|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กลุ่มการแพทย์ไตรมาสแรกปีนี้โชว์ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องดีเกือบทุกบริษัท โดย ผลงานรวมกำไรเพิ่มขึ้นเกือบ 26.86 % คือเพิ่มจาก 765.78 ล้านบาทในไตรมาส แรกปี 48 เป็น 971.50 ล้านบาทในไตรมาสแรกปีนี้ เนื่องจากหลายแห่งปรับปรุงสถานประกอบการให้กว้างขวางและมีศูนย์การแพทย์เฉพาะเพิ่ม รวมทั้งผู้ป่วยประกันตน ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ด้วย โดย LNH กำไรทะยาน ส่วน RAM BGH และ KH ยังคงโดดเด่น แม้ว่าจะมีบางตัวที่กำไรหดลงบ้างอันเป็นผลจากค่าใช้จ่ายและดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
LNH กำไรโตสุด RAM BGH ยังคงเจ๋งเติบโตต่อเนื่อง
สำหรับ LNH หรือบริษัท โรงพยาบาลเชียงใหม่ธุรกิจการแพทย์ จำกัด (มหาชน) แม้ว่าบริษัทนี้จะมีกำไรไตรมาสแรกไม่มาก แต่ปีนี้ไตรมาสแรกของ LNH กำไรยังขยับ เนื่องจากได้รับรายได้ค่าบริการทางการ แพทย์แบบเหมาจ่ายเพิ่มขึ้น แต่จากการที่ต้นทุนค่ารักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น เนื่องจาก ในปี 2549 มีจำนวนคนไข้มาใช้บริการ มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยประกันสังคมทำให้ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาเพิ่มขึ้นประมาณ 1.60 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเงินเดือนและค่าจ้างเพิ่มขึ้น ค่าซ่อมแซมและค่าใช้จ่ายในการบริหารล้วนเพิ่มขึ้น
ขณะที่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BGH ไตรมาสแรกปีนี้โตกว่า 38% เนื่องจาก การเพิ่มขึ้นของรายได้ทั้งบริษัทและบริษัทย่อย ส่งผลให้การขยายตัวของรายได้จากการเข้ามาพักรักษาของคนไข้เพิ่มขึ้น จากการที่บริษัทได้มีการ ขยายศูนย์การแพทย์เฉพาะทางเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้การที่บริษัทปรับโครงสร้างการถือหุ้นภายในกลุ่มโรงพยาบาลภาคตะวันออกและเปลี่ยนสถานะจากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อย มีผลทำให้รายได้ของค่าบริการคนไข้ตามงบการเงินรวมสูงขึ้น ขณะที่ AHC ของบริษัท โรงพยาบาลเอกชล จำกัด(มหาชน) กำไรเพิ่มขึ้นเกือบ 20% จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจาก 140 ล้านบาท เป็นเกือบ 170 ล้านบาทในไตรมาสแรกปีนี้ ขณะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มจาก 112 ล้านบาทเป็น 132 ล้านบาท ในไตรมาสแรกปีนี้
สำหรับ RAM ของบริษัทโรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด(มหาชน) ถือว่าผลการดำเนินงานโดดเด่นกว่าโรงพยาบาลอื่นๆ สำหรับไตรมาสแรกปีนี้ เพราะโตเกิน 50% จากไตรมาสแรกปีก่อนที่มีกำไสุทธิ 75.92 ล้านบาท เป็น 118.06 ล้านบาท เนื่อง จากรายได้จากการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นอีกทั้งยังรับส่วนแบ่งจากบริษัทย่อยและร่วมเพิ่ม แม้ว่าบริษัทจะมีรายการค่าเผื่อการด้อยค่าเงินลงทุนใน บริษัท โรงพยาบาลชัยภูมิ ราม จำกัดก็ตาม ส่วน VIBHA หรือบริษัทโรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) ไตรมาสแรกปีนี้กำไรขยับเล็กน้อยจากงวดไตรมาสแรกปี 48 ที่มี14.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 15.77 ล้านบาทในไตรมาสแรกปีนี้ เนื่องจากรายได้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยใน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารลดลง
ส่วน BH หรือบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) กำไรไตรมาสแรกปีนี้ขยับไปเกือบ 18% โดยเพิ่มจาก 227.12 ล้านบาทจากปีก่อน เป็น 267.11 ล้านบาท และรายได้ของบริษัทก็เพิ่มขึ้น 21% จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของกิจการโรงพยาบาล ซึ่งเป็นการเติบโตจากรายได้ผู้ป่วยทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นยังคงที่ในระดับ 38% และค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้ให้อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA MARGINA) ดีขึ้นเป็น 25.1% ในไตรมาส 1 ปี 2549
