Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 พฤษภาคม 2549
เศรษฐกิจทรุดอาร์เอสไม่พ้นเคราะห์ เล็งรีวิวรายการTVใหม่หลังรายได้ลด             
 


   
www resources

โฮมเพจ อาร์.เอส. โปรโมชั่น

   
search resources

อาร์เอส, บมจ.
Entertainment and Leisure




อาร์เอส โอดครวญ เศรษฐกิจชะลอ ส่อเค้ารายได้โฆษณาหด โดยเฉพาะจากรายการโทรทัศน์ ล่าสุดตบเท้าเดินหน้าอุดช่องโหว่ เตรียมรีวิวรายการโทรทัศน์ใหม่ พร้อมลุยตลาดรับจ้างผลิตไตรมาสสามเต็มสูบ หลังพบตัวเลขรายได้กว่า 120 ล้านบาท เติบโตกระฉูดกว่า 121% เล็งลดคลอดอัลบั้มใหม่เหลือ 200 อัลบั้มต่อปี หลังพบธุรกิจเพลงแผ่วลง แย้มหวังดันหนัง “รักจัง” ลบภาวะหนังขาดทุนในไตรมาสสอง เตรียมแผนก๊อกสอง หากรายได้ไม่เป็นไปตามเป้า 3,500ล้านบาท

นางสาวพรพรรณ รุ่งเรืองบางชัน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส เปิดเผยว่า จากปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา ยอมรับว่าส่งผลกระทบโดยตรงกับรายได้จากการขายโฆษณาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจากรายการโทรทัศน์ ที่มีอยู่กว่า 28 รายการ ทั้งรายการเพลงและละครโทรทัศน์ คิดเป็นเวลากว่า 2,090 นาทีต่อสัปดาห์นั้น ขณะนี้เริ่มมีการถอดตัวของสปอนเซอร์ไปบ้างแล้ว

“ยอมรับว่าปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่เซนซิทีฟเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ที่ต้องการจะซื้อโฆษณาจากรายการโทรทัศน์มากที่สุด จนเกิดการชะลอการซื้อและหยุดซื้อไปบ้างแล้วขณะนี้ ทำให้บริษัทฯได้มีการประชุมเตรียมแก้ไขปัญหาดังกล่าว เริ่มจากการลำดับความสำคัญจากช่วงเวลาที่ออกอากาศว่าเป็นช่วงที่มีศักยภาพหรือไม่ ถ้าดีก็จะต้องมีการปรับให้ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าหากเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีศักยภาพ เช่น เวลาดึกมาก ก็ต้องมองก่อนว่ารายการดังกล่าวตอบโจทย์ธุรกิจอื่นๆของบริษัทฯหรือไม่ ถ้าไม่มี ก็จะต้องมีการคืนเวลาให้กับสถานีต่อไป แต่ทั้งนี้มองว่าการคืนเวลาให้กับสถานีนั้น จะต้องเป็นทางเลือกสุดท้าย เนื่องจากโอกาสที่จะขอเวลานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ”

ส่วนโฆษณาจากรายการทางวิทยุนั้นสูงขึ้น เนื่องจากบริษัทฯมีการบริหารสถานีวิทยุเพิ่มขึ้นอีก 1 สถานี คือ 90 มิกซ์ เอฟเอ็ม และจากสื่อสิ่งพิมพ์จากการออกหนังสือพิมพ์บังเทิงรายวัน ดาราเดลี่ ในช่วงไตรมาสุดท้ายของปีที่ผ่านมา ส่งผลให้บริษัทฯมีรายได้หลักที่เกิดจากการขายโฆษณาในไตรมาสแรกของปีนี้สูงถึง 221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.4 %จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ที่ 47.5 ล้านบาท

