|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กำไรเอสซี แอสเสทฯออกอาการแย่!!! กำไรไตรมาสแรก เกือบ 70 ล้านบาท ลดลงใกล้ 29% ซึ่งเป็นการสวนทางกับยอดขายและค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น เหตุต้นทุนการขายโครงการสูงขึ้น "สหัส"เร่งกู้ภาพลักษณ์เอสซีฯ หลังมีผู้ถือหุ้นตระกูลชินวัตร ฟันธงต้องโละทิ้งโลโก้ที่มีสัญลักษณ์คล้ายธุรกิจมือถือทิ้ง ปรับระดับราคาสินค้า หวั่นลูกค้าสับสน เล็งปลายปีเปิดทาวน์เฮาส์รูปโฉมใหม่ ประกาศลั่นถ้าพบเห็นบริษัทข้องเกี่ยวที่ดินคุณหญิงพจน์ พร้อมที่จะถูกฆ่า
นายสหัส ตันติคุณ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ sc เปิดเผยถึงผลประกอบการในไตรมาสแรกปี 49 ว่า บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 69.76 ล้านบาท ลดลง 28.98 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29.35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 48 มีกำไร 98.74 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจาก มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 234.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 26.98 ล้านบาทหรือคิด 13% จากช่วงเดียวกันปี48 เนื่องจากบริษัทมีโครงการเพื่อขายมากขึ้น ได้แก่ โครงการบ้านจัดสรรจำนวน 2 โครงการ และมีโครงการทาวน์โฮม จำนวน 2 โครงการ ขณะที่รายได้รวมทำได้ 425.78ล้านบาท เทียบกับ 393.02 ล้านบาทช่วงเดียวกันปี 48
รายได้ค่าเช่าและบริการเพิ่มขึ้น 7.02 ล้านบาทมาอยู่ที่ 185 ล้านบาท คิดเป็น 3.94% เนื่องจากมีผู้เช่าพื้นที่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 เพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นจากอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ซึ่งเริ่มเปิดใช้อาคารในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
แต่เมื่อพิจารณาจากต้นทุนแล้ว พบว่า ต้นทุนขายต่อรายได้จากการขายเท่ากับ 64.19% และ 58.43% ซึ่งเกิดจากต้นทุนขายของโครงการใหม่ที่สูงขึ้น ส่วนต้นทุนค่าเช่าและบริการต่อรายได้ค่าเช่าและบริการ เท่ากับ 45.57% และ 46.41% สำหรับไตรมาสแรกปี48 ซึ่งอัตราส่วนนี้ลดลง 0.84% โดยค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 324.1 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันอยู่ที่ 272.1 ล้านบาท
ดังนั้น กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้นิติบุคคลอยู่ที่ 101.65 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกัน 120.8 ล้านบาท อัตราลดลงประมาณ 44.09% ขณะที่ปี 48 กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 47.26%
ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ของ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า เอสซีฯมี Backlog ประมาณ 600 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2548 ซึ่งประมาณ 500 ล้านบาทมาจากโครงการ Centric Scene condominium ซึ่งในขณะนี้มีการก่อสร้างเสร็จไปแล้ว 35% ภายใต้สัญญาทางบริษัทสามารถเริ่มบันทึกรายได้ถ้าเงินดาวน์มีอยู่เกิน 20% ของมูลค่าโครงการ ซึ่งทางบริษัทคาดว่าจะอยู่ในช่วงไตรมาส 4/49 จากยอดขายที่แข็งแกร่ง
สำหรับความคืบหน้าการรีแบรนด์ ดิ้งบริษัทนั้น นายสหัส กล่าวว่า ภายในเดือนมิถุนายนนี้ จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับการรีแบรนด์ ดิ้ง โลโก้ของบริษัทฯ เพื่อทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในบริษัท โดยแน่นอนโลโก้เดิมที่เป็นสัญญาวงกลมสีน้ำเงินที่มีเส้นตัดผ่านโลโก้จะต้องถูกเปลี่ยนเป็นโลโก้แบบอื่น ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรูปลักษณ์ใหม่ของโลโก้ได้ เพราะทุกอย่างจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งหนึ่ง
"สเต็ปต่อไป คือการรีแบรนด์ในตัวสินค้าให้มีความชัดเจนกับกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เพราะปัญหาของเอสซีตอนนี้ คือ มีสินค้าบ้านเดี่ยวจะเป็นแบรนด์บางกอกบูเลอวาร์ดที่เสนอราคาตั้งแต่ 4-10 ล้านบาท ทำให้การที่จะกำหนดกลยุทธ์เพื่อเข้าถึงลูกค้าค่อนข้างลำบาก ขณะเดียวกันลูกค้าเกิดความสับสนในตัวสินค้า ดังนั้น ต้องมีการรีแบรนด์ตัวสินค้า อาทิ แบรนด์ที่ทำสินค้าระดับ 4-5 ล้านบาท แบรนด์ราคา 5-8 ล้านบาท และแบรนด์ 8-12 ล้านบาท ซึ่งในช่วงปลายปีจะมีการเปิดโครงการทาวน์เฮาส์ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ แบรนด์ใหม่ ในทำเลย่านประชาชื่น ตรงนี้รูปแบบโครงการจะแตกต่างกับโครงการวิสต้า ปาร์คที่มีอยู่"นายสหัสกล่าว
ยันไม่มีการเมืองมากดดดัน
นายสหัส กล่าวถึงการทำงานในบริษัทเอสซี ซึ่งเป็นธุรกิจของตระกูลชินวัตร ว่าตนไม่ได้หนักใจในการทำงานในบริษัท ซึ่งการทำงานของตนเป็นแบบมืออาชีพ ไม่มีการเมืองเข้ามากดดัน และไม่มีใครจะมากดดันตนได้
" ส่วนประเด็นเรื่องการเมืองอย่าเอามาโยงกับเอสซี แอสเสท ถ้าเรื่องของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่มีที่ดินอยู่ในมือมากมายจะเอามาให้บริษัทพัฒนาโครงการ ต้องขอบอกไม่มี ถ้ามีก็ให้มาฆ่าผมได้ สู้ไปซื้อที่ดินมาพัฒนาเองจะดีกว่า และตอนนี้ตนก็ขีดเส้นเป็นวงกลม ไม่เอาที่ดินของคุณหญิงมาทำ ตั้งแต่เข้ามาทำงานพบคุณหญิงเพียงครั้งเดียวตอนวันเกิด ปัจจุบันบริษัทมีแลนด์แบงก์ประมาณ 200 ไร่ ส่วนแผนที่จะไปพัฒนาโครงการต่างจังหวัดนั้น คิดอยู่เหมือนกัน กำลังดูอยู่ แต่ตอนนี้ขอขับรถดูไปเรื่อยๆไปก่อน "นายสหัสกล่าวเช่นนั้น
|
|
|
|
|