|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ มิถุนายน 2549
|
|
ตลอดระยะเวลา 26 ปีที่ชำนาญ เมธปรีชากุล คลุกคลีอยู่ในวงการการตลาด เขาถือเป็นผู้หนึ่งที่มีบทบาทในการบุกเบิกและสร้างแบรนด์สำคัญๆ หลายแบรนด์ทั้งแบรนด์เกิดใหม่ และแบรนด์ใหญ่ที่ต้องการผู้มีฝีมือมาช่วยทำตลาด
ชำนาญเป็นคนที่ low profile ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคมพอๆ กับตลาดการสื่อสาร แต่กลับโดดเด่นในตลาดรีเทลชนิดหาตัวจับยากคนหนึ่งเลยทีเดียว นั่นเป็นเพราะเขานั่งกุมบังเหียนการตลาดของห้างสรรพสินค้าที่ติดอันดับต้นๆ ของประเทศอย่างเดอะมอลล์ กรุ๊ป มาตลอดระยะเวลา 17 ปี
หลังจบจากโรงเรียนเทพศิรินทร์พร้อมเพื่อนร่วมรุ่นอย่างสุวิทย์ คุณกิตติ อดีต รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที เขาเข้าเรียนต่อด้านการตลาดที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ตามคำขอ ของพี่ชาย นับเป็นนักศึกษารุ่นที่ 8 ของมหาวิทยาลัย ทั้งๆ ที่สอบเอนทรานซ์ติดคณะ เทคนิคการแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นั่นเป็นการศึกษาระดับสุดท้ายต่างจากผู้บริหารระดับสูงด้านการตลาดหลายคนที่ "ผู้จัดการ" ได้เคยพบปะและพูดคุย ซึ่งมัก มีใบประกาศยาวเป็นหางว่าวติดตามมาด้วย
"ในสมัยก่อนผมจบแรกๆ ผมไปยืนขายผ้าอนามัยยี่ห้อเซลล็อกซ์ในงานกาชาด บางครั้งก็เดินทางไปขายกับหน่วยรถ ตระเวน ไปตามจังหวัดต่างๆ หอบกล่องผ้าอนามัยเดินไปขายตรงให้กับร้านขายของชำไปเรื่อย นับเป็นงานแรกๆ ที่ผมเชื่อว่าเป็นแนวทางที่นักการตลาดรุ่นเก่าได้เปรียบกว่านักการตลาด รุ่นใหม่ เพราะเราต้องไปสัมผัสลูกค้าด้วยตัวเรา เองที่เรียกว่า "Smell your customer" หรือแม้แต่ลงไปที่ห้างแล้วยืนดูว่าผู้หญิงคนหนึ่ง เลือกผ้าอนามัยอย่างไร สมัยก่อนผ้าอนามัย มักมีแบรนด์ ผู้หญิงจะเลือกจับแบรนด์ของตนเร็วมาก แล้วเดินหนีออกไปทันที ไม่ได้ยืน เลือกแบรนด์มากมายเหมือนในปัจจุบัน" ชำนาญเล่าถึงประสบการณ์การทำงานด้านการตลาดแบบจริงๆ จังๆ ครั้งแรกของเขากับ "ผู้จัดการ"
วาไรตี้ด้านการตลาดของชำนาญมาจากการทำการตลาดกับแบรนด์ที่หลากหลาย มาก่อน ประสบการณ์ในการทำการตลาดสินค้าสำหรับผู้หญิงเกิดขึ้นในช่วงที่เขาทำงาน ให้กับเซลล็อกซ์ ก่อนได้ประสบการณ์ในการทำตลาดกับกลุ่มแม่และเด็ก เมื่อย้ายเข้ามาทำงานกับแบรนด์ Pigeon
ใครจะทราบว่าผู้ชายคนนี้เป็นผู้บุกเบิก กาวแท่งแบบใหม่ในเมืองไทย ในนาม "ยู้ฮู" เขามีส่วนเปลี่ยนจากชื่อ UHU มาเรียกชื่อไทยว่า "ยู้ฮู้" พร้อมสโลแกนใหม่ติดหูว่า "กาวยู้ฮูเหลืองดำ ชื่อชั้นนำของกาวชั้นเยี่ยม" ก่อนเปลี่ยนงานอีกหลายที่และมาลงเอยที่เดอะมอลล์ ด้วยระยะเวลานานที่สุดเท่าที่เคย ทำงานมา
"หยุดที่เดอะมอลล์นานกว่าที่อื่นเพราะมีการเปิดห้างใหม่อยู่ตลอดเวลา มีงาน ที่ท้าทายให้ทำอยู่ตลอด หลายครั้งที่เปิดห้างใหม่ก็ท้าทายการทำงานทุกครั้งไป อย่างเช่นที่ ดิ เอ็มโพเรียม หลายคนมองว่าเดอะมอลล์นั้นคงเปิดดิ เอ็มโพเรียมไม่ได้ เพราะว่าแบรนด์เดอะมอลล์ค่อนข้างเป็นแบรนด์สำหรับคนชั้นกลาง ดังนั้นตอนไปเปิดดิ เอ็มโพเรียมนั้นเราตั้งคอนเซ็ปต์ไว้เลยว่า ห้างนี้เป็นห้างที่คนมาเดินต้องเปลี่ยนชามข้าวหมาทุกวัน" ชำนาญบอก
ชำนาญทำงานให้กับเดอะมอลล์มาตั้งแต่ลูกชายฝาแฝดที่เกิดจากภรรยาซึ่งพบรักกันในมหาวิทยาลัยอายุได้แค่ 1 ขวบเท่านั้น ปัจจุบันลูกชายฝาแฝดอายุย่างเข้าวัยหนุ่ม 18 เขาบอกว่า ลูกชายและเขาเรียนรู้การเติบโตมาพร้อมๆ กัน ขณะที่ลูกโตเป็นหนุ่ม เขาเองก็สั่งสมและเติบโตในหน้าที่การงานมาด้วยในเวลาเดียวกัน
ปัจจุบันลูกชายทั้งสองเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย นับเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของคนทั้งสอง ขณะที่ชำนาญผู้เป็นพ่อก็เปลี่ยนแปลงหน้าที่การงานครั้งใหญ่ในวัย 49 มาที่เอไอเอสเช่นเดียวกัน
|
|
|
|
|