|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โจนส์ แลง ลาซาลล์ ระบุปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ไม่มีผลกระทบต่อการเติบโตของตลาดอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯ ค่าเช่าและพื้นที่การเช่ายังขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเช่าสำนักงานในเอเชียในไตรมาส 1 ปรับเพิ่มขึ้น จับตากองทุนอสังหาฯ ลุยซื้ออาคารสำนักงาน
น.ส.แคโรไลน์ เมอร์ฟีย์ หัวหน้าฝ่ายบริการธุรกิจอาคารสำนักงาน โจนส์ แลง ลาซาลล์ ประเทศไทย กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แม้ประเทศไทยจะมีวิกฤตการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้น แต่ไม่มีผลต่อตลาดอาคารสำนักงานในเขตกรุงเทพฯ สังเกตจากตลาดอาคารสำนักงานเกรดเอในเขตศูนย์กลางธุรกิจ (ซีบีดี) มีค่าเช่าปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 ในไตรมาสแรกปีนี้ หรือร้อยละ 21.3 ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยการเช่าพื้นที่สำนักงานเพิ่มในเขตซีบีดีของกรุงเทพฯ เป็นไปอย่างคึกคัก มียอดการเช่าพื้นที่เพิ่มเกือบ 16,000 ตารางเมตร และเชื่อว่าอัตราค่าเช่าจะยังปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อไปอีกในอีก 3 ไตรมาสที่เหลือของปีนี้
ดร. เจน เมอร์เรย์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของโจนส์ แลง ลาซาลล์ เปิดเผยถึงภาวะตลาดอาคารสำนักงานและศูนย์การค้าของเอเชียแปซิฟิกในไตรมาส 1 ของปีนี้ว่า ยังคงมีอัตราค่าเช่าโดยรวมปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปริมาณพื้นที่อาคารสำนักงานใหม่ๆ ในเมืองส่วนใหญ่ยังคงมีปริมาณจำกัด ในขณะเดียวกัน ความต้องการของผู้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงานยังคงมีการขยายตัวตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศในภูมิภาคนี้
"ขณะนี้ ตลาดอาคารสำนักงานของเอเชียยังคงมีสภาพแข็งแกร่ง และยังไม่มีแนวโน้มว่าอัตราค่าเช่าจะอ่อนตัวลง ตลาดอาคารสำนักงานมีความต้องการใช้พื้นที่เพิ่มขึ้นจากหลายๆ ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะภาคธุรกิจการเงินและการธนาคาร" ดร.เมอร์เรย์กล่าว
ทั้งนี้จากปีที่แล้วต่อเนื่องจนถึงตลอดไตรมาส 1 ของปีนี้ ตลาดอาคารสำนักงานในเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินของเอเชีย ได้แก่ ฮ่องกง สิงคโปร์และญี่ปุ่น มีอัตราค่าเช่าปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเขตเซ็นทรัลของฮ่องกงปรับขึ้น 3.1% ในไตรมาสที่แล้ว หรือ 44.3% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่สิงคโปร์ปรับเพิ่ม 6.1% ในไตรมาสที่แล้ว หรือ 35.6% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เมืองใหญ่ของประเทศที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงอย่างจีนและอินเดีย มีอัตราค่าปรับตัวขึ้น
อย่างไรก็ดี การเช่าในเมืองหลัก ได้แก่ ฮ่องกง สิงคโปร์ โตเกียวและซิดนีย์ มีปริมาณไม่คึกคักมากเท่าที่ควร เนื่องจากปริมาณพื้นที่เหลือเช่ามีน้อยไม่พอกับความต้องการของผู้เช่า โดยเฉพาะในโตเกียว ซึ่งพบว่า อาคารที่สร้างเสร็จใหม่ส่วนใหญ่ถูกจับจองพื้นที่เช่าล่วงหน้าไว้เกือบเต็มหมด ส่วนตลาดปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้มีผู้เช่าแสดงความสนใจจับจองพื้นที่ล่วงหน้าในอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จ อันเป็นผลพวงมาจากการผ่อนคลายกฎหมายควบคุมภาคธุรกิจการธนาคารในจีน ซึ่งจะทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้ขยายตัวและมีความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานเพิ่มมากขึ้น
สำหรับปริมาณพื้นที่สำนักงานเหลือเช่าในตลาดส่วนใหญ่ของเอเชีย ยังคงมีการปรับตัวลดลงเรื่อยๆ ทำให้บริษัทผู้เช่าบางส่วนเลือกพิจารณาการเช่าพื้นที่สำนักงานในอาคารในทำเลชั้นรอง ซึ่งมีพื้นที่มากพอที่จะรองรับความต้องการและมีค่าเช่าที่ต่ำกว่า อย่างไรก็ดี คาดว่า แนวโน้มนี้จะไม่ส่งผลกระทบให้การขยายตัวของค่าเช่าในเขตซีบีดีชะลอตัวลง
ดร.เมอร์เรย์ กล่าวต่อว่า ในภาวะที่อัตราค่าเช่าในตลาดอาคารสำนักงานกำลังปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ พบว่า มีกองทุนจำนวนมากขึ้นที่ให้ความสนใจลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยรวมแล้ว ตลาดอาคารสำนักงานของเอเชียไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากผลตอบแทนการลงทุนยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ นอกจากนี้ การเกิดขึ้นของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคนี้ ประกอบกับการที่มีกองทุนบำเหน็จบำนาญจำนวนมากที่มองการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะมีการซื้ออาคารสำนักงานจะมีปริมาณมากในปีนี้
นอกจากนี้การคาดการณ์กันว่า ธนาคารกลางของสหรัฐฯ (FED) จะหยุดการใช้นโยบายที่เข้มงวดทางด้านอัตราดอกเบี้ย เชื่อว่าจะทำให้การซื้อขายอาคารสำนักงานในเอเชียปรับตัวดีขึ้น โดยมีปัจจัยเสริมสำคัญๆ คือ อัตราการจ้างงานในเอเชียมีการขยายตัว ซึ่งหมายถึงความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานที่เพิ่มขึ้น บวกกับการที่ปริมาณพื้นที่เหลือเช่าในตลาดมีจำกัด และที่สำคัญที่สุดคือ บรรยากาศที่ดีทางธุรกิจในภูมิภาค
ทั้งนี้เศรษฐกิจที่กำลังขยายตัวของประเทศเอเชีย จะช่วยให้ความต้องการใช้พื้นที่สำนักงานเกรดเอในตลาดอาคารสำนักงานส่วนใหญ่ของเอเชียขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อไป ประกอบกับการที่ปริมาณพื้นที่ใหม่มีจำกัด ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการว่างของพื้นที่เช่ายังคงอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ดี ค่าเช่าที่เพิ่มสูงขึ้นจะส่งผลให้บริษัทผู้เช่าพื้นที่หันไปมองทำเลที่อยู่นอกเขตศูนย์กลางธุรกิจเพิ่มมากขึ้น
|
|
|
|
|