โนเบิลแตกหน่อรีเทลใหม่ “โนเบิลรีมิกซ์” บนทำเลทองกลางสุขุมวิท ผสมคอนโด รีเทล และสำนักงานในที่เดียว หลังชิมลางปั้นรีเทลแห่งแรก “เพลย์กราวด์” จนฮิตติตตลาด คนแห่จองคอนโดล้นหลามกว่า 50% ตั้งแต่ยังไม่เห็นของจริง เพราะมั่นใจในทำเลหลังจากรอกันมา 3 ปี

ในที่สุดโนเบิลก็ได้เผยโฉมโครงการใหม่ล่าสุดบนที่ดินผืนงาม 5 ไร่ ปากซอยสุขุมวิท 36 ใกล้ทองหล่อออกมาให้ได้เห็นกันแล้ว ภายใต้ชื่อ “โนเบิลรีมิกซ์” ซึ่งหมายถึงการผสมผสานใหม่ เป็นการผสมผสานเอาคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน และธุรกิจรีเทลเข้ามาไว้ด้วยกันในที่เดียว บนตึกสูง 33 ชั้น ในอาณาพื้นที่รวมกว่า 9,000 ตารางเมตร

ที่มาที่ไปของโครงการนี้ ธงชัย บุศราพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ดินของโครงการนี้ได้ซื้อไว้ 3 ปีแล้ว และเห็นว่าเป็นทำเลที่มีศักยภาพในการทำธุรกิจสูงมาก สามารถลงทุนได้หลายรูปแบบ จึงต้องคัดเลือกรูปแบบที่เหมาะสมที่สุด รวมทั้งต้องรอดูจังหวะตลาดที่เหมาะสมด้วย

โครงการโนเบิลรีมิกซ์นี้ได้จัดทำรายการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว และขออนุญาตก่อสร้างก่อนผังเมืองฉบับใหม่ปี 2549 จะออกมา

สำหรับที่ตั้งของโครงการตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ปากซอยสุขุมวิท 36 นับได้ว่าเป็นทำเลทองที่น่าจับตามอง เพราะอยู่บนทำเลธุรกิจ ติดถนนใหญ่และสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ สามารถเดินทางได้สะดวก จึงกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดทั้งในเแง่ของผู้ที่ต้องการที่พักอาศัยใจกลางเมือง ผู้ที่มองหาทำเลที่ตั้งสำนักงาน และทำเลทำร้านค้า

โนเบิลจึงได้ผนวกเอาความต้องการ 3 อย่างมารวมไว้ในที่เดียวภายใต้แนวคิด “The inspiring condo and creative lifestyle mall” รูปแบบของโครงการโนเบิลรีมิกซ์จะเป็นอาคาร 33 ชั้น แบ่งเป็นพื้นที่รีเทล 4 ชั้น จำนวน 9,000 ตร.ม. คอนโด 28 ชั้น จำนวน 504 ยูนิต และพื้นที่สำนักงานให้เช่า 6 ชั้น จำนวน 6,000 ตร.ม. มีทางเชื่อมระหว่างอาคารไปยังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสทองหล่อโดยตรง รวมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท

สำหรับคอนโดนับว่าเป็นทางถนัดของโนเบิล เนื่องจากเคยมีประสบการณ์จากโครงการก่อนหน้านี้มาแล้ว อาทิโครงการในปีนี้ ได้แก่ โนเบิล แอมเบียนส์ สารสิน และโนเบิล แอมเบียนส์ ร่วมฤดี ที่ชูจุดต่างจากคู่แข่งในพื้นที่ด้วยการลดขนาดห้องลง หวังเพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าระดับกลางที่คู่แข่งในพื้นที่มองข้ามไป รวมทั้งมีจุดเด่นที่เป็นทรัพย์สินประเภทขายขาดซึ่งต่างจากโครงการอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงที่เป็นลักษณะการเช่าระยะยาว ผู้เช่าไม่มีกรรมสิทธิ์ขาด จึงไม่เปิดทางที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อเก็บเพื่อการลงทุนได้

ตัวโครงการโนเบิลรีมิกซ์นี้ก็นำจุดเด่นเรื่องขนาดของห้องที่ไม่ใหญ่ สามารถตั้งราคาได้ไม่แพง จึงขายได้ง่าย และความหลากหลายของห้องชุดมาให้เลือกด้วยทั้งแบบสตูดิโอ ขนาด 36-44 ตร.ม. แบบ 1-3 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 41-183 ตร.ม. ราคา 82,000 บาทต่อ ตร.ม.และห้องเพนท์เฮาส์ ขนาด 418 ตร.ม. มี 3 ห้องนอนพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ราคา 47 ล้านบาท ซึ่งมีเพียงยูนิตเดียวเท่านั้น

