Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์22 พฤษภาคม 2549
“อิตาเลียนฯ”เดินหน้าปรับกระบวนทัพขยายธุรกิจสร้างรายได้แทนรับเหมา             
 


   
www resources

โฮมเพจ อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์

   
search resources

อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นต์, บมจ.
เปรมชัย กรรณสูต
Real Estate




“อิตาเลียนฯ”เปิดแผนลงทุน เร่งสร้างรายได้ระยะยาว –กระจายความเสี่ยง เตรียมทุ่มงบ 24,000 ล้านบาท ขยายการลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่องรับเหมาก่อสร้าง ทั้งเหมืองแร่ –ปูนซีเมนต์ มั่นใจโกยรายได้มากกว่าธุรกิจรับเหมาก่อสร้างปีนี้ตั้งเป้าโกยรายได้ 50,000 ล้านบาท

ต้องยอมรับว่าธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมีการเติบโตไปในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องและอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ เพราะหากมีการลงทุนก่อสร้างก็ต้องใช้วัสดุก่อสร้าง และปูนซีเมนต์ในการก่อสร้างจำนวนมาก และถ้ายิ่งมีการลงทุนจำนวนมาก อุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะปูนซีเมนต์ก็จะยิ่งเติบโตมากขึ้นไปด้วย

ประเทศไทยเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา ซึ่งจะมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่จำนวนมาก ทั้งโครงการระบบขนส่งมวลชน และพัฒนาเมืองให้เจริญเทียบเท่าเมืองใหญ่ๆทั่วโลก โดยในอนาคตอันใกล้นี้ รัฐบาลมีแผนที่จะลงทุนโครงการศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ และอยู่ระหว่างรอให้รัฐบาลใหม่มาตัดสินใจว่าสุดท้ายแล้ว จะมีการลงทุนโครงการเมกกะโปรเจกต์ หรือรถไฟฟ้า 10 สายทางหรือไม่ แต่เชื่อว่าเส้นทางรถไฟฟ้าทั้ง 10 สายทางจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพื่อลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและแก้ปัญหาจราจรติดขัด

ดังนั้น จึงเชื่อว่าหลังจากที่รัฐบาลประกาศลงทุนโครงการเมกะโปรเจกท์ จะทำให้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการก่อสร้าง รวมถึงธุรกิจเหมืองแร่จะเติบโตควบคู่ไปด้วย

บริษัท อิตาเลียน ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) หรือ ITD ในฐานะผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ เห็นโอกาสในการเติบโตของอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง รวมถึงธุรกิจเหมืองแร่ บริษัทจึงแผนที่จะขยายการลงทุนสู่ธุรกิจดังกล่าว

เปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เพื่อสร้างรายได้ระยะยาวให้กับบริษัท โดยในอนาคตคาดว่ารายได้จากส่วนนี้จะมากกว่ารายได้ที่มาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง คาดว่าในปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 50,000 ล้านบาท สำหรับธุรกิจใหม่ที่บริษัทจะขยายนั้นจะเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ระยะยาว และช่วยกระจายความเสี่ยงกับบริษัทด้วย โดยรูปแบบการดำเนินการจะทำแบบครบวงจร ซึ่งแผนการขยายธุรกิจนั้นจะดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่เน้นการลงทุนพร้อมกันหลายธุรกิจ

ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ซื้อกิจการของบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปรแตซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ( APPC ) เพื่อเตรียมผลิตแร่โปรแตซ ที่จ.อุดรธานี ปัจจุบันยังไม่ได้รับสัมปทานการผลิต มูลค่า 80 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท จากกลุ่มทุนแคนนาดา โดยอิตาเลียนไทยฯ ถือหุ้น 90% อีก 10% ถือหุ้นโดยกระทรวงการคลัง และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่เป็น บริษัท สินแร่ไทย จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้เหมืองแร่โปรแตซนี้ถือเป็นหนึ่งใน 3 แห่งของโลก

ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขอประทานบัตร โดยหน่วยงานภาครัฐให้คำยืนยันว่าจะสามารถออกใบประทานบัตรได้ภายใน 1 ปี และหลังจากได้รับประทานบัตร บริษัทเตรียมแผนที่จะลงทุนสร้างเหมืองแร่ในทันที คาดว่าจะใช้งบประมาณในการลงทุนสร้างเหมืองแร่อีก 20,000 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี สามารถผลิตแร่ขายได้ทันที คาดว่าโครงการนี้จะสร้างรายได้ปีละ 20,000 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ลงทุนซื้อสัมปทานผลิตปูนซีเมนต์ โดยจัดตั้งบริษัท ภูมิใจไทยซีเมนต์ จำกัด ในปี 2546 ด้วยทุนจดทะเบียน 1,200 ล้านบาท และได้ลงทุนสร้างโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ บนเนื่อที่ 360 ไร่ มูลค่า 3,000 ล้านบาท โรงงานดังกล่าวมีกำลังการผลิตปูนเม็ด 2,500 ตัน/วัน ใช้ผลิตปูนซีเมนต์ได้ 3,000 ตัน/วัน หรือประมาณ 1 ล้านตัน/ปี ภายใต้แบรนด์ “ราชสีห์” โดยบริษัทได้รับสัมปทานเหมืองหินปูน 5 แปลง จำนวน 1,499 ไร่ คิดเป็นปริมาณหินสำรองสำหรับนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตปูนซีเมนต์ได้ถึง 700 ล้านตัน

ปัจจุบันบริษัทใช้ปูนจากบริษัทภูมิใจไทยซีเมนต์ เพียง 1 ใน 3 ของกำลังการผลิตเท่านั้นขณะที่ในแต่ละปี บริษัทจะใช้ปูนซีเมนต์ประมาณ 1 ล้านตัน เพราะต้องการกระจายสินค้าให้กับลูกค้าด้วย โดยปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายกว่า 100 ราย ทั้งภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก รวมถึงกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งคาดว่าปีนี้จะมีรายได้จากการขายปูนซีเมนต์ประมาณ 1,200 ล้านบาท

เปรมชัย กล่าวอีกว่า กำลังการผลิตดังกล่าว ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด และการใช้งานของบริษัท ดังนั้นจึงมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการกำลังการผลิตอีก 2 ล้านตัน/ปี โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนอีกประมาณ 4,000 ล้านบาท คาดว่าแผนการลงทุนดังกล่าวจะสามารถสรุปได้ภายในปีนี้ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 14 เดือน คาดว่าจะสามารถคุ้มทุนภายใน 5-6 ปี

ส่วนเงินที่จะนำมาเพิ่มกำลังการผลิตปูนซิเมนต์นั้น บริษัทมีแผนเพิ่มทุนอีก 1,500 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะเป็นการกู้เงินจากสถาบันการเงิน นอกจากนี้ ยังมีแผนที่ออกดอลล่าร์บอนด์ จำนวน 200 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถออกได้ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ อัตราดอกเบี้ย 7% ระยะเวลา 10 ปี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us