|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บอร์ด "ทีพีไอ" อ้างใบสั่งจากตลาดหลักทรัพย์ ปลด "ประชัย เลี่ยวไพรัตน์" ออกจากกรรมการบริษัท ก่อนจะเสนอให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติในวันที่ 20 ก.ค.นี้ พร้อมปลดภาระการค้ำประกันหนี้ส่วนตัวของนายประชัยทังหมด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม "ปิติ" ลั่น กำไรปีนี้โตกว่าปี48 แม้ไม่เพิ่มกำลังการผลิต จากมีการปรับปรุงคุณภาพการผลิต
นายปิติ ยิ้มประเสริฐ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TPI เปิดเผย ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัท วานนี้ (22 พ.ค.) ว่า ที่ประชุมมติให้มีการปลดนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ออกจากการเป็นกรรมการ และผู้บริหาร ตามคำสั่งของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีการกล่าวโทษในกรณีสร้างราคาหุ้นบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) ทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นกรรมการของบริษัทจดทะเบียน
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้มีการทำหนังสือแจ้งมาที่บริษัทตั้งแต่ปี 2549 ที่ผ่านมา รวมทั้งผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกมาระบุว่า หากนายประชัย ยังดำรงตำแหน่งกรรมการอยู่ จะไม่มีการพิจารณาอนุมัติให้ทีพีไอออกจากหมวดแก้ไขการดำเนินงาน หรือรีแฮปโก้ โดยขั้นตอนต่อไปบริษัทจะนำเสนอเรื่องดังกล่าวให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณา ซึ่งจะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้
"ตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งมายังบริษัทในเรื่องการปลดนายประชัยในปีที่ผ่านมา และขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็มีการจี้ให้มีการดำเนินการ แต่ในหนังสือจะมีเรื่องให้ปลดนายประชัยบริษัท จึงจะสามารถออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (ESOP) แต่ในหนังสือไม่ได้มีการระบุเรื่องการออกจากรีแฮปโก้ แต่ทราบจากทางสื่อมวลเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาบริษัทได้มีการขอออกหุ้นอีสป ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการจัดทำหนังสือขอออกจากหมวดฟื้นฟูกิจการ (รีแฮปโก้ )ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งคาดว่าจะมีการยื่นต่อตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในสิ้นเดือนนี้"
นายปิติ กล่าวว่า การปลดนายประชัยนั้นไม่ได้เป็นความเห็นของบริษัท แต่เป็นการดำเนินงานตามกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากที่ผ่านมานายประชัย ถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นกรรมการและผู้บริหาร ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทจะมีการดำเนินงานออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก นายประชัยไม่พ้นจากการเป็นกรรมการ
สำหรับการปลดนายประชัย จะเป็นผลดีต่อผู้ถือหุ้นเดิมที่จะได้รับหุ้นอีสป ส่วนเรื่องการรีไฟแนนซ์หนี้ของบริษัทนั้นก็เริ่มสามารถที่จะมีการดำเนินการได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าหนี้ โดยจะทำให้บริษัทมีจำนวนเจ้าหนี้ที่น้อยลง แต่จะไม่ค่อยลดภาระดอกเบี้ยของบริษัท เพราะ ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็ว ซึ่งคาดว่าจะรีไฟแนนซ์หนี้ที่มี 900 ล้านเหรียญสหรัฐได้หมดภายใน 3 เดือน หลังจากเดือน กรกฎาคมนี้
นายปิติ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีมติที่จะมีการการปลดภาระการค้ำประกันหนี้ของTPI ที่นายประชัย มีการค้ำประกันไว้ ทั้งหมด เนื่องจากเห็นว่า นายประชัย มีการถือหุ้นในสัดส่วนที่ต่ำเพียง 3-4% ซึ่งลดลงจากเดิมที่ถือหุ้น 10-12% ณ วันที่ 13 ธันวาคม 49 ไม่ควรที่จะมีภาระการค้ำประกันหนี้ในจำนวนที่มาก เพื่อให้เป็นธรรมกับนายประชัย ซึ่งบริษัทจะมีการไปเจรจากับเจ้าหนี้
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งนี้ไม่ได้มีวาระในการอนุมัติงบประมาณในการลงทุนของบริษัท เนื่องจากยังไม่ได้มีการจัดทำแผนรายละเอียดอย่างชัดเจน ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการเร่งการจัดทำแผน โดยการประชุมครั้งนี้เป็นเพียงการเสนอต่อที่ประชุม ซึ่งเม็ดเงินที่เสนอไปประมาณ 1.3-1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
บริษัทคาดว่าในปีนี้บริษัทจะมีผลการดำเนินงานด้านผลกำไรเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา แม้บริษัทจะไม่มีการเพิ่มกำลังการผลิต เนื่องจาก บริษัทจะมีการปรับปรุงคุณภาพการและจากการที่บริษัทมีการดำเนินงานร่วมกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)หรือ PTT ทำให้ลดต้นทุนในการจัดซื้อจัดจ้าง และการเปิด LC
นายปิติ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดประมาณ 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่ง หลักๆจะมีการนำไปชะระหนี้ ซึ่ง จะค่อยมีการลดหนี้ ซึ่งอายุการรีไฟแนนซ์หนี้ซึ่งปกติ ใช้เวลา 5-7 ปี และมีการปรับปรุงคุณภาพการผลิต ซึ่งจะต้องใช้เงิน 800 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับการประชุมในครั้งนี้มีจำนวน 15 วาระ เรื่องการแต่งตั้งกรรมการบริหาร กรรมการตรวจสอบ แต่เรื่องหลัก คือ การปลดนายประชัย พ้นจาการเป็นกรรมการ และเรื่องการรีไฟแนนซ์หนี้ และบริษัทจะมีการย้ายตึกการทำงาน ที่ตึกซัน ซึ่งใกล้กับตึกปตท. ซึ่งเช่าอายุ 3 ปี จำนวน 5 ชั้น ซึ่งเป็นตึก A 2 ชั้น ตึก 3 ชั้น ซึ่งจะย้ายเสร็จภายในสิ้นปีนี้ โดยจะเสร็จสัญญาเช่าในเร็วๆนี้ ส่วนตึกเก่าก็จะเป็นกรรมสิทธิ์ของนายประชัย แต่ที่ต้องใช้เวลาที่นาน เนื่องจากเป็นการนำแผนการดำเนินงานให้บอร์ดทราบ ซึ่งการประชุมครั้งนี้บอร์ดชุมเดิมไม่ได้เข้าประชุมแต่บริษัทก็ได้มีการเชิญทุกครั้งที่มีการประชุมบอร์ด
|
|
|
|
|