KDH หรือ บริษัท โรงพยาบาล กรุงธน จำกัด (มหาชน) โชว์ผลงานไตรมาสแรกปีนี้ขยับต่อเนื่อง โดยกำไร สุทธิเพิ่มจาก 9.54 ล้านบาท เป็น 11.62 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีจำนวนผู้ประกันตนประกันสังคมและได้รับเงินค่าเหมาจ่ายรายหัวของผู้ประกันตนจากสำนักงานประกันสังคมเพิ่มขึ้นจากปี 2548และมีรายได้จากผู้ป่วยทั่วไปที่มาใช้บริการเพิ่มขึ้น จึงทำ ให้ผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2549 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2548
ขณะที่ KH หรือบริษัท บริษัทบางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) ที่ผลงานไตรมาสแรกปีนี้ออกมาเจ๋ง โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 40% โดยเพิ่มจาก 63.57 ล้านบาท ใน ไตรมาสแรกของปี 48 เป็น 90.46 ล้าน บาทในไตรมาสแรกปีนี้ อันเป็นผลจากการปรับเพิ่มงบประมาณรายหัวของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2548 บวกกับการที่บริษัทได้เปลี่ยนวิธีการรับเงิน ของผู้ป่วยในของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จากการเหมาล่ำซำต่อหัว เป็นเบิกตามความรุนแรงของโรคที่ให้บริการ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2548 ส่งผลให้จำนวนผู้ประกันตนในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเฉลี่ยไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้นจากไตร-มาสแรกป• 48 อีกทั้งงบประมาณเพิ่มจากการเพิ่มสิทธิการคลอดบุตรในกองทุน ประกันสังคม และการเพิ่มสิทธิทันต-กรรมของผู้ประกันตน
โรงพยาบาล บริษัท วัฒนาการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEW ไตรมาสแรกปีนี้บริษัทเริ่มฟื้นตัวแล้ว จากไตรมาสแรกปี 48 ที่ขาดทุนเกือบ 2 ล้านบาท แต่ปีนี้กลับมีกำไรเกือบ 1 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการ ปรับปรุงมาตรฐานการบริการรักษาอยู่ ตลอดเวลา อีกทั้งได้ขยายแผนกผู้ป่วย นอกไปชั้น 1 อาคาร 3 ทำให้สถานที่ โอ่โถง สะดวกสบายแก่ผู้มาใช้บริการมากยิ่งขึ้นทำให้มีผู้ป่วยมาใช้บริการมากขึ้น รวมทั้ง โรงพยาบาลนนทเวช จำกัด (มหาชน) หรือ NTV ก็เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ผลการดำเนินงานปีนี้กำไรยังโตต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่ก้าวกระโดดก็ตาม
M-CHAI และ SVH กำไรตกเกือบ 40%
บริษัทในกลุ่มนี้ที่ผลงานตกคือ M-CHAI หรือบริษัทโรงพยาบาลมหาชัย จำกัด(มหาชน) ไตรมาสแรกปีนี้พบว่ากำไรลดลง สวนทางกับโรงพยาบาลอื่นที่ส่วนใหญ่กำไรโต โดยลดลงจากไตรมาสแรกของปี 48 ที่มี 17.60 ล้านบาท แต่ไตรมาสแรกปีนี้มีกำไรสุทธิเพียง 10.64 ล้านบาท หรือกำไรหดเกือบ 40% แม้ว่ารายได้จากค่ารักษาพยาบาลจะเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของคนไข้ แต่ต้นทุนการบริหาร และค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นเกือบ 20% บวก กับภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นถึงกว่า 107% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
บริษัท โรงพยาบาลศิครินทร์ จำกัด (มหาชน) ( SKR) เป็นอีกบริษัทหนึ่งของกลุ่มนี้ที่มีผลกำไรไตรมาสแรกตกเกือบ 26% โดยลดลงจากเดิมที่มี 17.93 ล้านบาทเหลือเพียง 13.27 ล้านบาทในไตรมาสแรกปีนี้ เพราะรายได้แม้จะขยับแต่ก็เพียงเล็กน้อย แต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากต้นทุนในการรักษาพยาบาล และยังมีค่าเสื่อม ราคาจากการขยายอาคารโรงพยาบาลใหม่ และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลกระทบจาก การปรับต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้ง SVH หรือ บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) ที่กำไรไตรมาสแรกตกลงเล็กน้อย แม้ว่ายอดขายไตรมาส แรกจะเติบโตโดยเพิ่มจาก 672.70 ล้านบาทเป็น 805.57 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทก็เพิ่มขึ้นเกือบ 20%
|
|
|
|
|