|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
อาร์เอส โอดครวญ เศรษฐกิจชะลอ ส่อเค้ารายได้โฆษณาหด โดยเฉพาะจากรายการโทรทัศน์ ล่าสุดตบเท้าเดินหน้าอุดช่องโหว่ เตรียมรีวิวรายการโทรทัศน์ใหม่ พร้อมลุยตลาดรับจ้างผลิตไตรมาสสามเต็มสูบ หลังพบตัวเลขรายได้กว่า 120 ล้านบาท เติบโตกระฉูดกว่า 121% เล็งลดคลอดอัลบั้มใหม่เหลือ 200 อัลบั้มต่อปี หลังพบธุรกิจเพลงแผ่วลง แย้มหวังดันหนัง “รักจัง” ลบภาวะหนังขาดทุนในไตรมาสสอง เตรียมแผนก๊อกสอง หากรายได้ไม่เป็นไปตามเป้า 3,500ล้านบาท
นางสาวพรพรรณ รุ่งเรืองบางชัน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส เปิดเผยว่า จากปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา ยอมรับว่าส่งผลกระทบโดยตรงกับรายได้จากการขายโฆษณาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจากรายการโทรทัศน์ ที่มีอยู่กว่า 28 รายการ ทั้งรายการเพลงและละครโทรทัศน์ คิดเป็นเวลากว่า 2,090 นาทีต่อสัปดาห์นั้น ขณะนี้เริ่มมีการถอดตัวของสปอนเซอร์ไปบ้างแล้ว
“ยอมรับว่าปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่เซนซิทีฟเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่ต้องการจะซื้อโฆษณาจากรายการโทรทัศน์มากที่สุด จนเกิดการชะลอการซื้อและหยุดซื้อไปบ้างแล้วขณะนี้ ทำให้บริษัทฯได้มีการประชุมเตรียมแก้ไขปัญหาดังกล่าว เริ่มจากการลำดับความสำคัญจากช่วงเวลาที่ออกอากาศว่าเป็นช่วงที่มีศักยภาพหรือไม่ ถ้าดีก็จะต้องมีการปรับให้ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าหากเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีศักยภาพ เช่น เวลาดึกมาก ก็ต้องมองก่อนว่ารายการดังกล่าวตอบโจทย์ธุรกิจอื่นๆของบริษัทฯหรือไม่ ถ้าไม่มี ก็จะต้องมีการคืนเวลาให้กับสถานีต่อไป แต่ทั้งนี้มองว่าการคืนเวลาให้กับสถานีนั้น จะต้องเป็นทางเลือกสุดท้าย เนื่องจากโอกาสที่จะขอเวลานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ”
ส่วนโฆษณาจากรายการทางวิทยุนั้นสูงขึ้น เนื่องจากบริษัทฯมีการบริหารสถานีวิทยุเพิ่มขึ้นอีก 1 สถานี คือ 90 มิกซ์ เอฟเอ็ม และจากสื่อสิ่งพิมพ์จากการออกหนังสือพิมพ์บังเทิงรายวัน ดาราเดลี่ ในช่วงไตรมาสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯมีรายได้หลักที่เกิดจากการขายโฆษณาในไตรมาสแรกของปีนี้สูงถึง 221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.4 %จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ที่ 47.5 ล้านบาท
ในขณะเดียวกันธุรกิจรับจ้างผลิตก็มีรายได้สูงถึง 120 ล้านบาท ซึ่งมีการเติบโตขึ้น 66 ล้านบาท หรือคิดเป็น 121% เมื่อเทียบกับปีก่อน มีผลมาจากการรับจ้างผลิตงานโครงการให้กับหน่วยงานราชการและเอกชนจำนวนหลายโครงการ แต่ในช่วงไตรมาสสองนี้มีหลายโครงการได้ถูกเลื่อนการจัดงานออกไป จึงมองว่าช่วงนี้รายได้อาจจะหายไปบ้าง แต่เมื่อเข้าสู่ไตรมาสสามแล้ว จะกลับมาคึกคักเช่นเดิม
นอกจากนี้ในไตรมาแรกที่ผ่านมา บริษัทฯระมัดระวังในส่วนของการบริหารรายได้จากกลุ่มธุรกิจเพลงมากขึ้น เพราะอุตสาหกรรมเพลงปีนี้ไม่เติบโตเท่าที่ควร จึงทำให้ทั้งปีตั้งเป้าวางจำหน่ายอัลบั้มเพลงทั้งหมดเพียง 200 อัลบั้ม ลดลง 20-30 % จากปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นอัลบั้มใหม่ 70-80 อัลบั้ม จากเดิมในปีที่แล้วอยู่ที่ 100 อัลบั้ม และที่เหลือเป็นรวมฮิต ทั้งนี้ในไตรมาสแรกที่ผ่านมามีการออกอัลบั้มเพลงใหม่เพียง 22 อัลบั้ม ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา 13 อัลบั้ม และออกอัลบั้มรวมฮิตสูงขึ้นเป็น 36 อัลบั้ม เพิ่มขึ้นจากเดิม 20 อัลบั้ม
ด้านธุรกิจภาพยนตร์ ไตรมาสแรกที่ผ่านมา ประสบปัญหาการขาดทุนกว่า 6 ล้านบาท จากหนังเรื่องผีเสื้อสมุทร ที่สร้างรายได้จากการเข้าฉายไม่ถึง 10 ล้านบาท แต่ยังมีรายได้ในส่วนของการจำหน่ายวีซีดีชดเชยได้บ้างบางส่วน ส่วนในไตรมาสสองจะมีภาพยนตร์เข้าฉาย 2 เรื่อง คือ ไทยถีบ และรักจัง แต่เนื่องจาก ไทยถีบประสบปัญหาขาดทุน ดังนั้นบริษัทฯจึงคาดหวังว่า รักจัง จะเข้ามาช่วยกู้รายได้จากส่วนของภาพยนตร์ได้ในไตรมาสสองนี้ ด้วยยอดรายได้อย่างน้อย 50 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนครึ่งปีหลังนั้นจะมีภาพยนตร์เข้าฉายอีก 2 เรื่อง แต่ในขณะนี้ยังไม่สรุปชื่อเรื่อง แต่จะเป็นภาพยนตร์แนวผี 1 เรื่อง เข้าฉายไตรมาสสาม และตลก 1 เรื่องเข้าฉายไตรมาสสุดท้ายของปี
อย่างไรก็ตามในไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้รวมกว่า 792 ล้านบาท กำไรสุทธิ 7.8 ล้านบาท ถือได้ว่าเป็นกำไรครั้งแรก หลังจากที่ได้มีการปรับโครงสร้างทางธุรกิจครั้งใหญ่ในปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งปีบริษัทยังคงตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 3,500 ล้านบาทเช่นเดิม โดยคาดว่าครึ่งปีหลังนี้ราคาน้ำมันจะไม่ผันผวนมากนัก รวมไปถึงบรรยากาศการเมืองจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้น แต่หากไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ บริษัทฯเตรียมแผนรองรับปัญหาดังกล่าว โดยจะเป็นการสร้างรายได้จากธุรกิจที่ดำเนินอยู่ เช่น การเพิ่มช่องทางขายเพลงในส่วนออนไลน์ และผ่านเครื่องเล่นเอ็มพีสาม ซึ่งในขณะนี้กำลังมีการศึกษาและพัฒนา
|
|
|
|
|