|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"ธนาพัฒน์ฯ" ธุรกิจอสังหาฯในเครือเล้าเป้งง้วน ขอโตอย่างมั่นคง หวังสร้าง แบรนด์รับแผนระยะยาว แจงโครงการใหม่ธนาพัฒน์ เฮ้าส์ พระราม 3 กวาดยอดขายรวมแล้ว 500 ล้านบาท ช็อกผิดคาดลูกค้าชาวต่างชาติจองซื้อเกือบ 25 ยูนิต ระบุเป้ายอดรับรู้รายได้ปีนี้ถึง 2,000 ล้านบาท รับอานิสงส์ยอดโอนบ้านลูกค้าในปี 48 สมทบ เล็งปรับคอนเซ็ปต์โปรเจกต์ธนาพัฒน์ สิเหร่ คาดลดระดับราคาตอบสนองกลุ่มลูกค้าหลากหลาย
นายดลพิวัฒน์ ปรีดาวิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในเครือเล้าเป้งง้วน เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังว่า ธุรกิจจะยังคงโตต่อเนื่องในลักษณะทรงตัวจากครึ่งปีแรก เนื่องจากปัจจัยลบด้านการเมืองที่ยังไม่ชัดเจน ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิง อัตราดอกเบี้ย และภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจโดรวม อย่างไรก็ตามคาดว่าตลาดรวมน่าจะมีอัตราเติบโตประมาณ 10%
สำหรับกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการของบริษัทฯในปีนี้ จะเน้นพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ โดยเฉพาะโครงการทาวน์เฮาส์จะมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของรายได้รวม ซึ่งการพัฒนาโครงการจะเน้นบนทำเลที่มีศักยภาพสูงทางธุรกิจ โดยมุ่งกลุ่มเป้าหมายที่เป็นครอบครัวและกลุ่มคนทำงานที่มุ่งเน้นความสะดวกในการเดินทางระหว่างที่อยู่อาศัยกับที่ทำงาน รวมถึงการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ หรือการบริการหลังการขายเข้ามาช่วยผลักดันธุรกิจ
ล่าสุดบริษัทได้เปิดขาย(พรีเซล)โครงการธนาพัฒน์ เฮ้าส์ (สาทร-นราธิวาส) พระราม 3 ในเฟสแรก จำนวน 2 โซน บนเนื้อที่ 15 ไร่ จากทั้งหมด 29 ไร่ โดมียอดจองทั้งสองโซนประมาณ 50% หรือมียอดขายรวม 500 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท มีจำนวน 145 ยูนิต ซึ่งลักษณะของโครงการจะเป็นบ้านพร้อมอยู่ แบ่งเป็นโซน ฮิพ โมเดิร์น (Hip Modern) ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ราคาเริ่มต้นที่ 6.69 ล้านบาท จำนวน 76 ยูนิต และโซนโคซี่ ไลฟ์ (Cozy Life) ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น หน้ากว้าง 4 เมตร ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท จำนวน 69 ยูนิต นอกจากนี้ บริษัทได้นำเสนอสิทธิพิเศษแก่ลูกค้า อาทิ อัตราดอกเบี้ยผ่อนดาวน์ 0% และส่วนลดสูงสุดกว่า 1 ล้านบาท เป็นต้น
" ยอดขายที่ทำได้ 50% ตนยังไม่พอใจ เพราะจากเดิมได้ตั้งเป้าภายในไตรมาส 2 ของปีนี้น่าจะมียอดขายเต็ม100% ซึ่งช่วงแรกยอดขายฝืดไปหน่อย เพราะประสบปัญหาต่างๆที่กล่าวมา แต่หลังจากทุกอย่างคลี่คลาย ก็ทำให้ตัวเลขยอดขายปรับตัวดีขึ้น เห็นได้จากในที่ 20-21 พ.ค.ที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขายเพิ่มได้อีก 100 ล้านบาท ทำให้ยอดขายรวมมาอยู่ที่ 500 ล้านบาท และที่น่าแปลกใจ กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะอยู่ในช่วงทำงาน หรือกลุ่มรายได้ขนาดกลางถึงสูง และมีความต้องการใช้ชีวิตอยู่ใกล้เมือง แต่กับพบว่า มีลูกค้าชาวต่างชาติจองซื้อทาวน์เฮาส์ในโครงการถึง 30% หรือประมาณ 20-25 ยูนิต " นายดลพิวัฒน์ กล่าวและว่า
โครงการทั้ง 2 โซนคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ทั้งหมดภายในสิ้นปี และจะมียอดโอนให้แก่ลูกค้าได้ประมาณ 70% ของมูลค่าโครงการรวม ในส่วนเนื้อที่ที่เหลือนั้น ทางบริษัทยังคงคอนเซ็ปต์ในรูปแบบทาวน์เฮาส์ แต่อาจจะมีการปรับประโยชน์การใช้สอย(ฟังก์ชัน)ให้เหมาะสมกับข้อมูลที่ได้รับจากลูกค้าในเฟสแรก ทั้งนี้ แหล่งสินเชื่อในการซื้อที่ดินและก่อสร้างใช้กับธนาคารนครหลวงไทย(SCIB) วงเงิน 600 ล้านบาท ระยะเวลา 4 ปี คาดว่าภายในต้นปี 2550 จะชำระเงินกู้ได้มากกว่า 50%
สำหรับทิศทางของผลการดำเนินงานของบริษัท กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ในช่วงไตรมาสแรกมียอดรับรู้รายได้ประมาณ 300 ล้านบาท
เป็นผลมาจากยอดโอนของโครงการบ้านอรุณพัฒน์พระราม 3 สาธุประดิษฐ์ และสุขสวัสดิ์ 64 โดยคาดการณ์ว่ารายได้ในช่วงครึ่งแรกของปี49 จะมีรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ 700 ล้านบาท และคาดว่าทั้งปีจะมียอดรับรู้รายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยจะมียอดขายบางส่วนของปี 49 เข้ามารับรู้รายได้ด้วย
ทั้งนี้ โครงการที่มียอดขายในปีที่ผ่านมาจะมารับรู้รายได้ปีนี้ นอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้นแล้ว จะมีส่วนของโครงการคอนโดมิเนียม ถนนสุขุมวิท ที่มียอดขาย 500 ล้านบาท จะโอนให้ลูกค้าในปีนี้ ,โครงการบ้านเดี่ยวธนาพัฒน์ ป่าตอง จ.ภูเก็ต มียอดขายไปแล้ว 50% จากจำนวน 40 ยูนิต ขณะที่โครงการอรุณพัฒน์พระราม 3 ยังเหลือเฟสภายในโครงการที่จะมีการโอนได้อีกส่วนหนึ่งประมาณ 300 กว่าล้านบาท
นายดลพิวัฒน์กล่าวยอมรับว่า แผนการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คงจะต้องชะลอออกไปก่อน เนื่องจาก 2 ปัญหา คือ จะต้องมีการยื่นไฟลิ่งใหม่ ขณะที่ภาพรวมตลาดไม่เอื้ออำนวยต่อการเข้าไประดมทุน
|
|
|
|
|