"ยูนิ อิมพีเรียล" สบโอกาสจัดสรรชะลอเปิดบ้านเดี่ยวระดับ 5ล้านบาทขึ้น เร่งผุดโครงการบ้านเดี่ยวเกาะแนวรถไฟฟ้าระดับ 5-7 ล้านบาท รับความต้องการลูกค้าในยุคน้ำมันแพง พร้อมงัดแลนด์แบงก์พัทยาย่านหาดจอมเทียนพัฒนาคอนโดฯกว่า 300ยูนิต เจาะลูกค้าต่างชาติ พ่วงโรงแรมแนวบลูติคโฮเต็ลย่านเมืองพัทยาเสริมรายได้ระยะยาว แจง5เดือนกวาดยอดขาย400ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 800-1,000 ล้านบาท
นายสุวรรณ เลิศปัญญาโรจน์ ประธานกรรมการ บริษัท ยูนิ อิมพีเรียล แลนด์ จำกัด ผู้ประกอบการบ้านจัดสรรแบรนด์ "อิมพีเรียล" เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี49นี้ คาดว่าผลกระทบที่เกิดจากการปรับขึ้นราคาน้ำมัน จะส่งผลให้ต้นทุนวัสดุก่อสร้างและค่าขนส่งของบริษัทและผู้ประกอบการเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ปัญหาเรื่องอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน และสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน ส่งผลให้ผู้ประกอบการในตลาดอสังหาฯชะลอการพัฒนาโครงการออกสู่ตลาด ทำให้ผู้ประกอบการในตลาดอสังหาฯลดลง ซึ่งถือเป็นผลดีต่อการพัฒนาโครงการและการเร่งยอดขายของบริษัท และภาวะของตลาดที่ชะลอตัว ยังช่วยคัดลูกค้าในกลุ่มที่เก็งกำไรออกไปจากตลาด ซึ่งมีส่วนสร้างเสถียรภาพให้แก่ตลาดอสังหาฯ
ทั้งนี้ แม้ว่าปัญหาดังกล่าว จะทำให้เกิดการชะลอการซื้อของกลุ่มลูกค้าออกไป แต่เชื่อว่าจะมีเพียงโครงการในบางทำเลที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเหล่านี้ โดยเฉพาะโครงการนอกเมืองออกไป ที่ไม่มีระบบคมนาคมและขนส่งมวลชนรองรับการเดินทาง ทั้งนี้ สาเหตุที่คาดว่าโครงการในทำเลนอกเมืองจะไม่ได้รับการตอบรับและได้รับผลกระทบจากการปัจจัยเบื้องต้นนี้ เพราะปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้น จะทำให้ผู้บริโภคหันมาพิจารณาถึงต้นทุนในการเดินทางมากเป็นพิเศษ และจะหันมาให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยในทำเลที่มีระบบคมนาคมสะดวกและรวดเร็ว
" โครงการของบริษัทนั้น ตั้งอยู่ในทำเลที่มาระบบรถไฟฟ้ารองรับการเดินทาง ทำให้ในช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้น จะทำให้กำลังซื้อลูกค้าลดลง และชะลอการตัดสินใจซื้อนานออกไป แต่ก็ยังได้รับการตอบรับอย่างสูงจากกลุ่มลูกค้า เพราะด้วยทำเลที่ตั้งโครงการ ที่สามารถตอบรับความต้องการลดต้นทุนในการเดินทางของลูกค้า จึงได้การตอบรับที่ดี "
นายสุวรรณ กล่าวว่าในปี 2549 บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายรวม 800-1,000 ล้านบาท โดยระยะ5 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายแล้ว 400 ล้านบาท ส่วนสต็อกสินค้าของบริษัทนั้นขณะนี้มีอยู่ 300 ยูนิต แบ่งเป็นบ้านสั่งสร้างและบ้านพร้อมอยู่ในสัดส่วน50-50% ส่วนแผนพัฒนาโครงการในปีที่ผ่านมา ได้เปิด 2 โครงการการใหม่ ประกอบด้วย 1.โครงการทาวน์เฮาส์ อิมพิเรียล เพลส มูลค่า 200ล้านบาท ขณะนี้ปิดการขายแล้ว 2.โครงการบ้านเดี่ยว อิมพีเรียล ลากูน่า มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 4 เฟส จำนวนการก่อสร้างรวม 400 ยูนิต โดยในเฟสแรกมีการพัฒนาไปแล้ว100 ยูนิต ระดับราคา 2-2.5 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้ว 30% และคาดว่าจะเปิดเฟสที่ 2 ในในไตรมาสที่ 2 นี้ ส่วนเฟสที่ 3 จะเปิดในช่วงปลายปี
