Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน24 พฤษภาคม 2549
เบียร์ช้างฮอตยอดจองล้น1เท่า"กิตติรัตน์"เล็งยื่นลาออกวันนี้             
 


   
www resources

โฮมเพจ ไทยเบฟเวอร์เรจส์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ไทยเบฟเวอเรจ, บมจ.
Economics
Stock Exchange




หุ้นเบียร์ช้างร้อน นักลงทุนจองล้นกว่า 1 เท่า ขณะเดียวกันเกิดกระแสข่าว "กิตติรัตน์" เตรียมยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อที่ประชุมคณะกรรมการภายในวันนี้ จับตาดูการตัดสินใจบอร์ดว่าจะยับยั้งหรืออาจจะหาคนมารักษาการแทน

รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ ได้ระบุถึงแหล่งข่าวจากวาณิชธนกิจ เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการเสนอขายหุ้นบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเบียร์ช้าง วานนี้ (23 พ.ค.) ว่า นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นของบริษัทไทยเบฟฯ มากกว่าจำนวนหุ้นที่จะเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 4.89 พันล้านหุ้น ถึง 1 เท่า

ทั้งนี้ หากไทยเบฟฯ มีการกำหนดราคาขายที่ระดับสูงสุดของช่วงราคา IPO ที่ 0.26 - 0.36 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อหุ้น จะทำให้บริษัทไทยเบฟฯ ระดมทุนได้เงินรวมทั้งสิ้น 1.76 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 1.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 42,000 ล้านบาท

สำหรับบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) นับเป็นหุ้น IPO ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ โดยมีมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากบริษัท สิงคโปร์เทเลคอมมิวนิเคชั่น ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์รายใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีมูลค่าระดมทุน 4.2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ในเดือน ต.ค.1993 หรือประมาณ 2.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงขณะนั้น

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นโลกที่อ่อนแอในระยะนี้ ทำให้นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังต่อการจดทะเบียนหุ้นไทยเบฟเวอเรจ ดังกล่าว

นายสุวิทย์ มาไพศาลสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่ามีความต้องการที่จะซื้อหุ้นบริษัทไทยเบฟเวอเรจกี่เท่า เพราะจะปิดการเสนอขายในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ หลังจากนั้นจึงจะมีการประชุมกันอีกครั้ง และคาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดภายในวันนี้ (24 พ.ค.)

แหล่งข่าวจากบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ยังรอการปิดจองซื้อหุ้นที่เสนอขายให้แก่นักลงทุนจากยุโรปและสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในคืนวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ และจะสามารถกำหนดราคาจองซื้อในวันนี้

ด้านแหล่งข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการประชุมประจำเดือน ซึ่งได้มีกระแสข่าวว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเตรียมที่จะยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง เพราะบริษัทไทยเบฟเวอเรจเตรียมที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของสิงคโปร์ภายในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้

ทั้งนี้ จะต้องรอดูท่าทีของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า จะตัดสินใจดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งจะยับยั้งการลาออกของนายกิตติรัตน์หรือไม่ หรืออาจจะมีการสรรหาคนที่เหมาะสมเข้ามารักษาการแทนชั่วคราวไปก่อน

สำหรับการประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้จะมีวาระการประชุมสำคัญๆ คือ การพิจารณาค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย หรือคอมมิชชั่น ที่สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ได้เสนอให้ขยายเวลาการจัดเก็บค่าคอมมิชชั่นที่กำหนดเพดานขั้นต่ำ 0.25% ออกไปอีก 3 ปี หลังจากนั้นถึงใช้วิธีการจัดเก็บแบบขั้นบันได

อนึ่งบริษัทไทยเบฟเวอเรจนั้น มีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตเบียร์อีกจำนวน 4,600 พันเฮกโตลิตร ที่โรงงานของบริษัท ที่จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อเตรียมออกสินค้าใหม่ เพื่อเจาะตลาดระหว่างประเทศต่อเนื่อง ปัจจุบันบริษัทไทยเบฟเวอเรจเป็นเจ้าของและเป็นผู้ดำเนินการ 3 โรงงานผลิตเบียร์ และ 16 โรงงานผลิตสุราด้วยกำลังการผลิตรวม 10,90 พันเฮกโตลิตร และ 87,777.8 พันเฮกโตลิตรตามลำดับ

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนนั้น เพื่อนำไปชำระคืนเงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงินในประเทศไทย โดยมียอดหนี้ทั้งหมด23,600 ล้านบาทและเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการทั่วไปของบริษัท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us