Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2539
"พระนครยนตรการ" ยุคใหม่ จีเอ็มดันสุดตัว ใครว่าลดบทบาท             
 


   
search resources

เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย), บจก.
พระนครยนตรการ, บจก.
บรรเทิง จึงสงวนพรสุข




การประกาศจับมือกันระหว่าง พระนครยนตรการ และเจเนอรัล มอเตอร์ส แอคเซปแตนซ์ คอร์ปอเรชั่น (จีเอ็มเอซี) เพื่อรุกเข้าสู่ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในเมืองไทย เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2539 นั้น ไม่อาจตีความได้เพียงด้านใดด้านหนึ่ง

กิจกรรมทางธุรกิจที่เกิดขึ้นครั้งนี้ มีทั้งความหมายด้านบวก และด้านลบที่มีต่อประนครยนตรการ เป็นความหมายที่ไปกันคนละทิศคนละทางในทันที แล้วแต่ว่าใครจะคิดอย่างไร

แต่คำถามที่ว่า จีเอ็มจะเอาอย่างไรกับพระนครยนตรการ ? มาวันนี้เริ่มเห็นคำตอบชัดขึ้น ชัดขึ้นทุกที

ยิ่งไปกว่านั้น เส้นทางจากนี้ ถ้าพิจารณาให้ดี จะเห็นว่าจีเอ็ม มีแต่ให้ พระนครยนตรการมีแต่รับเลยทีเดียว

เจเนอรัล แอคเซปแตนซ์ (ประเทศไทย) คือบริษัทร่วมทุนที่เกิดขึ้น และนับเป็นกิจกรรมต่อเนื่องอันแรก ภายหลังจากที่ จีเอ็ม ประกาศการลงทุนในเมืองไทย เมื่อ 11 มิถุนายน 2539 ด้วยโครงการโรงงานประกอบรถยนต์โอเปิลที่เน้นการส่งออกเป็นหลัก มูลค่าการลงทุนขั้นต้นสูงถึง 18,750 ล้านบาท กำลังการผลิต 100,000 คันต่อปี โดยจะเริ่มส่งสินค้าออกจากโรงงานได้ในปี 2542

กิจกรรมแห่งความร่วมมือครั้งแรก เพื่อรองรับโครงการใหญ่ จะมองว่าเป็นพัฒนาการของพระนครยนตรการ ภายใต้วิถีที่จะต้องปรับปรุงตัวเอง พัฒนาขึ้นมาให้ทันกับการที่จีเอ็ม ทุ่มการลงทุนเข้ามาในเมืองไทย ก็อาจจะมองอย่างนั้นได้ โดยไม่ต้องขัดเขิน

เพราะก่อนหน้านี้ ธวัชชัย จึงสงวนพรสุข ทายาทคนสำคัญ และมีบทบาทอย่างมากคนหนึ่งในองค์กรพระนครยนตรการ และค่อนข้างแต่ตอนว่าเขาผู้นี้จะเป็นผู้สืบทอดกิจการในส่วนนี้ต่อจาก บันเทิง จึงสงวนพรสุข ได้เคยกล่าวไว้อย่างชัดเจนว่า องค์กรแห่งนี้จะต้องปรับปรุงตัวเองอีกมาก ต้องปรับโครงสร้างการบริหาร และแน่นอนว่าจะต้องขยายงานในส่วนต่าง ๆ ที่จะเกื้อหนุนธุรกิจหลักที่ดำเนินการอยู่ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการรุกเข้าสู่ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์

การร่วมมือครั้งนี้ถ้ามองในแง่ดี ก็เท่ากับว่าเป็นก้าวสำคัญของพระนครยนตรการ ไม่ว่าจะเป็นโอกาสทางธุรกิจ แหล่งลงทุนที่จะเข้ามาเกื้อหนุนและเสริมกลยุทธ์ของกิจการในเครือไม่เฉพาะการจำหน่ายรถยนต์โอเปิลเท่านั้น

บริษัทสินเชื่อ เช่าซื้อรถยนต์แห่งใหม่นี้ ทางจีเอ็มคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2539 นี้ และจะเป็นการดำเนินการในวงกว้าง ไม่เจาะจงเฉพาะรถยนต์ยี่ห้อของจีเอ็มเท่านั้น

"เอเชียเป็นตลาดที่มีความสำคัญต่อยุทธศาสตร์ธุรกิจของจีเอ็มและจีเอ็มเอซี เนื่องเพราะที่นี่ยังมีลู่ทางการค้าอีกมากมายมหาศาล ซึ่งรอการสำรวจเจาะตลาด เฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ซึ่งเราพบว่า กลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการซื้อรถยนต์พร้อมบริการสินเชื่อกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง" คำกล่าวของ ริชาร์ด เจ. เอส. เคลาท์ รองประธานบริหาร ฝ่ายปฏิบัติการต่างประเทศของจีเอ็มเอซี