ในขณะเดียวกันธุรกิจรับจ้างผลิตก็มีรายได้สูงถึง 120 ล้านบาท ซึ่งมีการเติบโตขึ้น 66 ล้านบาท หรือคิดเป็น 121% เมื่อเทียบกับปีก่อน มีผลมาจากการรับจ้างผลิตงานโครงการให้กับหน่วยงานราชการและเอกชนจำนวนหลายโครงการ แต่ในช่วงไตรมาสสองนี้มีหลายโครงการได้ถูกเลื่อนการจัดงานออกไป จึงมองว่าช่วงนี้รายได้อาจจะหายไปบ้าง แต่เมื่อเข้าสู่ไตรมาสสามแล้ว จะกลับมาคึกคักเช่นเดิม

นอกจากนี้ในไตรมาแรกที่ผ่านมา บริษัทฯระมัดระวังในส่วนของการบริหารรายได้จากกลุ่มธุรกิจเพลงมากขึ้น เพราะอุตสาหกรรมเพลงปีนี้ไม่เติบโตเท่าที่ควร จึงทำให้ทั้งปีตั้งเป้าวางจำหน่ายอัลบั้มเพลงทั้งหมดเพียง 200 อัลบั้ม ลดลง 20-30 % จากปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นอัลบั้มใหม่ 70-80 อัลบั้ม จากเดิมในปีที่แล้วอยู่ที่ 100 อัลบั้ม และที่เหลือเป็นรวมฮิต ทั้งนี้ในไตรมาสแรกที่ผ่านมามีการออกอัลบั้มเพลงใหม่เพียง 22 อัลบั้ม ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา 13 อัลบั้ม และออกอัลบั้มรวมฮิตสูงขึ้นเป็น 36 อัลบั้ม เพิ่มขึ้นจากเดิม 20 อัลบั้ม

ด้านธุรกิจภาพยนตร์ ไตรมาสแรกที่ผ่านมา ประสบปัญหาการขาดทุนกว่า 6 ล้านบาท จากหนังเรื่องผีเสื้อสมุทร ที่สร้างรายได้จากการเข้าฉายไม่ถึง 10 ล้านบาท แต่ยังมีรายได้ในส่วนของการจำหน่ายวีซีดีชดเชยได้บ้างบางส่วน ส่วนในไตรมาสสองจะมีภาพยนตร์เข้าฉาย 2 เรื่อง คือ ไทยถีบ และรักจัง แต่เนื่องจาก ไทยถีบประสบปัญหาขาดทุน ดังนั้นบริษัทฯจึงคาดหวังว่า รักจัง จะเข้ามาช่วยกู้รายได้จากส่วนของภาพยนตร์ได้ในไตรมาสสองนี้ ด้วยยอดรายได้อย่างน้อย 50 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนครึ่งปีหลังนั้นจะมีภาพยนตร์เข้าฉายอีก 2 เรื่อง แต่ในขณะนี้ยังไม่สรุปชื่อเรื่อง แต่จะเป็นภาพยนตร์แนวผี 1 เรื่อง เข้าฉายไตรมาสสาม และตลก 1 เรื่องเข้าฉายไตรมาสสุดท้ายของปี

อย่างไรก็ตามในไตรมาสแรกที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้รวมกว่า 792 ล้านบาท กำไรสุทธิ 7.8 ล้านบาท ถือได้ว่าเป็นกำไรครั้งแรก หลังจากที่ได้มีการปรับโครงสร้างทางธุรกิจครั้งใหญ่ในปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งปีบริษัทยังคงตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 3,500 ล้านบาทเช่นเดิม โดยคาดว่าครึ่งปีหลังนี้ราคาน้ำมันจะไม่ผันผวนมากนัก รวมไปถึงบรรยากาศการเมืองจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้น แต่หากไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ บริษัทฯเตรียมแผนรองรับปัญหาดังกล่าว โดยจะเป็นการสร้างรายได้จากธุรกิจที่ดำเนินอยู่ เช่น การเพิ่มช่องทางขายเพลงในส่วนออนไลน์ และผ่านเครื่องเล่นเอ็มพีสาม ซึ่งในขณะนี้กำลังมีการศึกษาและพัฒนา   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us