงมาทำตลาด ภายใต้แบรนด์ "เนเจอร์อัพ" และ "มาลี ไอคอร์น" สำหรับการทำตลาดเครื่องดื่มธัญหารในปัจจุบันนั้น วิวัฒน์ ลิ้มศักดากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทิปโก้ฟู้ดส์(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) บอกว่า "เนเจอร์อัพ"มีส่วนแบ่งตลาดขยับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จากปีแรกที่ 10% เป็น 29% ในปีที่ผ่านมา

นอกจากนั้น หลังจากที่ ทิปโก้ ได้เข้าไปซื้อธุรกิจของน้ำแร่ธรรมชาติออร่า จากบริษัท ธรณีพิพัฒน์ ด้วยงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท โดยจะมีการรีแบรนด์ ปรับโฉมภาพลักษณ์ใหม่ให้สดใส ทันสมัยภายในปีนี้

ทิปโก้ กระตุ้นตลาดครบ 5 สีใน 1 วัน

ความเคลื่อนไหวในตลาดน้ำผลไม้พร้อมดื่ม ของค่ายทิปโก้ ซึ่งเป็นผู้นำตลาดอันดับหนึ่ง ครองส่วนแบ่ง 48% ของตลาดรวมน้ำผลไม้ 100% มูลค่า 2 พันล้านบาท ล่าสุดได้เปิดตัวคอนเซปต์ "5 Colors A Day ทานผักผลไม้ครบ 5 สี "การออกแคมเปญครั้งนี้ ทิปโก้ต้องการมุ่งเน้นเพิ่มยอดการบริโภคของตลาดรวมน้ำผลไม้ ที่กำลังอยู่ในกระแสที่คนไทยรักสุขภาพ

การสร้างพฤติกรรมให้ผู้บริโภคทานผักผลไม้ครบให้ 5 สี จะทำการตลาดผ่านแนวทาง Educate ให้ความรู้กับผู้บริโภคให้ทราบถึงประโยชน์ของการบริโภคผักผลไม้ให้ครบ 5 สี ทั้งสีแดง สีม่วง สีเขียว สีส้ม หรือสีเหลืองและสีขาวอย่างเป็นประจำในหนึ่งวัน สุขภาพดีทุกวัน โดยมีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อครบวงจร

สำหรับการเปิดเกมรุกครั้งใหม่ของ "ทิปโก้" ด้วยการออกแคมเปญ "ทานผักผลไม้ครบ 5 สี " เป็นกลยุทธ์การตลาดที่ต้องการกระตุ้นให้มีการบริโภคผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์"ทิปโก้" ซึ่งมีความหลากหลายและเป็นจุดแข็งที่ทำให้ค่ายนี้กวาดแชร์ในตลาดไปครอบครองได้

รุกพาสเจอร์ไรส์ 100 %กลยุทธ์ขยายฐานมาลี

แนวทางการทำของน้ำผลไม้มาลีในปีนี้ จะรุกหนักในตลาดน้ำผลไม้100% กลุ่มพาสเจอร์ไรซ์มากขึ้น หลังจากที่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การจัดกิจกรรม ภายใต้โครงการตามหาสาวมั่นมาลี 100 % มีส่วนช่วยผลักดันให้ น้ำผลไม้มาลี 100 % มียอดขายเพิ่มขึ้น

สำหรับการขยายตลาด ในตลาดน้ำผลไม้ พาสเจอร์ไรซ์100% ล่าสุด มาลี ก็ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ 2 ชนิดน้ำองุ่นแดง และน้ำแอปเปิ้ลเขียว รวมถึงยังได้เตรียมเปิดตัวอีก 1 รสชาติในไตรมาสที่ 3 ซี่งเป้าหมายของการรุกตลาดครั้งนี้ จะส่งผลให้มาลี มีส่วนแบ่งตลาดน้ำผลไม้ พาสเจอร์ไรซ์ 100% เพิ่มขึ้น 20% จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาด 15%

ทั้งนี้น้ำผลไม้พาสเจอร์ไรส์ 100 % นับว่าเป็นตลาดที่กำลังร้อนแรงและมีสีสันน่าจับตามากที่สุด เนื่องจากเป็นตลาดใหม่ และตลาดรวมมีอัตราการเติบโต 18-20% อย่างต่อเนื่องในช่วง 3-4 ปีติดต่อกัน รวมถึงมีจุดขายถึง 2 ด้านคือ ความเป็นความเป็นน้ำผลไม้ 100 % ที่มีคุณค่าประโยชน์ มีมูลค่าตลาดรวม 2 พันล้านบาท และจุดขายด้าน ความสดใหม่ของน้ำผลไม้ประเภทพาสเจอร์ไรซ์ มีมูลค่าตลาดรวม 400 ล้านบาท

พิศักดิ์วลี บอกว่า การทำตลาดน้ำผลไม้พาสเจอร์ไรส์ 100 % เป็นการมองหาตลาดใหม่ ที่เน้นการทำตลาดกับลูกค้าเป้าหมายหลักคือ กลุ่มวัยทำงาน ที่มีพฤติกรรมในการเลือกเครื่องดื่มเพราะต้องการคุณค่าประโยชน์ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผู้บริโภคกลุ่มเดิมที่เติบโตขึ้น และมีการ Switching ปรับพฤติกรรมจากการดื่มน้ำผลไม้มาลี ทีน ยูเอชที เพื่อความสดชื่น ดับกระหายเป็นหลัก

ขณะที่การทำตลาดน้ำผลไม้ยูเอชที 40% ซึ่งมีราคาต่างกับน้ำผลไม้พาสเจอร์ไรซ์ ประมาณ 15% จะมีการขยายการทำตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ เช่น กลุ่มเด็กคนรุ่นใหม่ โดยเข้าไปจัดกิจกรรมในมหาวิทยาลัย และตั้งเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดยูเอชทีจากเดิม 20% เป็น 22% ในสิ้นปีนี้

" ตลาดน้ำผลไม้ 40% ปีนี้มีอัตราการเติบโตประมาณ 5-10% โดยคุณค่าหลักที่ผู้บริโภคต้องการความสดชื่นจากสินค้า ส่งผลทำให้ตลาดนี้มีผู้เล่นเข้ามาในตลาดมากทั้งแบรนด์ใหม่ๆ หรือการ Switching ไปหาเครื่องดื่มกลุ่มอื่นๆที่ตอบสนอง Benefit เดียวกันเป็นไปได้ง่าย"

สัดส่วนตลาดน้ำผลไม้พร้อมดื่ม
- น้ำผลไม้ 25 % 2,500 ล้านบาท
- น้ำผลไม้ 100% 2,000 ล้านบาท
- น้ำผลไม้ 40 % 500 ล้านบาท
มูลค่าตลาดรวม 5,000 ล้านบาท

ตลาดรวมน้ำผลไม้พร้อมดื่ม 100%
- ยูเอชที 1600 ล้านบาท
- พาสเจอไรซ์ 400 ล้านบาท

ส่วนแบ่งตลาดน้ำผลไมพร้อมดื่ม 100%
- ทิปโป้ 48%
- ยูนิฟ 21%
- มาลี 17%
- อื่นๆ 14%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us