"คิริน"ยักษ์ใหญ่น้ำเมา-ซอฟต์ดริงก์แดนปลาดิบ ปักธงรุกตลาดเครื่องดื่มในไทยเต็มสูบ ปูทางตลาดซอฟต์ดริงก์ นำร่องเปิดตัวชาเขียวพร้อมดื่ม "นะมาชะ" ลงสมรภูมิมูลค่า 5,000 ล้านบาท ก่อนตบเท้าขยายไลน์สู่เซกเมนต์อื่นๆ ชา กาแฟ น้ำผลไม้ ขณะที่ในอนาคตมีความเป็นไปได้สูงโดดลงสมรภูมิเบียร์มูลค่า 8.2 หมื่นล้านบาท

แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่ม เปิดเผยกับ"ผู้จัดการรายวัน"ว่า ขณะนี้บริษัทคิรินยักษ์ใหญ่ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และซอฟต์ดริงส์จากประเทศญี่ปุ่นได้เข้ามาเปิดธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว นำร่องด้วยการเปิดตัวชาเขียวพร้อมดื่ม "นะมาชะ" ชาเขียวแดนอาทิตย์อุทัยลงสู่ตลาด 2 รสชาติ ได้แก่ รสต้นตำรับ และรสหวานน้อย โดยได้ให้บริษัทโอสถสภาเป็นผู้จัดจำหน่าย ส่วนฟู้ดแอนด์ดริ๊งส์เป็นผู้ผลิตให้ สำหรับนะมาชะเป็นชาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น โดยจุดเด่นของนะมาชะซึ่งภาษาญี่ปุ่นแปลว่าใบชาสดที่เพิ่งเก็บ จะเป็นจุดขายที่เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทย

สำหรับสภาพตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมูลค่า 4,000-5,000 ล้านบาท ในปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 5-10% เมื่อเทียบกับ 2-3 ปีที่ผ่านมาตลาดมีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ดังนั้นการเข้ามาในตลาดชาเขียวของคิรินจึงเป็นเรื่องไม่ง่ายมากนัก เพราะนอกจากสภาพตลาดจะไม่โตมากแล้ว ในตลาดยังมีคู่แข่งยักษ์ใหญ่ 2 รายหลักที่แทบจะครองส่วนแบ่งแบบเบ็ดเสร็จ ได้แก่ ผู้นำตลาดชาเขียวพร้อมดื่ม "โออิชิ" มีส่วนแบ่งกว่า 60% อันดับที่สองคือ ยูนิฟ 20% เซนชะ 6% และเพียวริคุอันดับที่สี่ 3% นอกจากนี้ยังมีแบรนด์เล็กแบรนด์น้อยอีกหลาย 20-30 แบรนด์ในตลาด

ล่าสุดคิรินแนะนำชาเขียวนะมาชะ ด้วยการจัดรายการส่งเสริมการขาย แจกถุงสไตล์ญี่ปุ่นสำหรับใส่ของ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทดลองดื่ม โดยชาเขียวนะมาชะจำหน่ายในราคา 20 บาท ในช่วงแรกจำหน่ายผ่านช่องทางร้านค้าสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท และล่าสุดเซเว่นอีเลฟเว่น จากนั้นได้เตรียมกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศในเร็วๆนี้ ทั้งในส่วนของโมเดิร์นเทรด และร้านค้าทั่วไป

แต่อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวชาเขียวพร้อมดื่มนะมาชะของคิรินถือว่าเป็นใบเบิกทางก่อนที่จะขยายเครื่องดื่มในเซกเมนต์อื่นๆอย่างเต็มรูปแบบ เช่นเดียวกับประเทศจีนที่คิรินเข้าไปรุกตลาดด้วยเครื่องดื่มหลากหลายเซกเมนต์ อาทิ เครื่องฟังก์ชันนัลซอฟต์ดริงก์ หรือเป็นเครื่องดื่มที่ดื่มเพื่อประโยชน์ต่อร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่งเฉพาะเจาะจง เป็นต้น โดยปัจจุบันคิรินถือว่าเป็นบริษัทด้านเครื่องดื่มซอฟต์ดริงก์เป็นอันดับสามในประเทศญี่ปุ่น รองจากบริษัทซันโตรี่ และค่ายยักษ์ใหญ่บริษัท โคคา-โคลา จำกัด ในพอร์ตเครื่องดื่มซอฟต์ดริงก์ของคิรินมีทั้งกาแฟ ชา น้ำผลไม้ เป็นต้น

สำหรับการเข้ามาในประเทศไทย คิรินได้เข้าร่วมทุนบริษัทโอสถสภา โดยถือหุ้นในสัดส่วน 49.5% ส่วนที่เหลือ 50.5% เป็นของโอสถสภา โดยได้จัดตั้งบริษัท สยาม คิริน เบฟเวอร์เรจ จำกัด ถือว่าเป็นการประกาศรุกตลาดประเทศไทยอย่างจริงจัง และในอนาคตมีความเป็นไปได้สูงที่คิรินจะนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาทำตลาด โดยเฉพาะกลุ่มเบียร์ เนื่องจากตลาดเบียร์ไทยเป็นตลาดใหญ่มีมูลค่าถึง 8.2 หมื่นล้านบาท และมีอัตราการเติบโตราว 5% โดยก่อนหน้านี้ก็มีกระแสข่าวว่าคิรินจะเข้ามาเปิดตัวเบียร์ในไทยเช่นกัน

โดยปัจจุบันในพอร์ตเบียร์คิรินมีเบียร์หลากหลายเซกเมนต์ เช่น ไลท์เบียร์ที่ค่ายน้ำเมาไทยกำลังปลุกปั้นตลาดนี้กันอยู่ สำหรับในประเทศญี่ปุ่นก่อนหน้านี้เบียร์คิรินเป็นผู้นำตลาดเบียร์ แต่ช่วง 10 ปีนี้ที่ผ่านมานี้ได้เพลี่ยงพล้ำให้กับเบียร์อาซาฮี กระทั่งปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 40% เป็นอันดับสองของตลาด โดยขณะนี้คิรินกำลังไล่บี้อาซาฮี ซึ่งปัจจุบันเบียร์อาซาฮีครองส่วนแบ่งตลาด 55% นอกจากนี้ในพอร์ตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คิรินยังมีน้ำเมาตัวอื่นๆ เช่น ไวท์สปิริต,วอดก้า และไวน์ ฯลฯ