โนเกีย โมโตโรล่า โซนี่อีริคสัน ไอ-โมบาย ระเบิดศึกมิวสิกโฟน พาเหรดโชว์กระบวนแดนซ์ต่างสไตล์ เพิ่มสีสันลีลาท่าเต้นผ่านผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาฟาดฟันกันแบบตาต่อตาฟันตาฟัน พร้อมเปิดเวทีนานาชนิด สร้างสันกิจกรรมต่างรูปแบบ ผนึกพันธมิตรต่างวงการ ช่วยกันกระหึ่มเสียงเพลงบนโทรศัพท์มือถือ หมัดใจกลุ่มเป้าหมายร่วมเส้นทางมิวสิกโฟนเดียวกัน

สีสันการแข่งขันในธุรกิจโทรศัพท์มือถือเวลานี้ต้องจับตาเวทีมิวสิกโฟนที่กำลังร้อนแรงขึ้นทุกขณะ เนื่องจากบรรดาค่ายใหญ่ในวงการมือถือต่างพาเหรดกันออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีจุดเด่นการเป็นโมบายมิวสิกกันทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 4 ผู้นำตลาดเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น โนเกีย โมโตโรล่า โซนี่ อีริคสัน และไอ-โมบาย ได้ระเบิดศึกมิวสิกโฟนกันอย่างมันส์หยดอยู่ในขณะนี้ ซึ่งแต่ละค่ายต่างมีจุดเด่นจุดแข็งแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ที่แต่ละค่ายตั้งใจจะออกมากวาดต้อนขาแดนซ์ให้เข้าเป็นหนึ่งในสมาชิกเส้นทางดนตรีบนโทรศัพท์มือถือของตน

เข้าถึงใจกลุ่มเป้าหมาย มิวสิกสไตล์โมโตโรล่า

"เราจะใช้การตลาดสื่อสารให้เป็นภาษาเดียวกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของกิจกรรมและคอนเทนต์ที่จะสร้างประสบการณ์เชิงบวกให้กับกลุ่มเป้าหมาย จนรับรู้เรื่องของผลิตภัณฑ์โมโตโรล่า และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของโมโตโรล่าในที่สุด"

เป็นคำกล่าวของวิทการ จันทวิมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดประจำประเทศไทย และภูมิภาคอินโดจีน บริษัท โมโตโรล่า (ประเทศไทย) จำกัด ที่มองว่าโทรศัพท์มือถือเป็นไม่ว่าจะมีคุณสมบัติเช่นไร ถูกพัฒนาแข่งขันกันมากน้อยเพียงไร สุดท้ายก็จะเป็นมาตราเดียวกันในที่สุด แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือเรื่องของการตลาด ซึ่งแต่ละค่ายมีโพสิชั่นนิ่งที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละค่ายว่าจะโดนใจผู้บริโภคมากน้อยกว่ากัน

สำหรับการตลาดเรื่องของมิวสิกโฟนของโมโตโรล่าก็เช่นกัน จะแตกต่างจากคู่แข่งขัน โดยมองเรื่องของการทำตลาดเจาะลงไปยังกลุ่มเป้าหมาย ให้กลุ่มเป้าหมายได้สัมผัสและรับรู้ถึงคาแร็กเตอร์ของโมโตโรล่าที่ต้องการสร้างให้แบรนด์เป็นแบรนด์ยังส์ และเป็นแบรนด์เทรนด์เซ็นเตอร์ ในใจผู้บริโภค และเป็นแบรนด์ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนเหล่านั้น

"เราจะทำกิจกรรมทางดนตรีเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบเรื่องของดนตรี โดยจะไม่หว่านไปทั่ว เพราะเราไม่ต้องการที่จะเจาะแบบแมส"

ล่าสุดโมโตโรล่าทุ่มงบการตลาดกว่า 25 ล้านบาท สนับสนุน "โมโต ไรซิ่ง ซานด์ซ" มหกรรมเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยมีการแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ โมโต ไรซิ่ง ซาวนด์ซ พาร์ท I จะจัดขึ้นในวันที่ 16 มิถุนายน 2549 ณ ฟลิกซ และสลิม ในอาร์ซีเอ โดยกิจกรรมนี้จะเป็นการสร้างสถิติโลกครั้งใหม่เพื่อบันทึกลงกินเนสส์บุ๊กด้วยการนำดีเจชั้นนำ 60 คนมาประชันฝีมือในการเปิดแผ่นเสียงติดต่อกัน 60 แทรค์ส ต่อเนื่องไม่หยุดเป็นเวลา 3 ชั่วโมง

ส่วนกิจกรรมที่สอง โมโต ไรซิ่ง ซาวนด์ซ พาร์ท II "เอเชีย บิกเกสต์ เออร์เบิน/สตรีท แดนซ เฟสติวัลจะจัดขึ้นในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2549 ถือเป็นมหกรรมดนตรีแนวแดนซ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่นำสุดยอดดีเจระดับโลก พร้อมกับดีเจชื่อดังของเอเชียรวม 40 คน มาแสดงฝีมือร่วมกันเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยะทำการปิดถนนอาร์ซีเอให้กลายเป็นถนนสายดนตรี

