บุญรอดฯ เร่งขยายกำลังผลิตเบียร์ลีโอเพิ่มเป็น 1,000 ล้านลิตรต่อปี แก้ปัญหาเบียร์ขาดตลาด-เอเยนต์สบช่องขึ้นราคา 50 บาทต่อลัง หรือจาก 390 บาทเป็น 440 บาทต่อลัง ล่าสุดอัดฉีดงบตลาดโซดาสิงห์เพิ่มเป็น 70 ล้านบาท พร้อมอัดโปรโมชันซื้อ 1 แถม 1 ต้อนรับคริสตัลโดดลงสมรภูมิโซดามูลค่า 5,000 ล้านบาท นำร่องอัด 10 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ “Singha soda battle of the year” สิ้นปีรั้งบัลลังก์ผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 97%
นายสันต์ ภิรมย์ภักดี ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตราสิงห์ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯได้เตรียมขยายกำลังการผลิตเบียร์ลีโอ สิงห์ และไทเบียร์เพิ่มขึ้นทั้งสองโรงงาน ได้แก่ ปทุมธานี ซึ่งปัจจุบันมีกำลังการผลิต 1,400 ล้านลิตร และขอนแก่นมีกำลังการผลิต 900 ล้านลิตร โดยเฉพาะเบียร์ลีโอจะขยายกำลังการผลิตในปีปลายนี้เพิ่มจาก 600 ล้านลิตรต่อปี เป็น 1,000 ล้านลิตรต่อปี ทั้งนี้เพื่อให้เพียงกับความต้องการของตลาดที่มีเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากขณะนี้เบียร์ลีโอประสบกับปัญหาเบียร์ขาดตลาด เพราะที่ผ่านมาลีโอเป็นเบียร์ที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มของบุญรอดฯ อีกทั้งส่วนหนึ่งเป็นเพราะในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา บริษัทฯได้จัดโปรโมชั่นซื้อเบียร์ลีโอแถมโซดาสิงห์ให้กับทางเอเยนต์ในบางพื้นที่ ส่งผลให้เอเยนต์ซื้อสินค้าไว้เป็นจำนวนมาก ล่าสุดได้รับแจ้งว่าเอเยนต์ได้ปรับราคาสินค้าขึ้นเอง เพิ่มขึ้นจาก 390- 395 บาทต่อลัง เป็น 430-440 บาทต่อลัง โดยการขึ้นราคาดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทฯแต่อย่างใด
อัด 70ล.ต้อนรับน้องใหม่คริสตัล
นายสันต์ กล่าวต่อถึงการทำตลาดโซดาสิงห์ว่า ปีนี้บริษัทฯได้อัดฉีดงบ 70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ใช้เพียง 30 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อรักษาบัลลังก์ผู้นำตลาดซึ่งปัจจุบันครองส่วนแบ่ง 97% หลังจากค่ายยักษ์ใหญ่เสริมสุขประกาศตัวลงสู่ตลาดโซดามูลค่า 5,000 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์คริสตัล โดยในเบื้องต้นบริษัทฯยังได้อัดเทรดโปรโมชันให้กับทางเอเยนต์และสถานบันเทิง ผับ บาร์ เมื่อซื้อโซดาสิงห์ 1 ขวดแถมโซดา ทั้งนี้เพื่อสกัดเอเยนต์สวิตช์ชิ่งไปเชียร์สินค้าแบรนด์อื่น พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ในเดือนมิถุนายน โดยเน้นการสื่อทุกหยด ซ่า โซดาสิงห์ ในรูปแบบมิกซ์กับเครื่องดื่มใหม่ๆ
ล่าสุดได้ทุ่มงบ 10 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ “Singha soda battle of the year” ครั้งที่ 2 โดยจัดประกวดค้นหาสุดยอด MC (Rapper), DJ Mixing and Scratching, Graffiti , B-Boy และB-Girl ภายใต้แนวคิด “เด็กไทยซ่าอย่างมีหัวคิด” โดยผู้ชนะเลิศจะได้เซ็นสัญญากับบุญรอดฯ 1 ปี ทั้งนี้การจัดประกวดดังกล่าว เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์โซดาสิงห์ นอกจากนี้ยังแนะนำการใช้โซดาสิงห์ผสมเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น น้ำผักผลไม้ ซึ่งเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่ง ในการขยายกลุ่มลูกค้าประเภทนำโซดามิกซ์กับเครื่องดื่มนอน แอลกอฮอล์ ซึ่งในตลาดมีสัดส่วนเพียง 10% ส่วนกลุ่มนำโซดามิกซ์กับแอลกอฮอล์มีสัดส่วน 90%
สำหรับในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดโซดามิกซ์กับแอลกอฮอล์ มีอัตราการเติบโตน้อยมาก แม้ว่าจะเป็นตลาดที่ใหญ่ก็ตาม ทั้งนี้เป็นเพราะผลพวงจากมาตรการภาครัฐที่เข้มงวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น พร้อมกับการรณรงค์ในรูปแบบต่างๆ ส่งผลให้ตลาดโดยรวมปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเพียง 5% จากมูลค่า 5,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2547 มีอัตราการเติบโต 20% สำหรับปีนี้คาดว่าตลาดจะมีอัตราการเติบโต 4%โดยพบว่าตลาดคืนขวดหรือในสถานบันเทิง ผับ บาร์ มีอัตราการเติบน้อย ส่วนตลาดวันเวย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายใต้บุญรอดฯมีสัดส่วนถึง 75% ประกอบด้วย เบียร์สิงห์ ลีโอ ไทเบียร์ สิงห์ไลท์ ฯลฯ ส่วนกลุ่มเครื่องดื่มไม่ผสมแอลกอฮอล์มีสัดส่วน 25% ประกอบด้วย โมชิ น้ำดื่มสิงห์ และโซดาสิงห์ โดยในอนาคตอันใกล้บริษัทได้วางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนเครื่องดื่มไม่ผสมแอลกอฮอล์เพิ่ม 30% โดยขณะนี้ได้ทำการพัฒนาสินค้าหลากหลายเซกเมนต์กว่า 30-40 ตัว ส่วนกลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเหลือเพียง 70%
|