Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน22 พฤษภาคม 2549
'ตราเพชร'ปรับความเสี่ยงบาทแข็งถอนราคาปัจจุบันก่อนส่งออกสินค้า             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด

   
search resources

กระเบื้องหลังคาตราเพชร, บมจ.
Tiles and Roofs




"ตราเพชร"ยันค่าบาทแข็งค่าไม่กระทบส่งออก เหตุคำนวณเป็นบาทก่อนส่งสินค้าให้ตัวแทน แถมต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบจากยุโรปต่ำลง พร้อมกระตุ้นยอดขายช่วงนอกฤดูการขาย ชูกลยุทธ์Diamond Warehouse ให้เครดิตดีลเลอร์ 120 วัน สต๊อกสินค้าก่อนถึงฤดูขาย เล็งเพิ่มพอร์ตโครงการจัดสรร ดึงค่ายเพอร์เฟค-ปริญสิริ ดูความทันสมัยของกระบวนการผลิต คาดทั้งปียอดขายกว่า 2,000 ล้านบาท

นายไพฑูรย์ กิจสำเร็จ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ที่ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าในช่วงที่ผ่านมาว่า ไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออก เนื่องจากทางบริษัทมีแนวทางบริหารความเสี่ยง ที่สอดคล้องกับทิศทางของค่าเงินบาทมาตลอด โดยก่อนที่จะส่งออกสินค้า ทาง บริษัทจะมีการคำนวณเป็นเงินบาทแล้วค่อยส่งสินค้าให้แก่ลูกค้า ขณะที่บริษัทยังได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนนำเข้าสินค้าบางประเภทจากยุโรป ซึ่งถือแม้ว่าสัดส่วนนำเข้า จะไม่สูง แต่ก็เป็นประโยชน์กับบริษัท โดยในปีนี้คาดว่าสัดส่วนการส่งออกจะเพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 10% และปี 2550 เพิ่มเป็น 20% และจะมีการเพิ่มสินค้าใหม่ให้มีความหลากหลายมากขึ้น อนึ่ง ผลประกอบการไตรมาสแรกปี 49 บริษัทยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนกว่า 4 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากการแข็งค่าของเงินบาท ส่วนผบลกระทบจาก ราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น มีผลต่อต้นทุนขายสินค้าเพียงเล็กน้อยประมาณ 1.97 ล้านบาท

นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บริษัทฯว่า บริษัทยังคงหาตลาดใหม่ๆในต่างประเทศเข้ามาเสริม เพื่อรองรับการส่งออกของบริษัท เช่น เกาหลี และจีนที่ได้เริ่มเข้าส่งสินค้าไปในปี 2548 ส่วนประเทศญี่ปุ่นบริษัทได้ส่งสินค้าประเภทกระเบื้องคอนกรีตเข้าไป ขณะที่ในไต้หวันบริษัทมีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 49% เมื่อเทียบกับคู่แข่ง เนื่องจากตัวแทนจำหน่ายที่นำเข้าสินค้าจากบริษัทมีสาขาในไต้หวันถึง 16 สาขา ส่วนประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ยอดขายมีอัตราเติบโตที่สูงเช่นกัน

สำหรับตลาดในประเทศนั้น นายสาธิต กล่าวว่าในระยะนี้เป็นช่วงที่การขายสินค้าค่อนข้างชะลอตัว เนื่องจากเป็นฤดูนอกการขาย(โลว์ซีซัน) ทำให้บริษัทต้องงัดกลยุทธ์กระตุ้นยอดขาย โดยนำกลยุทธ์ซีอาร์เอ็มเข้ามาใช้ เน้นในกลุ่มตัวแทนจำหน่ายระดับบนที่มียอดขายระดับไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาทต่อเดือน ภายใต้โครงการ Diamond Warehouse หรือการให้ตัวแทนจำหน่ายสต๊อกจำนวนสินค้ามากขึ้นกว่าปกติ พร้อมขยายเวลาให้เครดิตทางการค้าจาก 30-45 วัน เป็น 120 วัน ซึ่งจะมีการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายที่เข้าร่วมโครงการอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันความเสี่ยง โดยจะเน้นตัวแทนจำหน่ายที่เป็นเกรดเอทั้งในแง่จำนวนสินค้าที่สั่งและประวัติทางการเงิน