"เราเลือกที่จะสนับสนุนกิจกรรมนี้เนื่องจากมีแนวคิดและรูปแบบที่ทันสมัยและยิ่งใหญ่ รวมถึงเป็นสุดยอดประสบการณ์ที่มีความแปลกใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของโมโตโรล่า และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่" วิทการกล่าวและว่า

"เราเชื่อว่าการสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้จะทำให้โมโตโรล่าเข้าถึงผู้บริโภคได้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น และจะทำให้แบรนด์โมโตโรล่าแข็งแกร่งและเป็นที่จดจำยิ่งขึ้น"

ไม่เพียงแต่สนับสนุนให้กับกิจกรรมในครั้งนี้ การตลาดอีกด้านหนึ่งของโมโตโรล่ายังได้จัดทำแคมเปญพิเศษขึ้น ให้กับลูกค้าที่ซื้อโทรศัพท์มือถือโมโตโรล่าด้วย

ก่อนหน้านี้ไม่นานโมโตโรล่าได้ร่วมกับเอ็มทีวีจัดงานเปิดตัว MTV Mobbed ณ Red Dot Museum Building ประเทศสิงคโปร์ เพื่อแนะนำม็อบ ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติรูปแบบการใช้มือถือแนวใหม่ที่เอ็มทีวีและโมโตโรล่า จัดทำขึ้นมาเพื่อให้ผู้ชมได้สร้างสรรค์ ทดลองสิ่งแปลกใหม่ และสนุกสนานไปกับความบันเทิงที่จะกลายเป็นวัฒนธรรมโทรศัพท์มือถือเทรนด์ใหม่ของหมู่วัยรุ่นทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

โนเกียเด็ดที่โปรดักส์พร้อมเชื่อมโยงพันธมิตร

ค่ายมือถืออันดับหนึ่งอย่าง "โนเกีย" ไม่พลาดที่จะกอบโกยตลาดมิวสิกโฟนเช่นกัน เพราะนอกจากจะเป็นการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับผู้นำอย่างโนเกียแล้ว ยังเป็นการตอกย้ำสิ่งที่โนเกียเคยเป็นผู้บุกเบิกกับตลาดมิวสิกโฟนคนแรกๆ ในวงการมือถือด้วย

โปรดักส์ไฮไลท์ของโนเกียที่ถือเป็นทีเด็ดในขณะนี้หนีไม่พ้นโนเกีย 3250 ในดีไซน์เท๋บิดได้มีหน่วยความจำพิเศษจุเพลงได้ถึง 750 เพลง และโนเกีย N91 ตู้เพลงเคลื่อนที่ในตระกูล N-Series ที่มีพื้นที่เก็บเพลงต่างๆได้มากถึง 3,000 เพลง

ความโดดเด่นของโนเกียอยู่ที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งมิวสิกโฟนทั้งสองรุ่นมีการพัฒนาปุ่ม "มิวสิกคีย์" เพื่อการใช้งานด้านเสียงเพลงได้สะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมาพร้อมแอปพลิเคชั่นพิเศษ "แอร์อัลบั้ม" ที่ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่ผู้ซื้อโทรศัพท์มือถือในกลุ่มมิวสิกโฟนจากโนเกียจะได้รับสิทธิพิเศษในการดาวน์โหลดเพลงฟรี 3 เพลงจากเพลงดังกว่า 1,000 เพลงที่รวบรวมไว้ในแผ่นซีดี

อุณา ตัน ผู้จัดการฝ่ายการตลาด โนเกีย ประเทศไทย เคยกล่าวไว้ว่า "เราจะเป็นมิวสิกเพลย์เยอร์รายหนึ่งในตลาด โดยโนเกียกำลังทำตัวเองให้มีความชัดเจนของโปรดักส์ ที่ดีไวท์จะทำทุกอย่างได้ ไม่เฉพาะเป็นเพียงโทรศัพท์มือถือเพียงอย่างเดียว"

จุดแตกต่างของการทำตลาดมิวสิกโฟนของโนเกีย ยังอยู่ที่การจับมือกับพันธมิตรในการนำเสนอโปรดักส์ในรูปแบบที่แตกต่างจากคู่แข่งขัน เห็นได้จากการจับมือกับเอไอเอส เปิดตัวและวางแผงอัลบั้มเพลงชุดใหม่ของนักร้องดัง "โอ๋-ลำดวน" เสาวรส ศรีชาติ ศิลปินอิสระ บนโทรศัพท์มือถือโนเกีย 3250 ถือเป็นการสร้างปรากฎการณ์ใหม่ที่วงการมือถือได้ผนวกเข้ามาเป็นนวัตกรรมการตลาดรูปแบบใหม่ในยุคคอนเวอร์เจนอย่างสมบูรณ์แบบ

