Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2539








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2539
ระวังให้ดีเอเซอร์จะบุกบ้าน             
 


   
search resources

เอสวี-เอเซอร์
แฮรี่ หยาง
Computer




"แม้ว่าคอมแพคจะเป็นผู้ครองตลาดอยู่ แต่ในครึ่งปีหลังเอเซอร์จะขึ้นเป็นผู้นำในตลาดให้ได้" คำกล่าวที่เป็นเสมือนคำมั่นสัญญาของ แฮรี่ หยาง กรรมการผู้จัดการ เอสวี-เอเซอร์ คนล่าสุดที่มารับภารกิจแทน ลี กิม ฮวด ที่ครบวาระไปตั้งแต่เดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา

เอเซอร์จัดเป็นพีซีที่ได้รับความสำเร็จยี่ห้อหนึ่งในตลาดโลก โดยเฉพาะในแถบเอเชียที่เอเซอร์มียอดขายเป็นอันดับ 2 ตามติดคอมแพคไม่ทิ้งห่างเท่าใดนัก

มีการประเมินกันว่า ผลสำเร็จของเอเซอร์คือภาพลักษณ์ และช่องทางจัดจำหน่ายที่เอเซอร์จะใช้วิธีผูกสัมพันธ์อยู่กับพันธมิตรท้องถิ่นเพียงรายเดียว จึงทำให้การพัฒนาธุรกิจต่อเนื่อง ต่างจากค่ายสหรัฐอเมริกาที่มักจะแต่งตั้งตัวแทนขายจำนวนมากและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

การบุกตลาดของเอเซอร์ในไทยก็เช่นกัน เอเซอร์ผูกมิตรอยู่กับสหวิริยาโอเอ พันธมิตรเก่าแก่มานานปี จนเมื่อ 3 ปีที่แล้วจึงได้ร่วมลงขันกันก่อตั้งเป็นบริษัท เอสวี-เอเซอร์ขึ้นมาเพื่อทำตลาดเครื่องพีซีเอเซอร์ในไทย รวมทั้งขยายตลาดในอินโดจึน

ปัจจุบันเอเซอร์ได้ถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 3 ของพีซีแบรนด์เนมที่ครองตลาดในไทย โดยมีคอมแพค และไอบีเอ็ม ครอบครองตำแหน่งที่ 1 และ 2 ซึ่งครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนเอเซอร์เคยก้าวขึ้นครองอันดับ 1 ของตลาด แต่หลังจากนั้นเอเซอร์ต้องถูกถอนออกจากตำแหน่งจนกลายเป็นอันดับ 3 มาเกือบ 2 ปีมาแล้ว

แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงกรรมการผู้จัดการของเอสวี-เอเซอร์จะเป็นเรื่อปกติของผู้บริหารที่อยู่จนครบวาระแล้วต้องผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันแต่ครั้งนี้คงไม่ใช่เรื่องธรรมดา

แหล่งข่าวในสหวิริยากล่าวว่าผู้บริหารสหวิริยาบินไปทาบทามแฮรี่ หยางให้เข้ามารับตำแหน่งนี้ในไทย เนื่องจากการแข่งขันของพีซีนั้นรุนแรงมาก เพราะเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงเร็ว และราคาที่ลดต่ำลง ผู้ประกอบการรายใดบริหารเรื่องต้นทุนคลังสินค้า หรือปรับตัวได้ไม่ทันกับสภาพการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคงต้องประสบปัญหาแน่

ยิ่งไปกว่านั้นเป้าหมายต่อไปของเอเซอร์ คือ การบุกขยายตลาดคอนซูเมอร์ ซึ่งกำลังมีบทบาทอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากการเติบโตของตลาดโฮมยูสในปัจจุบัน จึงจำเป็นต้องมีผุ้บริหารที่มีประสบการณ์ และมองการขยายตลาดทางด้านนี้ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากตลาดทั้งสองส่วนนี้มีความแตกต่างกัน

