|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“แฟซ่า” สวมรอยปรับราคาขึ้น 1-2 บาท หลังรีแบรนด์ดิ้งครั้งใหญ่ในรอบ 4 ปี ชูนวัตกรรม “เนเจอร์ พลัส” กลบราคาใหม่ อัดฉีดงบ 2 เท่าตัว หรือ 300 ล้านบาท พร้อมชู 2 สูตรใหม่ เนเจอร์ บราวน์ – เพอร์เฟคแคร์ สิ้นปีโค่นรีจอยส์ ผงาดขึ้นเป็นอันดับ 4 ครองส่วนแบ่ง 10% ส่วนผลประกอบการรวมโตเป็นตัวเลขสองหลักจาก 6,500 ล้านบาทปีที่ผ่านมา
นายยูจิ ชิมิซึ รองประธานฝ่ายการตลาด บริษัท คาโอ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแชมพู-ครีมนวดผมแฟซ่า เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยล่าสุดกรมการค้าภายใน ได้ออกประกาศไฟเขียวให้ปรับราคาสินค้าขึ้นได้ จำนวน 10 รายการ อาทิ แชมพู ผงซักฟอก สบู่ น้ำยาซักฟอก น้ำยาล้างจาน ผ้าอนามัยกลุ่มแชมพู สบู่ ฯลฯ
ดังนั้นหลังจากที่บริษัทฯได้ทำการรีแบรนด์ดิ้งแชมพู-ครีมนวดผมภายใต้ชื่อ “แฟซ่า เนเจอร์ พลัส”ในรอบ 4 ปี ปรับทั้งโลโก้ บรรจุภัณฑ์ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ให้มีความทันสมัยมากขึ้น และสอดคล้องกับนโยบายปรับราคาสินค้าขึ้น
ล่าสุดแชมพูแฟซ่าได้ปรับราคาขนาดบรรจุภัณฑ์ชนิดขวดเพิ่มขึ้น 5% หรือราว 1-2 บาท ได้แก่ ขนาด 100 มล.เพิ่มเป็นราคา 18 บาท ขนาด180 มล.เพิ่มเป็น 42 บาท และขนาด 380 มล.เพิ่มเป็น 76 บาท ส่วนแชมพูบรรจุภัณฑ์ชนิดซองขนาด 8 มล. ราคา 2 บาทเท่าเดิม ขณะที่ครีมนวดนั้นบริษัทฯได้ปรับราคาลดลง 5% หรือราว 1-2 บาท
เนื่องจากพฤติกรรมการใช้ครีมนวดของคนไทยมีน้อยมากเมื่อเทียบกับแชมพูที่มีอัตราการใช้เกือบ 100% โดยการปรับลดราคาจะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาใช้ครีมนวดเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังสอดรับกับราคาแชมพูที่บริษัทได้ปรับเพิ่มขึ้น เพื่อลดการผลักดันภาระให้กับผู้บริโภค
แผนการตลาดแชมพู-ครีมนวดแฟซ่า บริษัทฯได้ทุ่มงบ 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้ว 2 เท่าตัว โดยบริษัทฯได้ชู 2 สูตรใหม่เป็นเรือธงในการทำตลาด ได้แก่ เนเจอร์บราวน์ หรือสูตรน้ำตาลธรรมชาติ เพื่อเจาะกลุ่มผู้ทำสีผมโดยเฉพาะ และสูตรเพอร์เฟคแคร์ แชมพูผสมครีมนวด ส่วนอีก 5 สูตรเดิมได้มีการปรับปรุงใหม่ ได้แก่ สูตรบำรุงผมลื่น สูตรผมลื่นไม่พันกัน สูตรหนังศีรษะสดชื่น และสูตรดำธรรมชาติ
นอกจากนี้ยังปรับกลุ่มเป้าหมายไปยังกลุ่มผู้หญิงที่มีไลฟ์สไตล์ในสังคมเมือง และเป็นผู้หญิงทำงานมากขึ้นอายุตั้งแต่ 18 ปี โดยได้เตรียมจัดสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างครบวงจร ประเดิมด้วยการดึง 2 นางแบบเก๋-ชลลดา เมฆราตรี และหยาดทิพย์ ราชปาล มาประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ใหม่แฟซ่า เนเจอร์พลัส
“จากการสำรวจพบว่าแฟซ่าเป็นแบรนด์ที่มีความเก่าแก่ และมีความแข็งแกร่งด้านสารสกัดจากธรรมชาติ หลังจากเมื่อปี 2545 บริษัทฯได้รีแบรนด์โดยเน้นสารสกัดจากธรรมชาติ ทำให้การรีแบรนด์ในครั้งนี้บริษัทตอกย้ำในเรื่องสารสกัดจากธรรมชาติ 100% เสริมสร้างเส้นผมและบำรุงหนังศีรษะภายในสู่ภายนอก ดังนั้นการสื่อสารจึงเน้นความเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกระแสสุขภาพที่กำลังมาแรง”
สำหรับเป้าหมายการกลับมารุกตลาดของแฟซ่าในครั้งนี้ บริษัทฯคาดว่าในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ส่วนแบ่งจะเพิ่มจาก 5% เป็น 7% และภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 8-10% โดยจะผงาดขึ้นจากอันดับ 5 เป็นอันดับ 4 ของตลาดแทนที่รีจอยส์ซึ่งมีส่วนแบ่ง 9% จากปัจจุบันผู้นำตลาด คือ ซันซิล ครองส่วนแบ่ง 28% แพนทีน 12% และอันดับสามโดฟมีส่วนแบ่ง 10% จากมูลค่าตลาดแชมพูเพื่อความงาม 7,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 70% ของตลาดรวม
โดยก่อนหน้านี้แฟซ่าเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 30-40% แต่ได้สูญเสียตำแหน่งให้กับซันซิลให้หลังเมื่อ10-20 ปีก่อน นับจากการเปิดตัวเมื่อปี 2510 ส่วนผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าโตเป็นตัวเลขสองหลัง จากในปีที่ผ่านมามีรายได้ 6,500 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 9%
|
|
|
|
|