|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"ฮาร์ท" อตีดนักร้องดูโอ "วงเบิร์ดกับฮาร์ท" รุกธุรกิจอสังหาฯ หลังผันตัวเองจากนักร้องเป็นพิธีกรชื่อดัง เตรียมเปิดกรุที่ดินมรดกที่บิดามอบให้ ทำโครงการจัดสรร ชิมลางจับมือจัดสรรพื้นที่อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ผุดโครงการบ้านเดี่ยวราคา3-10ล้านบาท มูลค่าขายกว่า 360 ล้านบาท ต่อด้วยการจูงมือภรรยา เปิดรีสอร์ท ริมทะเลย่านชะอำ รุกธุรกิจเช่า จับกลุ่มลูกค้าต่างชาติกระเป๋าหนัก
นายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล นักร้องและพิธีกรชื่อดัง เปิดเผยว่าได้นำที่ดินมรดกที่บิดาซื้อไว้ ที่ อ.สันแพง จ.เชียงใหม่ ประมาณ 120 ไร่ ไปพัฒนาเป็นโครงการบ้านจัดสรร โดยร่วมทุนกับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่น ที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาทั้งบ้านเดี่ยว รีสอร์ท และคอนโดมิเนียม โดยรูปแบบการพัฒนาจะแบ่งเป็น 3 เฟสๆแรก พัฒนาบนพื้นที่ 25 ในรูปแบบของบ้านเดี่ยวสไตล์ล้านนา โมเดิร์น รูปแบบคล้ายๆโรงแรมดาราเทวีฯ จำนวน 60 ยูนิต ราคาขาย 4-10 ล้านบาท มูลค่าประมาณ 360 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ ความคืบหน้าอยู่ระหว่างการออกแบบและก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค ส่วนแผนการเปิดขายโครงการนั้น ยังอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับผู้ร่วมทุนก่อน ซึ่งคาดว่าต้องรอให้สถานการณ์การเมืองนิ่งเสียก่อน รวมไปถึงภาวะอัตราดอกเบี้ย,น้ำมันและวัสดุก่อสร้าง ที่ส่งผลต่อการพัฒนาโครงการ เพราะตัวเลขยังไม่หยุดนิ่ง
สำหรับที่ดินบางส่วนที่เหลือยังมีแผนที่จะแบ่งพื้นที่เป็นบูติครีสอร์ทอีกด้วย โดยจะต้องหาพันธมิตรชาวต่างชาติเข้ามาร่วมบริหาร ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจา โดยเป็นกลุ่มทุนจากสหรัฐอเมริกาและมีโครงการอยู่ที่ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วย ซึ่งเขาค่อนข้างมีเงื่อนไขมากพอสมควร นอกจากนี้ยังจะพัฒนาที่พักแบบลองสเตย์ มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นชาวญี่ปุ่น ยุโรปและสหรัฐอเมริกา อีกด้วย ซึ่งทั้งโครงการตั้งเป้าปิดการขายภายในระยะเวลา 3 ปี
นายสุทธิพงศ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ตนยังมีที่ดินสะสมอีกหลายแปลงทั้งในกทม.และต่างจังหวัดที่ล้วนเป็นที่ดินมรดกทั้งสิ้น แต่คงต้องทยอยออกนำมาพัฒนา โดยเฉพาะในกทม.มีแผนที่จะนำที่ดินบริเวณซอยเสือใหญ่อุทิศ บนพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ มาพัฒนาในรูปแบบของอพาร์ตเม้นท์ให้เช่า จำนวน 1 อาคารก่อนเพื่อเป็นการชิมลาง โดยมีความสูงประมาณ 8 ชั้น รวม 79 ยูนิต ขนาดพื้นที่ประมาณ 26-40 ตารางเมตร ราคาอยู่ที่ประมาณ 4,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน มูลค่าการลงทุนประมาณ 30-40 ล้านบาท มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนทำงาน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
" ถ้าปล่อยที่ดินไว้เฉยๆ ก็เสียภาษี สู้มาพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มจะดีกว่า ถามว่าจะเข้ามาสู่ธุรกิจอสังหาฯอย่างเต็มตัวนั้น คิดว่าคงไม่ เพราะตอนนี้ก็อายุมากแล้ว ไม่รู้จะก่อหนี้ไปทำไหม แต่ตนจะค่อยๆทำ ดูความเสี่ยงและความคุ้มค่าเป็นสำคัญ " พิธีกรชื่อดังกล่าวและว่า