ปัจจุบันบริษัทมีตัวแทนจำหน่ายกลุ่มดังกล่าวประมาณ 35 ราย เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีอยู่ประมาณ 10 กว่ารายเท่านั้น ซึ่งตัวแทนจำหน่ายกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่สร้างยอดขายให้กับบริษัทสูงถึง 40% จากรายได้รวมในปีที่ผ่านมา และตั้งเป้าที่จะให้ตัวแทนจำหน่ายระดับบนสร้างยอดขายให้เพิ่มมากขึ้น โดยลูกค้าที่มียอดการซื้อมาก ก็จะมีสิทธิ์ลุ้นรับรถกระบะโตโยต้า จากงานขอบคุณตัวแทนจำหน่าย Diamond Family Party 2006 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่19 – 21 พ.ค. 2549 ที่พัทยา ชลบุรี

" สาเหตุที่มาจัดงานที่พัทยา เนื่องจากยอดขายสินค้าในภาคตะวันออกนั้นเติบโตขึ้นถึง 50% และถือเป็นตลาดอันดับหนึ่งในปัจจุบัน โดยเฉพาะในจังหวัดชลบุรีและพัทยาโตขึ้นมากขณะที่ในระยอง ในนิคมอุตสาหกรรมก็มีการก่อสร้างบ้านพักในโรงงานจำนวนมาก รวมถึงโครงการประเภทรีสอร์ต บนเกาะช้าง จ.ตราดก็มีการก่อสร้างมากเช่นกัน"

ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์ซีเมนต์ 14% กระเบื้องหลังคาคอนกรีต 16% และไม้ฝา 24% เพิ่มขึ้นจากระดับ 14-16% ซึ่งผลิตภัณฑ์ประเภทไม้ฝาบริษัทสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงกว่าไม้ฝาตราช้างองเครือซิเมนต์ไทยแล้ว ส่วนทางด้านกำลังการผลิตขณะนี้บริษัทมีกำลังการผลิตรวม4.5 แสนตัน และอยู่ระหว่างการเพิ่มอีก 5 หมื่นตันภายในสิ้นปี 48

นายสาธิต กล่าวว่าลูกค้าในโครงการจัดสรร ในช่วงที่ผ่านมาสัดส่วนดังกล่าวยังมีไม่มากประมาณ 10% เนื่องจากยอดขายหลักจะมาจากตัวแทนจำหน่ายถึง 90% เพราะกลุ่มนี้จะสามารถเข้าถึงผู้รับเหมาและลูกค้าได้โดยตรง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังจะเพิ่มลูกค้าจัดสรร จากที่ก่อนหน้านี้มีบริษัทอสังหาฯสั่งสินค้าจากบริษัท อาทิเช่น บริษัทศุภาลัย บริษัท บีทูบี จำกัด รับสร้างบ้านในกลุ่มรอยัล เฮ้าส์ รวมถึงได้เข้าไปยังบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค , ปริญสิริ ในการเข้ามาความทันสมัยของกระบวนการผลิตและสินค้า

สำหรับเป้ารายได้รวมของบริษัทในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตขึ้นอีก 10% หรือประมาณ 2,200 ล้านบาท จากที่ในปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 2,108.02 ล้านบาท โดยในไตรมาสแรกมีรายได้รวม 594.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 77.88 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 19.69 ล้านบาท

ล่าสุดบริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้าเจียระไน (Jearanai Product) ได้แก่ กระเบื้องเจียระไน แผ่นผนังเจียระไน ไม้ระแนงและไม้เชิงชายเจียระไน โดยสินค้าที่ผลิตจากปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ เยื่อกระดาษ ใยสังเคราะห์ และส่วนผสมอื่นประเภทเดียวกับกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ มีข้อพิเศษ คือ กรรมวิธีการผลิตจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยจะไม่มีส่วนผสมของใยหิน ซึ่งจะมีผลต่อการเกิดมะเร็งได้ ขณะที่น้ำหนักจะเบากว่าสินค้าที่มีใยหินถึง 20% ทำให้การขนส่งมีความคล่องตัว บรรทุกน้ำหนักเพิ่มขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us