Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน16 พฤษภาคม 2549
"ศุภาลัย" ไม่หวั่นเศรษฐกิจซบเปิดโครงการเพิ่ม7-8โครงการ             
 


   
www resources

โฮมเพจ ศุภาลัย

   
search resources

ศุภาลัย, บมจ.
Real Estate




"บิ๊กศุภาลัย" ไม่หวั่นเศรษฐกิจซบ เดินหน้าเปิดโครงการใหม่ 7-8 โครงการ จากแผนเดิมเปิดแค่ 6 โครงการ หวังสร้างยอดขายปีนี้ 8,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมงบซื้อที่ดินเพิ่ม 1,500 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการปริญสิริ กำไรวูบ 27% อ้างโครงการเปิดใหม่น้อย ด้านเมโทรสตาร์ ไม้น้อยหน้าลดทุน 34 ล้านบาท เหตุถูกหักภาษี

นายอธิป พีชานนท์ กรรมการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ มีแผนจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มเป็น 7-8 โครงการ จากเดิมที่วางเป้าเปิดโครงการใหม่ 6-7 โครงการ โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวมมากกว่า 10,000 ล้านบาท ทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม ในปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมในสัดส่วน 57% บ้านเดี่ยว 35% และทาวน์เฮาส์ 8%

ส่วนงบซื้อที่ดินตั้งไว้ที่ 1,500 ล้านบาท โดยทางบริษัทฯ มีความสนใจในพื้นที่หลายทำเล ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีเจ้าของที่ดินหลายรายเข้ามาติดต่อเสนอขาย ซึ่งบริษัทฯ จะพิจารณาจากความเหมาะสมเป็นหลัก โดยคาดว่างบซื้อที่ดินดังกล่าวจะสามารถซื้อที่ดินได้จำนวน 6-7 แปลง เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในอนาคต ในปัจจุบันบริษัทฯ มีที่ดินในมือรอการพัฒนาประมาณ 196 ไร่ ประกอบด้วยที่ดินในย่านบางไทร 22 ไร่ ภาษีเจริญ 8 ไร่ และออร์คิด พาร์ค พระราม 2 จำนวน 166 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินที่ทยอยพัฒนาโครงการ

ด้านนางอัจฉรา ตั้งมติธรรม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัยฯ กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายปี 2549 อยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 7,380 ล้านบาท เนื่องจากมีการเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม ในไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) อยู่ที่ประมาณ 43% โดยทั้งปีทางบริษัทฯ จะพยายามรักษากำไรขั้นต้นดังกล่าวให้ได้ 40% เนื่องจากมีบ้านพร้อมขายซึ่งเป็นต้นทุนเก่าอยู่ในมือ และมีการตกลงกับผู้รับเหมาก่อสร้างในอัตราค่าก่อสร้างที่คงที่ แม้ว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้นในอนาคตก็ตาม

ด้านบริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งผลการดำเนินงานของสบริษัทในไตรมาสแรก กำไรสุทธิ 38 ล้านบาท ลดลง 27 .11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 52.27 ล้านบาท โดยบริษัทได้ชี้แจงว่า สาเหตุมาจากในไตรมาส 1 ของปีนี้ฝ่ายบริหารโครงการได้นำระบบการตรวจสอบคุณภาพงานก่อสร้างมาใช้ก่อนการนัดลูกตรวจรับบ้าน เพื่อให้ลูกค้าได้บ้านที่มีคุณภาพ จึงมีผลกระทบทำให้ยอดรับรู้รายได้ขายล่าช้าออกไป ขณะเดียวกันบริษัทฯ เปิดขายโครงการใหม่จำนวน 3 โครงการ จึงมีผลให้ค่าใช้จ่ายทางการตลาดและส่งเสริมการขายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2548 ที่ไม่มีการเปิดขายโครงการใหม่ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีค่าใช้จ่ายที่ผันแปรตามจำนวนโครงการที่พัฒนาเพิ่มขึ้นในปี 2549 จำนวน 4 โครงการเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2548

นายวีระ บูรพชัยศรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (METRO) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1 / 2549 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 161.01 ล้านบาท ลดลง 2.26% ซึ่งในจำนวนนี้เป็นรายได้จากการขายรวมของไตรมาสแรก จำนวน 158.84 ล้านบาท โดยบริษัทมีกำไรขั้นต้นจากการดำเนินงาน 55.56 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขาย 34.98% และมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยและภาษีเงินได้นิติบุคคล จำนวน 41.93 ล้านบาท คิดเป็น 26.04% ซึ่งในไตรมาสแรกนี้ บริษัทมีภาระภาษีเงินได้นิติบุคคลจากการโอนโครงการสีลม แกรนด์เทอเรสจำนวน 71.72 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้การดำเนินงานหลังดอกเบี้ยและภาษีเป็นขาดทุนสุทธิจำนวน 34.35 ล้านบาทหรือคิดเป็น 21.33% มีขาดทุนต่อหุ้นเท่ากับ 0.08 บาท

อย่างไรก็ตามในไตรมาสที่สอง บริษัทไม่มีภาระด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล คาดว่ารายได้จากการดำเนินงานของบริษัทจะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้และเชื่อมั่นว่าผลประกอบการของบริษัทในปี 2549 จะทำได้ตามที่คาดการณ์ไว้คือประมาณ 1,500 ล้านบาท จากโครงการที่กำลังเปิดขายและสามารถดำเนินการโอนได้ภายในสิ้นปี ส่วนแผนการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในปีนี้ บริษัทได้เตรียมงบประมาณส่งเสริมการขายประมาณ 20 ล้านบาท

สำหรับโครงการเซ็นต์หลุยส์ แกรนด์เทอเรส ช่วงปิดโครงการปลายปีและ 5 ล้านบาทสำหรับโครงการบ้านรวิภา สุขุมวิท 103 สำหรับทางด้านปัจจัยราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและส่งผลให้ราคาวัสดุขยับสูงขึ้นตาม อาจมีผลกระทบต่อต้นทุนบ้าง แต่บริษัทยังสามารถควบคุมและดูแลต้นทุนให้เป็น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us