โซนี่อีริคสันมุ่งมั่น เจ้าตลาดมิวสิกโฟน

โซนี่ อีริคสัน ถือเป็นค่ายมือถือที่มีเส้นทางในการก้าวไปสู่การเป็นผู้นำตลาดมิวสิกโฟน เนื่องจากมีความพร้อมในเรื่องของเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของวอล์กแมนที่โซนี่เคยประสบความสำเร็จจนเป็นที่จดจำของผู้บริโภคทั่วโลก

ผลิตภัณฑ์ของโซนี่ อีริคสัน จึงได้ถูกพัฒนาให้เป็นโมบายมิวสิก และมีการพัฒนารุ่นใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่ได้มีการส่งลงมาในตลาด คือดับบลิวยู 810 ไอ เพราะนับตั้งแต่เปิดตัว ดับบลิวยู 800 ไอ วอล์กแมนโฟนนำร่องตัวแรกในช่วงเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ผู้บริโภคให้การตอบรับแนวคิดโทรศัพท์ที่สามารถเป็นเครื่องเล่นเพลงระบบดิจิตอล จึงได้พัฒนาดับบลิวยู 810 ไอรุ่นใหม่ออกมาเสริมความแข็งแกร่งด้วนสีสันที่เปลี่ยนเป็นดำเข้มแทนสีส้ม และได้ทำการออกแบบปุ่มเล่นเพลงใหม่มาไว้ด้านหน้าของตัวเครื่อง

"เรายังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นเจ้าตลาดมิวสิกโฟนอย่างต่อเนื่อง" พงศ์นรินทร์ ตันตระกูล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โซนี่ อีริคสัน โมบายส์ คอมมิวนิเคชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าว

โซนี่ อีริคสัน ตั้งเป้าจำหน่ายดับบลิวยู 810 ไอ ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นภายในปีนี้ เพื่อเป็นการตอกย้ำผู้นำด้านมิวสิกโฟนในตลาดระดับกลาง ทั้งนี้ในตลาดระดับกลางโซนี่ อีริคสันถือเป็นผู้นำตลาดมิวสิกโฟน โดยปีนี้จะวางตลาดประมาณ 8 รุ่น คือ เค 300ไอ เค 510 ไอ เค 790 ไอ ไซเบอร์ช็อต โฟน เป็นการผนวกแอปพลิเคชั่นของโซนี ไซเบอร์ช็อตไว้ด้วย แซด 530 ไอ ดับบลิวยู 810 ไอ ดับบลิว 300 ดับบลิว 700 และดับบลิว 950 ไอ

ไอ-โมบายเกาะแน่นกระแสมือถือMP3

ไอ-โมบายถือเป็นบริษัทในประเทศไทยที่สามารถสร้างแบรนด์ของตัวเองจำหน่ายแข่งขันกับผู้ผลิตมือถือยักษ์ใหญ่ระดับโลกในตลาดบ้านเราได้เป็นอย่างดี และไอ-โมบายยังคงเกาะกระแสมือถือ เอ็มพี3 อย่างต่อเนื่องด้วยการเปิดตัวมือถือใหม่ที่มีฟังก์ชั่นนี้ฝั่งอยู่ในเครื่อง บนดีไซน์ที่โดนใจผู้บริโภคคนไทย

"เราตั้งเป้ายอดขาย ไอ-โมบาย 309 ดีดีแซดไว้มากกว่าหนึ่งแสนเครื่อง" เป็นคำกล่าวของอย่างมั่นใจของธนานันท์ วิไลลักษณ์ รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) หลังจากรุกตลาดมือถือในกลุ่มคนที่ชอบเอ็มพี 3 ด้วยการเปิดตัวไอ-โมบาย 309 ดีดีแซด

ไอ-โมบาย 309 ดีดีแซด เดอะ เรียล เอ็มพี3 โฟน คือ โทรศัพท์มือถือที่ถูกอกแบบมาในสไตล์เครื่องเล่น เอ็มพี3 มีขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาสะดวก และน้ำหนักเบาเพียง 54 กรัม พร้อมฟังก์ชั่นสำหรับผู้ชอบฟังเพลง ทั้งวิทยุเอฟเอ็มและใช้บันทึกเสียงได้ไม่จำกัดเวลา รวมทั้งยังโอนข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ ผ่านพอร์ตยูเอสบีในราคาจำหน่ายเพียง 4,200 บาทเท่านั้น

ในการตลาดทำตลาดเฉพาะมือถือรุ่น ไอ-โมบาย 309 ดีดีแซดนั้น ทางไอ-โมบายตั้งงบไว้ถึง 25 ล้านบาทเพื่อโปรโมตผ่านสื่อต่างๆ ที่มีดีดีแซดเป็นพรีเซ็นเตอร์ทั้งภาพยนตร์โฆษณา สปอตวิทยุ สิ่งพิมพ์ และการจัดกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