|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โลว์คอสต์แข่งดุ ดึงลูกค้าช่วงโลว์ซีซั่น แอร์เอเชีย ประเดิมเปิดศึก จัดงาน Thai Air Asia Travel Fair ชูไฮไลน์ ขายตั๋วเครื่องบิน ที่นั่งละ 9 บาท คุยงานนี้ประชาชนจะให้ความสนใจเข้าชมงานคึกคัก ให้ ททท.เรียกพี่ ด้านคดีเทมาเส็ก เข้ามาถือหุ้น แทนชินคอร์ป ยอมรับช่วง 14 วัน ก่อนปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ บริษัทผิดกฎหมายจริง หากศาลต้องการเรียกค่าปรับ ยินดีจ่ายทุกกรณี เผยไม่สนการเมือง ขอเดินหน้าธุรกิจต่อ
นายทัศพล แบแลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการตอกย้ำนโยบาย ของบริษัท ในด้านการใช้กลยุทธ์ ด้านราคาเป็นตัวจูงใจให้ลูกค้าสนใจและเข้ามาใช้บริการ บริษัทจึงได้ริเริ่มจัดงานแฟร์เป็นครั้งแรกของธุรกิจสายการบินโลว์คอสต์ ในชื่องานว่า Thai Air Asia Travel Fair ครั้งที่1 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 มิ.ย. 49 ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยในงานนี้ ไทยแอร์เอเชีย ได้จัดแคมเปญพิเศษ จำหน่ายตั๋วเครื่องบินในราคาเริ่มต้นที่ 9 บาท ในทุกเส้นทางบินของไทยแอร์เอเชีย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
“ก่อนหน้านี้แคมเปญ ราคาตั๋ว 9 บาท เคยจัดไปเมื่อตอนเปิดเส้นทางบิน กรุงเทพ-นครราชสีมา แต่เรานำกลับมาจัดใหม่อีกครั้งแต่ ทำในทุกเส้นทาง เพื่อให้แคมเปญมีความแรง และกระตุ้นในเกิดการเดินทางในช่วงโลว์ซีซั่นมากขึ้น โดยผู้จองซื้อตั๋วเครื่องบินในงานนี้สามารถนำไปใช้ได้ถึงเดือนตุลาคม49 ซึ่งเป็นช่วงโลวซีซั่นพอดี คาดว่าจะทำให้อัตราผู้โดยสารต่อเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอีก 2-3% จากปัจจุบันที่อัตราผู้โดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวในทุกเส้นทางจะอยู่ประมาณ 80% “
ทั้งนี้ภายในงานนอกจากจะมีบูธของไทยแอร์เอเชียแล้ว ยังได้เปิดให้ผู้ประกอบการด้านธุรกิจท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศในเดสสิเนชั่นที่เรามีเส้นทางบิน มาร่วมออกบูธ อาทิ โรงแรม บริษัทนำเที่ยว ซึ่งขณะนี้มีผู้จองบูธแล้วกว่า 50 บูธ จากทั้งหมด 62 บูธ โดยทุกรายจะนำสินค้าและบริการมาร่วมลดราคา กระตุ้นช่วงโลว์ซีซั่นเช่นกัน นอกจากนั้น บริษัทยังร่วมกับผู้ประกอบการนำเที่ยวจัดแพกเกจทัวร์ราคาพิเศษ มาเสนอขายภายในงานนี้ด้วย
“เราจะทำงานนี้ให้ ททท.เรียกพี่ เพราะเชื่อว่า ด้วยแคมเปญสินค้าราคาพิเศษ ครั้งนี้ จะดึงผู้บริโภค เข่ามาร่วมงานจำนวนมาก และ เชื่อว่า งานนี้สายการบินอื่นๆ คงจะจับตามอง หรืออาจมีแนวคิดอยู่แล้ว แต่เราขอเป็นผู้นำในการเริ่มก่อน ”
