Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์22 พฤษภาคม 2549
Smart Brain พลิกกลยุทธ์การลงทุนเจาะตลาดโรงเรียน-ตั้งเป้าโต 100 สาขา             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท สมาร์ท เบรน จำกัด

   
search resources

Franchises
Education
สมาร์ทเบรน, บจก.




Smart Brain รุกต่อตลาดไทย หลังสร้างชื่อในต่างแดน ตั้งเป้า 1 อำเภอ 1 สาขา ผุด 20 สาขารับปี 49 พร้อมเปิดสูตรร่วมทุนกับโรงเรียนแบ่งรายได้คนละครึ่งเบื้องต้นโรงเรียนดังเครืออัชสัมชัญเข้าร่วมแล้ว เผยตลาดกรุงเทพเน้นร่วมทุนหวังสร้างรายได้มากกว่า ขณะต่างจังหวัดชูรูปแบบแฟรนไชส์สร้างแบรนด์ให้รู้จัก ชี้ตลาดการศึกษาไทยโตได้อีก 100 สาขา

จะมีใครคาดคิดว่าการศึกษาดูงานในฐานะตัวแทนเครื่องฟอกอากาศในประเทศมาเลเซียของ “สวาสดิ์ มิตรอารี” ในปี 2539 จะทำให้เขากลายเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์การศึกษาที่มีสาขามากที่สุดในโลกและเติบโตในตลาดต่างประเทศจนได้รับการยอมรับ แต่กับตลาดในไทย สวาสดิ์ยังเป็นฐานที่มั่นที่สำคัญและการเติบโตของธุรกิจการศึกษาในไทยยังมีโอกาสอีกมาก

สวาสดิ์ กล่าวกับ "ผู้จัดการรายสัปดาห์" ว่า เกิดจากความทึ่งในความสามารถของเด็กมาเลเซียที่เรียนโดยใช้หลักสูตรจินตคณิตทำให้ที่มีผลการเรียนดีขึ้น จากความการส่งลูกเรียน ก็มองในเชิงธุรกิจ โดยร่วมกับเพื่อนที่ทำงานด้านการศึกษา จัดทำหลักสูตรโดยได้แนวคิดและวิธีการสอดจากมาเลเซียสอดแทรกเข้าไป และศึกษาไปพร้อมๆกันจากที่ไต้หวัน

จนเกิดความพร้อมในการขยายธุรกิจในรุปแบบแฟรนไชส์ในปี 2540 จากการฟอร์มทีม สร้างเทรนเนอร์ เริ่มจากที่หาดใหญ่จนประสบความสำเร็จและขยายสู่กรุงเทพฯ และได้รับการต้อนรับอย่างดี

จากกลยุทธ์ครูพักลักจำจากแนวคิดธุรกิจต้นแบบ ทำให้สวาสดิ์ตัดสินใจไม่ซื้อแฟรนไชส์ของมาเลเซีย แต่ขณะเดียวกันเขาได้คิดระบบขายแฟรนไชส์ของตัวเองขึ้น

สำหรับหลักสูตรของสมาร์ทเบรนว่า มีทั้งหมด 10 ระดับ โดยช่วงอายุเด็กที่เริ่มเรียนในหลักสูตรจะเริ่มที่ชั้น ป .1 ไปจนถึง ป.6 ถ้า ป.5มาเริ่มเรียนก็ต้องเริ่มชั้น 1 ก่อน โดยจะแยกกลุ่มแยกชั้นเพื่อง่ายกับการสอนแล้วแต่สภาวะของพื้นที่

สวาสดิ์บอกว่า ธุรกิจการศึกษาจะได้รับความนิยมในเวลาอันรวดเร็วแต่นั่นก็มิได้หมายความว่าจะยั่งยืนมั่นคง โดยในระยะแรกจะมีรายได้เข้ามามากจากค่าแฟรนไชส์ฟี แต่หลังจากนั้นแฟรนไชซีต้องลงทุนกับค่าตำราเรียน และอุปกรณ์อื่นๆ รายได้จึงลดลง นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่แฟรนไชส์เมืองไทยอยู่รอดได้น้อย

เขาจึงกำหนดค่าเล่าเรียนตลอดจนตำราเรียนในอัตราเดียวกันที่ 3,800 บาท ต่อหนึ่งระดับต่อคนเวลา 3 เดือน และเก็บจากแฟรนไชซี 700 บาท ซึ่งถือว่าน้อยมาก

สำหรับแผนการขยายสาขาในประเทศไทยได้แบ่งออกเป็นพื้นที่กำหนดอำเภอละ 1 สาขา ป้องกันการเปิดเพื่อแข่งขันกันเอง ซึ่งไม่ใช่จุดประสงค์ของสมาร์ทเบรน เพราะฉะนั้นจึงพยายามรักษาฐานที่มีอยู่ให้ดีที่สุด ซึ่งก่อนที่สมาร์ทเบรนจะขยายสาขาไปยังต่างประเทศนั้นมีสาขาในไทยมากกว่า 100 สาขา แต่กระนั้นนักเรียนก็เริ่มลดลงเพราะมีโรงเรียนจินตคณิตเกิดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนผู้ปกครองเองแยกไม่ออกระหว่างของแท้หรือเทียม

"ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามันมีเยอะมากจนไม่รู้ว่าของจริงคืออันไหน แต่ปัจจุบันนักเรียนเริ่มเข้ามาอีกเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ ยี่ห้อหลายยี่ห้ออยู่ไม่ได้ก็ปิดกิจการไป ซึ่งของเรายืนไว้ตลอดซึ่งถ้าเทียบกับการไปเรียนต่างประเทศที่ต้องจ่ายแพงกว่าแต่ได้ผลเหมือนกัน เขาก็เลือกเรียนที่เมืองไทยดีกว่า เพราะ 10 คอร์สของเราประมาณ 40,000 บาท แต่อเมริกาหรือคูเวตคอร์สหนึ่งก็ 40,000 บาท แล้ว"

