เอเชีย เทเลวิชั่นฯ เผยหลังเปิดตัวมากว่า 3 เดือน ได้รับผลตอบรับที่ดี ล่าสุดงัดแผนต่อยอดธุรกิจ เปิดตัวธุรกิจสิ่งพิมพ์ ใช้กลยุทธ์ TV to book และ Book to tv หวังเอื้อประโยชน์ให้แก่กัน เตรียมเปิดตัวพ๊อกเก็ตบุ๊กไม่น้อยกว่า 90 เล่มในปีนี้ ด้วยยอดขายไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นเล่ม ต่อ 1 เรื่อง คิดเป็นมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท

นายโฆษิต สุวินิจจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เทเลวิชั่น แอนด์ มีเดีย จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เปิดบริษัทฯมากว่า 3 เดือนนั้น ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี แต่อาจจะมีติดขัดบ้างในเรื่องของการจัดแผนการทำงานและการชะลอในเรื่องการลงโฆษณา ตั้งแต่เดือน ก.พ-เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากปัญหาทางการเมืองเป็นสาเหตุหลัก แต่ในขณะนี้ถือว่าดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บริษัทฯมีแผนลงทุนในการดำเนินธุรกิจสิ่งพิมพ์เพิ่มขึ้นอีกในปีนี้

สำหรับธุรกิจใหม่ด้านสิ่งพิมพ์นี้จะเป็นการเปิดบริษัทขึ้นมาใหม่ขึ้นมารองรับ โดยที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรืออยู่ภายใต้บริษัท เอเชีย เทเลวิชั่นฯ แต่อย่างใด ภายใต้ชื่อว่า บริษัท บี พลัส พับลิชชิง จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท เป็นธุรกิจสิ่งพิมพ์ที่จะเน้นการออกพ๊อกเก็ตบุ๊กเป็นหลัก ผ่านตัวแทนจำหน่ายภายใต้บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน)ไปยังร้านหนังสือชั้นนำและแผงหนังสือทั่วไปกว่า 2,000 ร้าน เช่น ซีเอ็ด บีทูเอส นายอินทร์ บุ๊กสไมล์ และบุ๊ก เฟรนด์ เป็นต้น

“การเปิดตัวธุรกิจใหม่นี้ จะเป็นการนำนโยบาย TV to book และ Book to tv มาใช้ ดังที่ก่อนหน้านี้ได้ทำมา เช่น การนำเอาช่วงหนึ่งของรายการ ชั่วโมงพิศวง คือ ช่วง เกิดแต่กรรม มาจัดพิมพ์ลงในหนังสือในการจำหน่าย โดยการเปิดตัวหนังสือเล่มแรกภายใต้บริษัท บี พลัสฯ ยังคงเป็น หนังสือ พ๊อกเก็ตบุ๊ก ชื่อ เกิดแต่กรรม 4 เนื่องจากที่ผ่านมา สามารถจำหน่ายได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนเล่ม ต่อ 1 เรื่อง”

ทั้งนี้เป้าหมายการดำเนินงานในปี 2549 นี้ บริษัทฯ มีแผนในการเปิดตัวพ๊อกเก็ตบุ๊กไม่ต่ำกว่า 90 เล่ม แบ่งเป็น หนังสือแปล 70 เรื่อง และหนังสือภายในประเทศอีก 20 เรื่อง สำหรับเจาะกลุ่มเป้าหมายทุกเพศทุกวัย คาดว่าจะสามารถจำหน่ายได้ไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นเล่ม ต่อ 1 เรื่อง หรือคิดเป็นมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาทในปีนี้

อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์ตลาดพ๊อกเก็ตบุ๊กในขณะนี้ มองว่า จะมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 10 %เท่ากับหลายๆปีที่ผ่านมา เนื่องจากมองว่า ตลาดพ๊อกเก็ตบุ๊กในประเทศไทยนั้น ยังมีน้อยมาก อีกทั้งคนไทยยัง มีการอ่านหนังสือที่ต่ำอยู่

นอกจากการเปิดตัวธุรกิจสิ่งพิมพ์ภายใต้บริษัทใหม่แล้ว ปีนี้บริษัทฯยังมีแผนดำเนินธุรกิจในกลุ่มดิจิตอลอีก โดยจะเป็นธุรกิจหนึ่งในเครือบริษัท เอเชีย เทเลวิชั่น แอนด์ มีเดีย จำกัด อีกด้วย