Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2543








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2543
เจ.พี.มอร์แกนเชส บนเส้นทางสู่ชื่อเสียงและความมั่งคั่ง             
 


   
search resources

เจ.พี.มอร์แกนเชส
Banking and Finance




บนเส้นทางสู่ชื่อเสียง และความมั่งคั่ง

แง่มุม ที่น่าตระหนกตกใจที่สุดเมื่อเชสแมนฮัตตันซื้อกิจการเจ.พี.มอร์แกนมูลค่า 30 พันล้านดอลลาร์ คือ กรณีซื้อกิจการดังกล่าวช่างเป็นเรื่อง ที่ธรรมดาเรื่องหนึ่ง

ทั้ง ที่ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ไม่นานนัก เรื่องนี้คงจะดูประหลาดเป็นที่สุด เพราะเมื่อปี 1990 เจ.พี.มอร์แกนเป็นกิจการที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในกลุ่มธุรกิจธนาคาร และโบรกเกอร์สหรัฐฯ ในขณะที่ปัจจุบันเชสฯ ยังคงเป็นหนึ่งในสามธนาคารชั้นนำของนิวยอร์ก

อาจเป็นเคราะห์หามยามร้ายก็ได้ เมื่อต้นเดือนกันยายน ที่ผ่านมาชื่อของ "มอร์แกน" ยังหมายถึงมอร์แกน สแตนเลย์ และเจ.พี.มอร์แกนไม่ได้ติดอันดับหนึ่งในสิบของธนาคารหรือบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ กิจการที่มีศักยภาพพอ ที่จะเข้ามาช่วยอุ้มกิจการเจ.พี.มอร์แกนได้ มีน้อยรายเต็มที

ยูบีเอส วอร์เบิร์กประกาศว่าจะเข้าซื้อเพน เว็บเบอร์ภายในฤดูร้อนนี้ และเมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ซีเอสเอฟบีก็ฮุบกิจการดีแอลเจ ในขณะที่เชสฯ กำลังมองหาลู่ทางซื้อกิจการเช่นกัน โดยเล็งเป้าหมาย ที่แฮมเบรชท์ แอนด์ ควิสต์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตพลังงาน

หากมองผิวเผิน ดูเหมือนว่าเชสฯ และเจ.พี. มอร์แกนป็นกิจการที่เข้าคู่กันได้ดี แต่เจ.พี.มอร์แกนไม่ใช่ตัวเลือกอันดับแรก เชสฯ เคยทำวิจัยหาคู่ร่วมธุรกิจมาก่อนหน้านี้ ซึ่งตัวเลือกหนึ่งเป็นกิจการมีชื่อเสียงอย่างเมอร์ริล

ดังนั้น คำพูดของวิลเลี่ยม แฮริสัน ซีอีโอของเชสฯ ที่ว่า "ผมคิดว่าการควบกิจการกับเจ.พี.มอร์แกนเป็นการควบกิจการที่ดีที่สุด" จึงอาจเป็นการพูด ที่เกินจริงไป ยิ่งกว่านั้น เชสฯ ยังซื้อกิจการในราคาสูงมากภายหลังการควบกิจการเป็น "เจ.พี.มอร์แกนเชส" กิจการใหม่จึงยังห่างไกลจากบริษัทชั้นนำอย่างโกลด์แมน ซาคส์ และมอร์แกน สแตนเลย์ ในแง่ของการอันเดอไรต์หุ้น

จึงไม่น่าแปลกใจ ที่แฮริสันต้องการจะเปลี่ยนแปลงบางอย่าง "คิดว่าภายในระยะเวลาอีกไม่นานนัก เราจะเป็นผู้นำในด้านตลาดทุน" ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของมาร์ค เชบไพโรรองประธานกรรมการเชสฯ ที่ว่า "ในเดือนพฤศจิกายนนี้เราจะได้ทำธุรกิจบางอย่างร่วมกัน"

ความคิดนี้อาจจะถูกเพราะเจ.พี.มอร์แกนเชส จะกลายเป็นโฮลดิ้งคอมปะนีธุรกิจธนาคาร ที่ใหญ่อันดับสามของสหรัฐฯ มีมูลค่าสินทรัพย์ถึง 660 พันล้านดอลลร์ โดยมีจุดแข็งสำคัญๆ อาทิ เป็นอันดับสามในเชิงการจัดการสินทรัพย์ เป็นอันดับสี่ของกิจการที่มีการควบกิจการระดับโลก และเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อภาคธุรกิจในระดับชั้นนำ

ที่สำคัญเชสฯ ได้พิสูจน์ตัวเองว่ามีความเชี่ยวชาญทางธุรกิจอย่างแท้จริง "ผลงานเดิมก็มีอยู่แล้ว" เดวิด เบอรี่ หัวหน้าส่วนวิจัยของคีฟ บรูเยตต์ แอนด์ วูดส์บอก ผลงาน ที่น่าภูมิใจอย่างหนึ่งเห็นจะเป็นกรณีการซื้อกิจการมอร์แกน ซึ่งใช้ชื่อกิจการใหม่โดยให้ขึ้นต้นด้วยเจ.พี.มอร์แกน ซึ่งทำให้ฝ่าย ที่ถูกซื้อกิจการรู้สึกเหมือนกับเป็นผู้ร่วมธุรกิจกันมากกว่าเป็นฝ่ายถูกซื้อ แต่นี่ก็เป็นลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เพราะยังมีงานใหญ่รอให้ทำอีกมาก ดัง ที่ จิมมี่ ลี รองประธานกรรมการของเชสฯ กล่าวในการประชุมพนักงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า "เรากำลังจะโตขึ้น ดีขึ้น และมีขีดความสามารถ ที่มากขึ้นสำหรับความรัก"

เรียบเรียงจากนิตยสารฟอร์จูน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us