ดูจากเป้าหมายของจีเอ็มแล้ว ก็ไม่ได้ต่างไปจากพระนครยนตรการ ปัญหาที่เกิดขึ้น และเป็นอุปสรรคในการเติบโตของตลาดโอเปิลในไทย จีเอ็มรู้แค่ไหน พระนครยนตรการน่าจะรู้ซึ้งมากกว่าด้วยซ้ำ

แต่เหตุที่พระนครยนตรการ ดูเหมือนว่าไม่ทำอะไรเพื่อแก้ไขสถานการณ์นั้น น่าจะเพราะศักยภาพขององค์กรที่มีจำกัด ซึ่งจีเอ็มก็น่าจะเข้าใจในจุดนี้ การรุกเข้ามาในส่วนของงานสินเชื่อเพื่อเสริมการเปิดตลาดรถยนต์โอเปิดในไทย ด้วยการร่วมทุนกันครั้งนี้จึงน่าจะเข้าใจได้ว่าอย่างน้องจีเอ็มกับพระนครยนตรการก็จะยังเกื้อกูลกันต่อไป

มองถึงการเข้ามาของจีเอ็มเอซีแล้ว ทำให้มั่นใจไม่น้อยว่าตลาดรถยนต์โอเปิลหรือทุกยี่ห้อภายใต้สังกัดจีเอ็ม จะต้องโลดแล่นไม่เบาทีเดียว เพราะศักยภาพขององค์กรแห่งนี้ยิ่งใหญ่ระดับโลก และจัดว่าเป็นสถาบันการเงินรายใหญ่ของโลก โดยจีเอ็มถือหุ้นเต็ม และนับจากเปิดดำเนินการมา จีเอ็มเอซี ได้ให้บริการสินเชื่อไปแล้วรวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 830,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเป็นการปล่อยสินเชื่อสำหรับรถยนต์และรถบรรทุกไปแล้วกว่า 136 ล้าคัน

การเข้ามาครั้งนี้มีเป้าหมายชัดเจนว่า จะใช้กลยุทธ์การปล่อยสินเชื่อเพื่อรุกขยายตลาดให้รถยนต์โอเปิล ได้เติบโตในเวลาอันรวดเร็ว การจัดสร้างฐานกำลังด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งจีเอ็มมั่นใจว่า จะเป็นปัจจัยหลักประการหนึ่งในอนาคต ในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค และการต่อสู้ระหว่างผู้ค้าจะรุนแรงขึ้นจึงต้องเร่งสร้างให้เสร็จสิ้นก่อน

อนาคต ผู้บริหารได้กล่าวอย่างชัดเจนว่า ลูกเล่นจากตรงนี้ในการเปิดตลาดรถยนต์โอเปิลยังมีอีกมาก เพียงแต่รอให้ถึงโอกาสจึงจะกล่าวได้เต็มปากเต็มคำกว่านี้

เอาทุนตรงนี้มารองรับหรือรับประกันราคารถยนต์โอเปิลไม่ให้ตกต่ำเกินไป หรืออาจรวมถึงยี่ห้ออื่นในเครือของพระนครยนตรการ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะคุยกันลงตัวแค่ไหน ปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยเท่าไรก็ได้ แม้กระทั่งอัตราดอกเบี้ยติดลบ (ผ่อนเร็วราคาลดมาก ผ่อนช้าราคาเท่าปกติ) ก็อาจได้ถ้าจะบูมโอเปิลจริง ๆ รับเทิร์นรถด้วยราคาที่เต๊นท์มือสองมองว่าทำไปก็เจ๊ง อีกหลากหลายวิธีที่จะนำเงินมาลงเพื่อหวังมาบูมตลาดตรงนี้

และยิ่งจีเอ็มทุ่มลงมาสุดตัวมากเท่าใด ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ต้องกังวลมากขึ้นเป็นเงาตามตัว สำหรับพระนครยนตรการ

เพราะแม้ดูเหมือนว่าจะเป็นประโยชน์กับพระนครยนตรการ แต่เมื่อตลาดโอเปิลมีแนวโน้มจะเติบโต จากสิ่งที่จีเอ็มกำลังทุ่มลงไปเรื่อย ๆ มันก็เป็นของแน่นอนว่า เจ้าของก็ย่อมอยากจะทำเองขึ้นมาบ้าง

ตรงนี้คือเหตุสำคัญ ที่ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่คิดกันว่าสถานภาพของพระนครยนตรการกำลังคลอนแคลน

ถ้าดูจากโครงสร้างการร่วมทุนในบริษัทสินเชื่อที่เกิดขึ้นแล้ว จะเห็นว่าจีเอ็มต้องการเข้ามาคุมบังเหียนด้วยตัวเองมากกว่า โดยการร่วมทุนครั้งนี้ จีเอ็มเอซีถือหุ้นถึง 75% และให้พระนครยนตรการถือหุ้นเพียง 25% เท่านั้น

โครงสร้างการร่วมทุนลักษณะนี้ น่าเป็นห่วงพระนครยนตรการอยู่มาก เพราะแน่นอนว่าบทบาทย่อมลดลงเป็นลำดับเพราะมีแนวโน้มว่า จีเอ็มจะไม่หยุดแค่บริษัทรอบข้างเท่านั้น