การเปลี่ยนแปลงกรรมการผู้จัดการเอสวี-เอเซอร์ จึงเป็นแผนการรับมืออย่างหนึ่งของสหวิริยา เพราะด้วยประสบการณ์ และสไตล์การบริหารในเชิงรุกของแฮรี่ เหมาะสมอย่างยิ่งกับสภาวะตลาดพีซีคอมพิวเตอร์ของเมืองไทยในเวลานี้

"เดิมตลาดของเอเซอร์จะเป็นกลุ่มลูกค้าประเภทองค์กรธุรกิจ ซึ่งมร.ลี กิม ฮวด มีความเหมาะสมและทำได้ดี แต่เป้าหมายของเราต่อจากนี้ คือ การขยายตลาดคอนซูเมอร์ จึงต้องอาศัยมุมมองตลาด และสไตล์การบริหารที่แตกต่างไป ซึ่งมร.แฮรี่ หยางนั้นจะเหมาะสมมากกว่า" ผู้บริหารของสหวิริยาสะท้อนแนวคิด

แฮรี่ หยางนั้น ร่วมงานกับเอเซอร์มาเป็นเวลาหลายปี ตำแหน่งล่าสุดก่อนบินมารับตำแหน่งในเอสวี-เอเซอร์ คือ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทเอเซอร์ออสเตรเลีย ซึ่งเขาเคยสร้างผลงานด้วยการผลักดันให้เอเซอร์ขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตลาดธุรกิจค้าปลีก ( รีเทล บิสซิเนส ) ในเวลาเพียงปีเดียว

นโยบายที่แฮรี่เลือกใช้ในการขยายตลาดของเอเซอร์เริ่มต้นด้วยการเพิ่มตัวแทนขาย และแบ่งช่องทางจัดจำหน่ายออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ประกอบไปด้วย คอมเมอร์เชียล จะเน้นลูกค้าประเภทองค์กรธุรกิจ สินค้าหลักของกลุ่มนี้จะประกอบไปด้วยเครื่องเดสก์ทอป เซิร์ฟเวอร์ และเวิร์คสเตชั่น โดยจะมีตัวแทนประเภทวาร์ ซึ่งจะขายเครื่องพร้อมกับโซลูชั่น

ตลาดส่วนที่สอง คือ คอนซูเมอร์โปรดักส์ จะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าทั่วไป บ้านพักอาศัย สินค้าหลักจะประกอบไปด้วยเครื่องพีซี เอเซอร์ รุ่นแอสไปร์ เป็นสินค้าหลักในกลุ่มนี้ ซึ่งจะเน้นช่องทางประเภท โฮลเซลเลอร์จำนวน 3 แห่ง และจะวางขายซูปเปอร์สโตร์ของสหวิริยาโอเอ ที่กำลังจะเปิดในปลายปีนี้

ตลาดที่สาม คือ คอมโพเนนซ์ หรือ จะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบเครื่องพีซี อาทิ มาร์เตอร์บอร์ด, คีย์บอร์ด ซีดี-รอม จะมุ่งไปที่กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบพีซีภายในประเทศ ซึ่งแฮรี่มองว่าลูกค้ากลุ่มนี้เริ่มมีบทบาทเพิ่มขึ้น

จะเห็นได้ว่า เอเซอร์ได้เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการเมตัวแทนจำหน่าย แทนที่จะยังรักษาจำนวนเท่าเดิม เพราะการขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ทำให้เอเซอร์จำเป็นต้องหาแขนขามากขึ้น

แฮรี่กล่าวว่าจากนโยบายดังกล่าวจะส่งผลทำให้เอเซอร์สามารถมุ่งไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะส่งผลให้เอเซอร์สามารถขยายไปยังตลาดใหม่ ๆ ได้ดีขึ้น