การวางแผนธุรกิจในปี 2549 ของตลาดในประเทศ ยังใช้มาตรฐานราคาราคาเดิม คือ ค่าแฟรนไชส์ฟี 150,000 บาท เก็บค่าเรียนต่อคนต่อระดับ 3,800 บาท ในกรณีที่มีสถานที่แต่เป็นนิติบุคคล ถ้าเป็นการสอนในโรงเรียนสมาร์ทเบรนจะเสนอราคาเอง จะมากหรือน้อยกว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับโรงเรียนที่เก็บเพิ่มหรือไม่

"เราจะเดินเข้าทุกโรงเรียนโดยที่โรงเรียนไม่ต้องซื้อแฟรนไชส์ เป็นการร่วมทุนธุรกิจ โรงเรียนมีสถานที่อยู่แล้ว ส่วนเรามีธุรกิจมีอุปกรณ์ โรงเรียนใช้สถานที่อย่างเดียวแต่บางแห่งเราต้องอาศัยครูในโรงเรียนด้วยถ้าเขามี รายได้ก็แบ่งกัน นโยบายนี้จะเริ่มปีนี้และเครืออัสสัมชัญเข้าร่วมแล้ว"

สวาสดิ์ ตั้งเป้าหมายการขยายสาขาในไทยว่ามีแนวโน้มจะเปิดได้อีก 100 สาขา และเริ่มขยายโรงเรียนสาขาเพราะมีครูเพิ่มขึ้น แต่ในปีนี้จะเปิดก่อน 20 สาขา สำหรับต่างจังหวัดจะกระจายไปทุกภาคทั่วประเทศ

ส่วนในกรุงเทพจะเน้นการร่วมทุนทางธุรกิจมากกว่า เพราะรายได้จะมีมากกว่าการขายแฟรนไชส์ ต่างจังหวัดยังจะเป็นแฟรนไชส์อยู่ ซึ่งขณะนี้กำลังหาฐานในแต่ละภูมิภาคอยู่ ภาคเหนือเป้าหมายคือเชียงใหม่ โดยจะมีการกระจายตัวลักษณะเดียวกับต่างประเทศ คือมีมาสเตอร์แฟรนไชส์ในแต่ละพื้นที่ และให้มาสเตอร์หาลูกค้าเองโดยไม่เก็บค่าแฟรนไชฟีเพิ่ม

การพัฒนาหลักสูตร และวิธีการสอนทุก 5 ปี หลังจากเก็บข้อมูลวิจัยจากทุกสาขาทั่วโลก ซึ่งวิธีการสอนเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่ละประเทศมีการสอนไม่เหมือนกัน แม้แต่ประเทศไทยในแต่ละแห่งวิธีการสอนของครูแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน

"สหรัฐอมริกาสอนจินตคณิตผนวกกับศิลปะ สิงคโปร์ก็มีแนวทางสอนในแบบของเขา เราก็ได้ไอเดียเหล่านั้นมาทำวิจัย โดยการเก็บข้อมูลภายในเวลา 5 ปี จากแต่ละที่ทั้งเมืองไทย และต่างประเทศ และมีการแข่งขันหาแชมป์ทุกปีสำหรับเมืองไทย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนา"

ในเมืองไทยมีการตรวจเยี่ยมทุกๆ 3 เดือนและถามการเทคนิคการสอน ซึ่งหลักสูตรใหม่ที่จะปรับต่อไป คือ หนังสือจะเล็กลง การบ้านน้อยลง ปรับลดและเพิ่มในบางระดับ เพื่อเพิ่มศักยภาพในแต่ละระดับให้แน่นขึ้น และกระตุ้นการเรียนรู้โดยจัดการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานทุกปีสำหรับประเทศไทย

เขามองแนวโน้มการลงทุนสำหรับธุรกิจการศึกษาว่ายังมีความน่าสนใจ และแนวทางต่อไปสมาร์ทเบรน จะใช้หลักสูตรที่พัฒนาและเสริมสร้างความจำ มีเป้าหมายเป็นกลุ่มผู้ใหญ่ในระดับมัธยมศึกษาไปจนถึงกลุ่มคนทำงาน ซึ่งหลักสูตรนี้เป็นแฟรนไชส์ของประเทศจีนที่สอนในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ซึ่งหากจีนตอบรับให้ สมาร์ท เบรน เป็นแฟรนไชซี สวาสดิ์แสดงความมั่นใจว่าเขาสามารถขยายหลักสูตรนี้ไปยังประเทศอื่น ๆ ได้

สวาสดิ์ ได้ให้ข้อคิดสำหรับแฟรนไชซอร์ไทย ที่ต้องการขยายธุรกิจว่า ต้องมีความกล้าและ ยืนบนหลักการ ต้องรู้ว่าสินค้าของเรามีข้อดีที่จะไปสู้กับสินค้าอื่นอย่างไรเพราะการแข่งขันในตลาดสูง แต่เมื่อตัดสินใจลงทุนกับต่างชาติแล้ว การเขียนสัญญาต้องมีหลักประกันที่ให้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

เนื่องจากสินค้าของสมาร์ทเบรนเป็น Know how ไม่สามารถจดลิขสิทธิ์ได้ จึงพยายามสร้างมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก แต่ทั้งนี้ต้องวางรากฐานในบ้านตัวเองให้แน่นเสียก่อน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us