มีความเป็นไปได้มาก ที่ว่าจีเอ็มจะจัดโครงสร้างทางด้านการตลาดเสียใหม่ โดยจีเอ็มเข้ามาเปิดบริษัททางด้านการตลาดด้วยตัวเอง ซึ่งจะรวมงานขาย บริการ และอะไหล่ไว้ด้วยกัน โดยจีเอ็มบริหารงานเองหมด ส่วนพระนครยนตรการนั้นน่าจะเปลี่ยนสถานะเป็นเพียงผู้ถือหุ้นในบริษัทใหม่นี้ และมีสภาพเป็นซูเปอร์ดีลเลอร์ ดูแลเขตกรุงเทพมหานครไปพร้อม ๆ กัน

ประเด็นที่น่าจะเกิดขึ้นนี้ ก็คือภาพด้านลบที่มองได้จากกิจกรรมทางธุรกิจที่เกิดขึ้น

แม้แต่ บรรเทิงเอง ในฐานะประธานบริษัทพระนครยนตรการ ก็เหมือนว่าจะยอมรับไปแล้วกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น

มีการพูดคุยเรื่องดังกล่าวกับทางจีเอ็มไปบ้างแล้ว หากมีการสรุปผล ทางจีเอ็มจะเป็นผู้แถลงการณ์เอง นี่คือคำกล่าวของบรรเทิง

เส้นทางเดินของพระนครยนตรการ แม้ดูจะมืดสลัวเสียเหลือเกินในยามนี้ อนาคต บทบาทด้านการตลาดย่อมลดลงแน่นอน

แต่กระนั้นจีเอ็มก็ใช่ว่าจะไร้น้ำใจกับคู่ค้าที่อยู่ร่วมกันมากว่า 10 ปี เพราะผลตอบแทนที่พระนครยนตรการจะได้รับจากโครงสร้าใหม่ที่จะเกิดขึ้นนี้ มั่นใจได้ว่าไม่น้อยกว่าที่เคยได้ในแต่ละปี เพราะบทบาทลดลง แต่เข้าไปร่วมในกิจกรรมที่ใหญ่โตขึ้นมาก หลากหลายมากขึ้น

ประการสำคัญถ้าพิจารณาให้ถ่องแท้จะเห็นว่าจีเอ็มได้หาทางออก และเตรียมการณ์ให้กับพระนครยนตรการไว้อย่างดีทีเดียว

"พระนครยนตรการ จะร่วมกับทางซัพพลายเออร์จากอเมริกาที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนป้อนให้กับจีเอ็มรายหนึ่ง ตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนขึ้นในไทย เพื่อป้อนโรงงานของจีเอ็ม" บรรเทิง กล่าวถึงบทบาทใหม่ของพระนครยนตรการ

โครงการโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์นี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดกับผู้ร่วมทุน แต่ก็มาถึงขั้นซื้อที่ดินไว้แล้วจำนวน 400 ไร่ ที่จังหวัดระยอง และคาดว่าการลงทุนขั้นต้นจะใช้เงินประมาณ 500 ล้านบาท

"การทำธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ถือเป็นก้าวแรกของบริษัทที่จะเข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์แบบครบวงจรมากขึ้น และนอกจากซัพพลายเออร์ที่กล่าวถึงแล้ว หลังจากนี้จะยังมีรายอื่น ๆ อีกที่เราจะร่วมทุนเพื่อผลิตชิ้นส่วนป้อนให้กับทางจีเอ็ม" บรรเทิงกล่าว

การผันตัวเองไปเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์เพื่อป้อนโครงการของจีเอ็ม แน่นอนว่าอยู่ในสาระการเจรจาระหว่างพระนครยนตรการ และจีเอ็ม ในการที่จีเอ็มจะเข้ามารุกตลาดอย่างเต็มตัวด้วยตัวเองครั้งนี้

การยอมลงบทบาทจากหน้าฉาก ไปอยู่หลังฉากของพระนครยนตรการครั้งนี้ นับได้ว่าเป็นความสำเร็จไม่น้อยทีเดียวและครั้งนี้อาจจะเป็นการเริ่มต้นที่ดี ที่ทำให้ขุมข่ายแห่งนี้มีอนาคตในระยะยาวต่อไป

ที่สำคัญ ตลอดเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา พระนครยนตรการเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวที่มีข้อด้อยในเรื่องของอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วน เพราะไม่เคยเข้ามาลงตรงนี้อย่างจริงจัง

แต่กระนั้น จีเอ็ม ก็ยังให้โอกาสและอาจคาดการณ์ได้ว่า พระนครยนตรการจะได้บทบาทในส่วนของการผลิตชิ้นส่วนมาทดแทนบทบาทด้านการตลาด ซึ่งศักดิ์ศรีไม่ได้ด้วยไปกว่ากัน

ให้ขนาดนี้แล้ว ยังจะว่าจีเอ็มทอดทิ้งพระนครยนตรการ ก็ดูจะเกินไปละ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us