ในมุมมองของแฮรี่ เขาเชื่อว่า ความรวดเร็วในการออกสินค้าด้วยราคาที่ต่ำ และบริการที่กว้างขวางและรวดเร็วจะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะทำให้เอเซอร์สามารถแข่งขันในตลาดพีซีคอมพิวเตอร์ รวมทั้งการขยายไปสู่ตลาดคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์

ด้วยเหตุนี้เองหลังจากวางตลาดเอเซอร์แอสไปร์ ซึ่งถือเป็นการบุกตลาดคอนซูเมอร์อย่างเต็มตัว เอเซอร์จึงมีกำหนดวางตลาดคอมพิวเตอร์รุ่นเอเซอร์เบสิกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ในไทย ซึ่งจะเป็นประเทศที่สองหลังจากเปิดตัวในไต้หวันไปแล้ว

การวางตลาดเอเซอร์เบสิก นับเป็นความพยายามในการขยายส่วนแบ่งตลาดในส่วนของคอนซูเมอร์อย่างจริงจัง เนื่องจากเอเซอร์เบสิกได้ถูกออกแบบมาเพื่อเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้คอมพิวเตอร์ที่ไม่ต้องการเครื่องราคาแพง ซึ่งจะวางจำหน่ายในราคา 14,900 บาท (ราคานี้เฉพาะซีพียู และคีย์บอร์ด ไม่รวมจอมอนิเตอร์ )

เอเซอร์เบสิก สามารถใช้เป็นทั้งเน็ตเวิร์ค คอมพิวติ้ง (เอ็นซี) หรือ ใช้แบบเดี่ยว ๆ (สแตน อโลน) สามารถใช้ร่วมกับทีวีได้ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายหลักของเอเซอร์จะมุ่งไปที่กลุ่มผู้ใช้อินเตอร์เน็ต, สถาบันการศึกษา, และกลุ่มองค์กรที่ใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์แลน

อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เอเซอร์ได้เตรียมวางตลาดพีซีรุ่นใหม่ เพื่อมาชนกับพีซีประเภทเลียนแบบ (โคลน) ที่ประกอบในประเทศที่กำลังมาแรง ครองตลาดลูกค้าประเภทโฮมยูสอยู่ในเวลานี้

จะเห็นได้ว่า เอเซอร์ใช้กลยุทธ์ในการวางสินค้า เพื่ออุดช่องว่างในตลาดดดยเฉพาะในตลาดคอนซูเมอร์ที่ผู้ผลิตพีซีท้องถิ่นครอบครองตลาดส่วนใหญ่ พร้อม ๆ ไปกับการใช้วิธีให้คู่แข่งกลายมาเป็นคู่ค้าด้วยการขายชิ้นส่วนให้กับผู้ผลิตพีซีท้องถิ่นไปในตัว

และด้วยแนวคิดที่ว่า ตลาดคอนซูเมอร์โปรดักส์ จะผูกติดและทำงานร่วมกับพีซีอย่างแยกไม่ออก ในไม่ช้านี้เอเซอร์มีกำหนดวางตลาดโทรศัพท์มือถือระบบจีเอสเอ็ม เครื่องเล่นซีดี และทีวี หรือพีซีสำหรับเด็กภายใต้ยี่ห้อเอเซอร์อันเป็นส่วนหนึ่งของการแตกขยายไปสู่คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มตัว

"อีก 5 - 10 ปีข้างหน้า ตลาดคอนซูเมอร์จะเติบโตเป็น 2 เท่าของตลาดคอมเมอร์เชียล ดังนั้นสิ่งที่เราจะมุ่งต่อไปก็คือตลาดทางด้านนี้" แฮรี่ หยาง

แน่นอนว่า การเปลี่ยนแปลงของเอสวี-เอเซอร์ในครั้งนี้ จึงมีความหมายอย่างมากต่อทั้งสหวิริยา และเอเซอร์ ซึ่งเวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า สิ่งที่เอเซอร์เดินมานั้นถูกทางหรือไม่

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us