สำหรับกระแสตอบรับจากลูกค้า ธงชัยบอกว่าได้ทดลองนำโครงการไปเสนอกับลูกค้าเก่าของโนเบิลก่อนที่จะเปิดพรีเซลจริงในเดือน ก.ค. พบว่าได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก สามารถสร้างยอดขายได้ 260 ยูนิต หรือ 1,023 ล้านบาทภายในวันเดียว ทั้งที่ยังไม่มีห้องตัวอย่าง รวมทั้งตอนนี้ตัวโครงการก็ยังไม่ได้เริ่มต้น โดยจะเริ่มต้นก่อสร้างในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งธงชัยยอมรับว่า “ต้องเรียกว่าสำหรับโครงการนี้เราขายกระดาษจริงๆ เป็นเพราะลูกค้ามั่นใจมากในทำเลนี้ว่าจะเติบโตได้อย่างแน่นอน”

โดยในสัดส่วนของลูกค้าที่มาจองมีทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและให้เช่าอยู่ที่ 50:50 และบริษัทได้ตั้งกฎห้ามเปลี่ยนมือใบจอง เพื่อป้องกันการซื้อเก็งกำไร และให้ข้อเสนอผ่อนดาวน์สูงถึง30% เป็นเวลา 30 เดือนจากปรากฎการณ์ยอดขายถล่มทลายในวันเดียว ทำให้โนเบิลเตรียมปรับเป้ายอดขายใหม่จากเดิมตั้งไว้ 2,700 ล้านบาท มาเป็น 3,000 ล้านบาท และคาดว่าจะได้ผลตอบแทนจากโครงการโนเบิลรีมิกซ์ 7-8% ต่อปี

ส่วนปัญหาภาวะราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินงานคาดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา เนื่องจากโนเบิลมีสถานะทางการเงินที่มั่นคง สามารถสร้างยอดขายในไตรมาสแรกเพิ่มจากเดิม 27% มีกำไรสุทธิ 18% รวมทั้งมีภาวะหนี้ที่ลดลงจาก 2,020 ล้านบาท เหลือ 1,584 ล้านบาท

ในส่วนของพื้นที่รีเทลของโครงการนี้ก็เป็นที่น่าจับตามองเช่นกัน เพราะนับว่าเป็นรีเทลแห่งที่ 2 ของโนเบิลหลังจากก่อนหน้านี้ได้ปั้นเพลย์กราวด์ ซอยทองหล่อให้กลายเป็น Lifestyle Mall แห่งแรกของเมืองไทยได้สำเร็จ

สำหรับแนวคิดการทำรีเทลแห่งที่ 2 นี้ยังไม่เปิดเผยออกมา แต่คาดว่าโนเบิลคงจะต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อสร้างจุดต่างจากเจ้าถิ่นอย่างดิ เอ็มโพเรี่ยมให้ได้ โดยพื้นที่รีเทลของโนเบิลรีมิกซ์มีจำนวน 9,000 ตร.ม. คิดค่าเช่า ตร.ม. ละ 1,500 บาทต่อเดือน ส่วนอาคารสำนักงานคิดค่าเช่า ตร.ม. ละ 700 บาทต่อเดือน และจะบริหารพื้นที่ทั้งหมดเอง โดยจะเปิดขายพื้นที่ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า

สำหรับธุรกิจรีเทล และพื้นที่สำนักงานให้เช่าถือเป็นขยายทางเดินใหม่ที่ชัดเจนของโนเบิลที่ต้องการจะขยายรายได้จากการขายเพียงคอนโดและบ้านเพียงอย่างเดียว มาเป็นการขายควบคู่กับการให้เช่า เพราะมองว่าในระยะยาวจะต้องมีรายได้จากการเช่ามาหล่อเลี้ยงธุรกิจด้วยน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจรีเทลแห่งใหม่ของโนเบิลว่ามีแนวโน้มที่จะชูจุดยืนไปในทิศทางเดียวกับที่เพลย์กราวด์เคยทำมาก่อน เพราะดูจากการวาง Positioning ที่โนเบิลวางไว้ว่า “จะสร้างความแปลกใหม่ด้วยดีไซน์ที่ตอบสนองความต้องการ และรูปแบบการใช้ชีวิตของโลกยุคปัจจุบัน”

ฉะนั้นคงจะต้องจับตาดูกันให้ดีว่าคราวนี้รีมิกซ์จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ๆ ในตลาดได้ออกมาอย่างไร และจะเดินตามรอยความสำเร็จของเพลย์กราวด์ได้หรือไม่