โดยในปีนี้ ได้มีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 1-2 โครงการใหม่ โดยเมื่อวันที่ 20-21 เดือน พ.ค. ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดการขายอย่างเป็นทางการของโครงการ อิมพีเรียล พาร์ค สุขุมวิท 101 บนพื้นที่ 6ไร่เศษ จำนวน80 ยูนิต ระดับราคาขาย 5-7 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้เปิดพรีเซลล์ไปแล้ว 1 เดือนทำให้มียอดจองซื้อแล้ว 50% นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะปรับขึ้นราคาขายหลังจากหมดช่วงโปรโมชันอีก 5-10% เนื่องจากต้นทุนในการก่อสร้างปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ประกอบกับบ้านของบริษัทเป็นบ้านสั่งสร้าง ทำให้ต้องมีการปรับราคาขึ้นตามความต้นทุนจริง
สำหรับบ้านในโครงการ อิมพีเรียล พาร์ค สุขุมวิท มีพื้นที่เริ่มต้น 50 ตรว. ขึ้นไป โดยในช่วงการจัดโปรโมชันนี้ บริษัทได้มอบส่วนลดพิเศษให้แก่ลูกค้าที่ซื้อโครงการ โดยขายในราคาเริ่มต้นเพียง 4.99 ล้านบาท พร้อมมอบของแถมฟรีทีวีสีพลาสมาขนาด 42 นิ้ว , ปั๊มน้ำ , ถังเก็บน้ำบนดิน , เครื่องปรับอากาศ , หินแกรนิตปูพื้นชั้นล่างขนาด 60 x 60 ซม. , ระบบท่อกำจัดปลวก และแผ่นสะท้อนความร้อนใต้หลังคา อนึ่ง ทางกรุงเทพมหานครได้มีนโยบายผลักดันส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสเส้นอ่อนนุช-สำโรง
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ในเมืองพัทยา บริเวณหาดจอมเทียน ซึ่งเป็นที่ดินสะสมอยู่ประมาณ 16 ไร่ติดชายทะเล โดยจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 2 อาคาร จำนวน 200-300 ยูนิต มูลค่าขาย 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดฯโลไลท์ 4-5 ชั้น และคอนโดฯไฮท์ไลท์ 30 ชั้น มีระดับราคาขาย 80,000 บาทต่อตารางวา เจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ(กลุ่มดอลลาร์โซน) ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบโครงการ คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในช่วงปลายปีหรือต้นปี50 นี้
อย่างไรก็ดี บริษัทยังมีแผนจะพัฒนาโครงการโรงแรมในเมืองพัทยาอีก 1 โครงการ จำนวน 150 ห้อง ระดับราคาค่าเช่าต่อคืน 2,000 บาทขึ้นไป พัฒนาเป็นโรงแรมบลูติคโฮเต็ล บนพื้นที่5 ไร่เศษ คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 200ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีที่ดินสะสมในย่านสุขุมวิท 103อีก 30 ไร่คาดว่าจะพัฒนาเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับราคา 5 ล้านบาท และที่ดินสะสมในย่านบางใหญ่อีก 40 ไร่ ติดถนนวงแหวน ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงพิจารณาว่าจะพัฒนาในรูปแบบใด
อนึ่ง ผลจากโครงการสนามบินสุวรรณภูมิที่อยู่ในช่วงทดสอบสนามบิน ก็เริ่มมีความชัดเจนในการเปิดใช้ในเชิงพาณิชย์ และด้วยศักยภาพของเมืองพัทยา ในเรื่องของแหล่งท่องเที่ยว การเดิมทางจากสนามบินสู่เมืองพัทยาใช้เวลาไม่นาน ได้ทำให้เมืองพัทยามีแนวโน้มเติบโตขึ้น
|