ตนยังได้ร่วมกับภรรยา เปิดบริษัท สบายา กรุ๊ป โดยตนทำหน้าที่เป็นกรรมการบริหาร บริษัท เพื่อพัฒนาที่ดินสะสมซึ่งเป็นมรดกที่บิดามอบให้ ซึ่งหากเก็บไว้เฉยๆก็จะต้องเสียภาษีที่ดินทุกปีโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาตนและภรรยา คือนางเดือนเพ็ญ ทัดพิทักษ์กุล จึงได้เริ่มศึกษาการบริหารงาน โดยนำที่ดินที่มีศักยภาพแต่ละแปลงมาศึกษาถึงความเป็นไปได้ ซึ่งได้เริ่มจากการนำที่ดินประมาณ 5 ไร่ บริเวณถนนหนองแจง อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี มาพัฒนาโครงการ"สบายา จังเกิล รีสอร์ท"
ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนกับกองทุนเพื่อร่วมลงทุนในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมโดย บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนวรรณ (บลจ.วรรณ) โดยกลุ่มของตนถือหุ้นในสัดส่วน 70% ที่เหลืออีก 30%เป็นของกลุ่มผู้ร่วมทุน โดยพัฒนาโครงการในรูปแบบของรีสอร์ทในนามบริษัท สบายา กรุ๊ป ด้วยทุนจดทะเบียน 8 ล้านบาท และในเร็วๆนี้มีแผนที่จะเพิ่มทุนเป็น 15 ล้านบาท สำหรับรูปแบบการพัฒนาโครงการจะเป็นบ้านพักทั้งหมด 17 หลัง ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 7 หลังและอยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้างอีก 10 หลัง อัตราค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 2,399 บาทต่อคืน
"โดยส่วนตัวแล้วตนและภรรยาเป็นคนที่ชอบเดินทางและชอบการดีไซน์ ดังนั้นจึงอยากทำรีสอร์ทที่ไม่ใช่เพื่อการพาณิชย์ขึ้นมา ประกอบกับมีที่ดินอยู่แล้วจึงนำมาพัฒนาเป็นการชิมลางก่อน โดยคาดว่าจะเปิดโครงการสบายาอย่างเป็นทางการประมาณเดือนมิ.ย.นี้ นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะนำที่ดินมรดกอีก9ไร่ บริเวณ ถ.เจ้าลาย อ.ชะอำ มาจัดสรรขายอีกด้วย มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวยุโรป ที่ปัจจุบันมาอาศัยอยู่ในชะอำเป็นจำนวนมาก บางรายก็มีภรรยาเป็นคนไทย ซึ่งอาจจะแบ่งขายแปลงละประมาณ 120-150 ตารางวา และมีแบบบ้านให้ลูกค้าเลือกประมาณ 4-5 แบบ ส่วนราคาขายนั้นยังไม่ได้กำหนดแต่อย่างใด เนื่องจากอยู่ในระหว่างการสำรวจความต้องการในตลาด โดยปัจจุบันราคาประเมินในย่านดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 1.5 หมื่นบาทต่อตารางวา(ที่ดินอยู่ห่างจากชายหาดประมาณ 100 เมตร) ซึ่งหากสรุปข้อมูลได้ทั้งหมดก็คงต้องมีการตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาบริหารงาน รวมถึงมีแผนที่จะนำที่ดินแปลงงามบริเวณบ้านบางเกตุ อ.ชะอำ (ถนนสายปึกเตียน-ชะอำ)ซึ่งติดทะเลและถนนสายหลัก บนพื้นที่ 50 ไร่ ซึ่งบิดาได้ซื้อไว้เมื่อประมาณปี18 ราคาประเมินในปัจจุบันอยู่ที่ไร่ละประมาณ 7-8 ล้านบาท มาพัฒนาในรูปแบบของรีสอร์ทและจัดสรร ระดับ 6 ดาว เทียบเท่าเอวาซอนฯหัวหิน เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบโครงการ สำหรับที่ดินแปลงดังกล่าวได้มีกลุ่มนายหน้าและนักลงทุนเข้ามาติดต่อขอซื้อเป็นจำนวนมาก แต่ราคาที่นำเสนอนั้นไม่เป็นที่พอใจ โดยส่วนใหญ่จะเสนอในราคาประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งตนคิดว่านำมาพัฒนาเองจะดีกว่า
|
|
|
|
|