C o m p a n y P r o f i l e
บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH)
เป็นที่คาดหมายว่าบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) จะเป็นบริษัทที่มีบทบาทอย่างมากในแผนการลงทุนขยายเครือข่ายการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมในหลายโครงการที่กฟผ.เคยวางไว้ตั้งแต่ในช่วงของการแปรรูปกิจการ ก่อนต้องล้มเลิกไปตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด
RATCH มี กฟผ.เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 45% ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2543 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2542 ที่เห็นชอบให้ระดมทุนจากภาคเอกชนในโรงไฟฟ้าราชบุรี โดยการขายหุ้นของบริษัทฯ ในตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ปัจจุบัน RATCH มีสินทรัพย์รวมกัน 69,414 ล้านบาท โดยมีทุนจดทะเบียน 14,500 ล้านบาท โดยมีบริษัทในเครือ 2 แห่ง คือบริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าราชบุรี และบริษัทราชบุรีพลังงาน จำกัด ที่รับผิดชอบการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก และโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก
RATCH มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมปีละ 4,500 เมกะวัตต์ จากการลงทุนในหลายโครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนและโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมราชบุรี ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 3,645 เมกะวัตต์, โรงงานไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมไตรเอนเนอจี้ ด้วยกำลังการผลิต 350 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมราชบุรีเพาเวอร์ กำลังการผลิต 350 เมกะวัตต์
รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งมีกำลังการผลิตประมาณ 153.75 เมกะวัตต์ โดยเมื่อราวกลางปีก่อน RATCH ได้ใช้เงินราว 2,350-2,820 ล้านบาท เข้าถือหุ้น 25-30% ในเซาท์อีสท์เอเชีย เอนเนอร์จี ผู้ดำเนินโครงการเขื่อนน้ำงึม 2 โดย RATCH หวังจะใช้โครงการนี้เพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า เพื่อขยายรายได้และเพิ่มความมั่นคงทางการเงินให้แก่บริษัทฯ
บริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี มีกลุ่ม ช.การช่าง เป็นถือหุ้นอยู่ 51% เป็นผู้ดำเนินการและมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้ กฟผ.เป็นเวลา 25 ปี โดยคาดหมายว่าโครงการนี้จะเริ่มเดินเครื่องผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ในปลายเดือนมกราคม 2556
นอกจากนี้ RATCH ยังมีโครงการพัฒนาด้านการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และธุรกิจด้านพลังงานอื่นๆ เช่นโครงการโรงงานผลิตแอลกอฮอล์ ซึ่งบริษัทราชบุรีพลังงาน ได้ร่วมลงทุน 15% ในบริษัทสยามเอทานอล เอ็กซ์ปอร์ท จำกัด เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตแอลกอฮอล์ในจังหวัดระยอง มีกำลังการผลิต 30 ล้านลิตรต่อปี โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการผลิตได้ในปลายปีนี้
โครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำมันดิบ (Flare Gas) โดยเมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา บริษัทราชบุรีพลังงาน บริษัท ปตท.สยาม และบริษัท ปตท.สผ.ได้ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำมันดิบจากแหล่งประดู่เฒ่า เอ จังหวัดสุโขทัย เพื่อใช้เป็นแหล่งเชื้อเพลิงในโครงการผลิตไฟฟ้าที่มีขนาดกำลังการผลิต 2 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตไฟฟ้าได้ตั้งแต่ปี 2550
|