อย่างไรก็ตาม ด้านผลประกอบการ ไตรมาสแรก บริษัทมีกำไรไม่ถึง 10 ล้านบาท ทั้งที่ควรจะได้มากกว่านี้ ซึ่งเป็นเพราะ บริษัทขาดทุนในอัตราแลกเปลี่ยนไปมากกว่า 10 ล้านบาท จากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น โดยทั้งปี บริษัทตั้งเป้ารายได้รวม 4,000 ล้านบาท ขนผู้โดยสารได้ 3 ล้านคน จากปีก่อนที่มีรายได้ประมาณ 2,800 ล้านบาท ขนผู้โดยสารได้ 1.8 ล้านคน ซึ่งการเติบโตที่ค่อนข้างก้าวกระโดด เพราะ ปีก่อนเรามีเครื่องบิน 6 ลำ แต่ปีนี้ปัจจุบัน มีเครื่องบิน 10 ลำ และคาดว่าปลายปีจะเพิ่มอีก 2 ลำ ส่วนเส้นทางบิน เตรียมเปิดเพิ่มไปเส้นทาง โฮจิมินท์ และ ย่างกุ้ง
ยอมรับผิดจริงยอมเสียค่าปรับ
นายทัศพล กล่าวถึง กรณีช่วงที่ บริษัทไทยแอร์เอเชีย เกิดการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น ในช่วงที่ ชิน คอร์ป ขายหุ้นให้กับเทมาเส็ก ประเทศสิงคโปร์ ล่าสุดตอนนี้ คดียังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล ซึ่งตรงนี้เราต้องยอมรับว่า ช่วง 14 วัน ที่เราเร่งดำเนินการ จดทะเบียนผู้ถือหุ้นใหม่นั้น ในแง่กฎหมายบริษัทต้องโดนปรับ ซึ่งตรงนี้เรายินดีทำตามคำพิจารณาของศาล เพราะกฎหมาย ไม่ได้ระบุว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้น จะให้เวลาบริษัทกี่วัน ในการหาผู้ถือหุ้นใหม่ ตรงนี้ แม้เราจดทะเบียนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ภายในวันนั้น เราก็ต้องเสียค่าปรับ 1 วันเป็นอย่างน้อย ส่วนเรื่องการได้รับสิทธิค่าเช่าสนามบิน ในราคาลดลงจากปกติ 50% ก็เป็นเรื่องปกติ ของการทำธุรกิจโลว์คอสต์ ที่ต้องได้รับการยกเว้น ซึ่งในประเทศสิงคโปร์ เขาก็ให้สิทธิ์นี้กับสายการบินโลว์คอสต์ เช่นกัน ทั้งนี้บริษัทเข้าใจดีว่า ทุกคนต้องการโยงแอร์เอเชียให้เข้าไปในส่วนของการเมือง แต่ ความจริงบริษัทยังคงดำเนินงานตามปกติ และไม่สนข่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาผู้โดยสารของแอร์เอเชียก็ไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด
สำหรับเรื่องสนามบิน ที่ยังถกเถียงกันว่า จะย้ายโลว์คอสต์ ไปที่สนามบินสุวรรณภูมิด้วยหรือไม่นั้น โดยส่วนตัวมองว่า ควรให้โลว์คอสต์อยู่ที่สนามบินดอนเมือง เพราะ หากทุกสายการบินย้ายไปสุวรรณภูมิทั้งหมด ก็จะเกิดการจราจรที่แออัด เช่นเดียวกับที่ดอนเมืองในทุกวันนี้ ซึ่งทุกวันนี้ กว่า 80% ของเที่ยวบินในทุกสายการบิน จะต้องบินวนรอสัญญาณลงจอดได้ไม่น้อยกว่า 15-30 นาที ตรงนี้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมาก ขณะเดียวกัน มองว่าหากทิ้งสนามบินดอนเมืองไปเสียเลยก็เสียดายรันเวย์ และระบบอื่นๆ ที่ได้ติดตั้งไว้แล้ว และยังใช้ประโยชน์ได้ ต้องมาทิ้งเสียเปล่าๆ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องให้ทางรัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจ
|
|
|
|
|