|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“แสนสิริ” หวั่นดอกเบี้ยเป็นพิษ เล็งส่งแบรนด์สราญสิริดึงยอดขายโครงการเศรษฐสิริประชาชื่น ยกเว้นหากลูกค้าตอบรับแบรนด์เศรษฐสิริ ส่วนของเฟสที่ 2จะยังคงพัฒนาต่อ พร้อมเตรียมเปิดขาย“บ้านพร้อมพัฒน์” บ้านไฟติ้งแบรนด์ชิงแชร์กลุ่มลูกค้าระดับล่าง ดีเดย์ก.ค.นี้แน่ ด้านปริญสิริฯยืนเป้ายอดขาย ระบุไตรมาสแรกทำได้ 800-900 ล้านบาท
นายสมัชชา พรหมศิริ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากเปิดตัวโครงการ เศรษฐสิริ ประชาชื่น ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี โดยในเฟสแรกมียอดขายแล้ว1,000 กว่าล้านบาท หรือประมาณ 80% จากจำนวนยูนิตที่เปิดขาย 100 กว่ายูนิต และคาดว่าจะเปิดขายโครงการในเฟสที่2 อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 12-14 พ.ค. นี้ พร้อมกับการเปิดตัวโครงการสราญสิริ ราชพฤกษ
สำหรับ โครงการเศรษฐสิริ ประชาชื่น มีพื้นที่ในการพัฒนาโครงการทั้งสิ้น 200 กว่าไร่ แบ่งการพัฒนาออกเป็น 5 เฟส ซึ่งคาดว่าในพื้นที่ทั้งหมด 200 ไร่นี้จะสามารถพัฒนาบ้านได้ทั้งสิ้น 500 กว่ายูนิต มูลค่าขายประมาณ 6,000 กว่าล้านบาท โดยในเฟส2 ของโครงการ บริษัทแสนสิริจะยังพัฒนาบ้านในแบรนด์ เศรษฐสิริ ซึ่งมีระดับราคาขาย 8-20 ล้านบาทขายให้แก่ลูกไปก่อน เพื่อทดสอบการตอบรับของลูกค้า และศึกษาดูผลกระทบที่อาจเกิดจากดอกเบี้ยก่อนว่า จะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อบ้านในโครงการมากน้อยเท่าใด ซึ่งหากได้รับการตอบรับที่ดีต่อเนื่อง ก็จะยังเดินหน้าพัฒนาภายใต้แบรนด์เศรษฐสิริต่อไป แต่หากพฤติกรรมของลูกค้าไม่ดี จะเปลี่ยนแผนโดยนำแบรนด์สราญสิริซึ่งมีราคาต่ำกว่าเข้ามาทำตลาดแทน
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ บริษัท พร้อมพัฒนา จำกัด ซึ่งมีบริษัทแสนสิริฯถือหุ้นอยู่ โดยมีแผนจะเปิดตัวโครงการบ้านพร้อมพัฒน์ ซึ่งเป็นบ้านระดับราคา 1.7-2.6 ล้านบาท รูปแบบบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด จำนวน 500 กว่ายูนิต บนเนื้อที่พัฒนาโครงการรวม 200 กว่าไร่ ในย่านรามอินทรา ซึ่งสาเหตุที่แสนสิริไม่พัฒนาภายใต้แบรนด์ของบริษัทแสนสิริ เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทแม่ เพราะกำไรจากการพัฒนาบ้านในโครงการระดับล่างนั้นค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผลประกอบการในไตรมาส คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 5,000 ล้านบาท ถือเป็นยอดขายที่อยู่ในระดับที่ดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยปัจจัยในเรื่องของราคาน้ำมัน การเมือง หรืออัตราดอกเบี้ยไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขาย โดยสังเกตได้จากกำลังซื้อยังคงมีอยู่
นายชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารโครงการ บริษัทปริญสิริ จำกัด (มหาชน) (PRIN) เปิดเผยถึงทิศทางของบริษัทในสภาวะที่ตลาดชะลอตัวว่า บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายปีนี้ที่ระดับ 3,000 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาสแรก จะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 800-900 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายหลักๆมาจากโครงการคอนโดมิเนียมย่านลาดพร้าว ที่เปิดขายในช่วงที่ผ่านมามียอดขายดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงจะมียอดขายมาจากโครงการเทพารักษ์ ,พระราม 2 และโครงการเก่าที่เปิดการขายอยู่
ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส2นั้น คาดว่าจะมียอดขายลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากไตรมาส 2 บริษัทไม่มีการเปิดโครงการใหม่ ส่วนยอดรับรู้รายได้ยังเติบโต เนื่องจากบริษัทมียอดขายจากปีก่อนที่จะทยอยรับรู้ในปีนี้
|
|
|
|
|