Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน10 พฤษภาคม 2549
แบงก์ลุ้นการเมืองชัดเจนดันเป้าสินเชื่อ-กำไร             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
โฮมเพจ ธนาคารนครหลวงไทย

   
search resources

ธนาคารนครหลวงไทย, บมจ.
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ชาลอต โทณวณิก
สุทธิพงศ์ อิทธิพงศ์
Loan




แบงก์กรุงศรีฯแจงเหตุสินเชื่อไตรมาสแรกโตต่ำกว่าที่ตั้งไว้ 8% จากดอกเบี้ยขาขึ้น-น้ำมันแพง เตรียมทบทวนเป้าปล่อยกู้ขอรอดูแนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาส 2 ขณะที่สินเชื่อบ้านยังขยายได้ถึง 22% สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ แต่คาดว่าในช่วงต่อไปจะชะลอตัว ส่วนแนวโน้มดอกเบี้ยเริ่มชะลอในไตรมาส 3 ด้านแบงก์นครหลวงไทยคาดผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ยังได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ เชื่อเศรษฐกิจดีขึ้นหลังเลือกตั้งใหม่

นางชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)(BAY) เปิดเผยถึงการปล่อยสินเชื่อในช่วงไตรมาสแรกของปี 49 ที่ผ่านมา ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 8% หรือเท่ากับสินเชื่อเพิ่มสุทธิ 36,000 ล้านบาทว่า มีสาเหตุมาจากหลายๆปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ย หรือราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อเดิม โดยจะรอดูสถานการณ์ต่างๆต่อไปจนกระทั่งสิ้นสุดไตรมาส 2 จึงจะมีการทบทวนเป้าหมายต่างๆอีกครั้งหนึ่ง

"เราไม่ได้คาดหวังว่าสินเชื่อไตรมาสแรกจะต้องโตเท่ากับเป้าหมายที่ตั้งไว้ทันที แล้วก็เป็นช่วงปกติที่สินเชื่อในไตรมาสแรกจะไม่ค่อยปรับตัวสูงขึ้น เพราะนักลงทุนอาจจะลังเลยังในการตัดสินใจอยู่ โดยการอนุมัติสินเชื่อใหม่ออกไปก็ยังมีอยู่ แต่ลูกค้าอาจจะยังไม่ได้เบิกไปก็จะยังไม่เป็นยอดคงค้าง ซึ่งคงจะขอดูภาวะเศรษฐกิจในไตรมาส 2 ก่อน จึงจะมีการหารือเรื่องเป้าสินเชื่อกันอีกครั้ง"นางชาลอตกล่าว

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของสินเชื่อที่อยู่อาศัยนั้น ในไตรมาสแรกธนาคารสามารถปล่อยกู้ได้เกินกว่าเป้าหมาย โดยมีการขยายตัวถึง 22% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นภาระผูกพันต่อเนื่องมาจากปีก่อน แต่ในช่วงต่อไปของปี แนวโน้นสินเชื่ออาศัยคงจะขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง ตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และธนาคารก็ยังคงเป้าการปล่อยสินเชื่อรายย่อยไว้ในระดับ 13,000 ล้านบาท เป็นสินเชื่อที่อยู่อาศัย 11,000 ล้านบาท สินเชื่อเพื่อสวัสดิการ 1,000 ล้านบาท และสินเชื่อ Krungsri Micro SMEs อีก 1,000 ล้านบาท

สำหรับสินเชื่อ Krungsri Micro SMEs นั้น โดยในช่วงแรกธนาคารจะเปิดให้บริการเฉพาะในงาน Money Expo 2006 เท่านั้น ซึ่งจะเป็นสินเชื่อเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย ที่สามารถกู้ได้โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน วงเงินกู้ตั้งแต่ 5 แสนบาท สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท พร้อมเงื่อนไขพิเศษ ลูกค้าสามารถเลือกรับวงเงิน O/D ได้สูงสุดถึง 20%ของวงเงินสินเชื่อรวมที่ได้รับอนุมัติ ระยะเวลา 1-5 ปี และอัตราดอกเบี้ย MRR + 6-9% โดยเชื่อว่าจะได้รับความสนใจในการยื่นความจำนงขอกู้ในระดับเกิน 1,000 ล้านบาท

" ในงาน Money Expo ปีนี้ ธนาคารหันมาเน้นที่สินเชื่อเอสเอ็มที แทนที่จะเป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเหมือนครั้งก่อนๆ เนื่องจาก ธนาคารคาดการณ์ไว้ว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยปีนี้คงจะชะลอตัวลง แต่แคมเปญต่างๆของสินเชื่อที่อยู่อาศัยก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม"นางชาลอตกล่าว

ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนั้น นางชาลอตกล่าวว่า เชื่อว่าในไตรมาส 3 เริ่มจะเริ่มชะลอตัวลง เช่นเดียวกับที่ธนาคารหลายๆแห่งคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม คงต้องดูภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และอัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และเป็นสิ่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะต้องตัดสินใจว่าปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ โดยอัตราดอกเบี้ยน่าจะปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 8.5% ซึ่งน่าจะเป็นอัตราสูงสุดที่ลูกค้ายังรับได้ เนื่องจากขณะนี้ประชาชนต้องประสบปัญหาในหลายๆด้านพร้อมกัน

สำหรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในกรณีที่ให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมาเป็นโมฆะนั้น ถือว่าเป็นอีกขั้นหนึ่งที่จะทำให้เกิดการเลือกตั้ง ซึ่งประชาชนก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้นจากตลาดหุ้นที่รับข่าว แต่ก็ยังมีสูญญากาศ ก็คงต้องรอดูหลังเลือกตั้งอีกครั้ง

ขณะที่นายสุทธิพงศ์ อิทธิพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 2 ของธนาคารนั้น คาดว่ายังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งเห็นได้จากในไตรมาสที่ 1 ที่ทำกำไรได้ตามเป้าหมาย โดยจะเน้นการสร้างรายได้จากลูกค้ารายย่อย ทั้งสินเชื่อเคหะ สินเชื่อบัตรเครดิต เนื่องจากยังมองว่าเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง น่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะเมื่อปัญหาการเมืองสามารถแก้ไขได้มีการเลือกตั้งใหม่ มีรัฐบาล และปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทย ที่ยังแข็งแกร่ง ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจในปีนี้น่าจะเติบโตได้

ทั้งนี้ ธนาคารคาดว่าจะรักษาระดับส่วนต่างของดอกเบี้ย (สเปรด)ไว้ในระดับ 3-4%ได้ โดยมาจากการเน้นปล่อยสินเชื่อกับลูกค้ารายย่อย ซึ่งจะทำให้ธนาคารมีรายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ในเดือนมิ.ย. ธนาคารยังจะได้รับเงินชดเชยจากกองทุนฟื้นฟู 67,000 ล้านบาท ซึ่งธนาคารจะนำเงินดังกล่าวมาปล่อยกู้ในตลาดเงิน หรือมาปล่อยสินเชื่อเพื่อให้มีรายได้มากขึ้น

“ผลประกอบการของธนาคารในปีนี้จะเน้นการสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียม ในส่วนของลูกค้ารายย่อยให้มากขึ้น เนื่องจากลูกค้ารายย่อยยังขยายตัวได้ดีในขณะที่ลูกค้ารายใหญ่อาจชะลอตัวลงไปบ้างในช่วงที่ผ่านมา แต่ช่วงไตรมาสที่ 3-4 ก็น่าจะปรับตัวดีขึ้น เมื่อปัญหาการเมืองได้รับการแก้ไข" นายสุทธิพงศ์กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us