Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน8 พฤษภาคม 2549
คลังไม่ลดภาษีติดตั้งเอ็นจีวีเหลือ20%สรรพสามิตเตรียมเก็บลิตรละ2บาท             
 


   
www resources

โฮมเพจ กรมสรรพสามิต

   
search resources

กรมสรรพสามิต
Auditor and Taxation
Oil and gas




สรรพสามิต กระทรวงพลังงานและผู้ประกอบการผลิตรถยนต์พร้อมร่วมกำหนดสเปคผู้ติดตั้งเอ็นจีวีนอกโรงงานผลิตรถเพื่อเสนอครม.ในวันพรุ่งนี้ ด้าน “วราเทพ” ยืนยันจะไม่ลดภาษีจาก 30% เหลือ 20% แน่นอน ระบุอาจมีการร้องเรียนเรื่องความเป็นธรรมได้ ขณะที่กรมสรรพสามิตเผย “ทนง พิทยะ” เห็นชอบถึงเวลาที่ต้องเก็บภาษีเอ็นจีวีแล้วโดยอัตราที่เหมาะสมอยู่ที่ลิตรละ 2 บาท

นายวราเทพ รัตนากร รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับกรมสรรพสามิต เพื่อกำหนดแนวทางการลดภาษีรถยนต์ ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ใช้ก๊าซเอ็นจีวี ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ต่างโรงงานนั้น จะไม่ลดภาษี จาก 30% เหลือ 20% เป็นอัตราเดียวกับโรงงานที่ผลิตรถยนต์เอ็นจีวีที่ติดตั้งเครื่องยนต์เบ็ดเสร็จจากโรงงาน เพราะอาจเกิดปัญหา การร้องเรียนเรื่องความเป็นธรรมได้

แต่ทั้งนี้รัฐบาลยังต้องการสนับสนุนการใช้รถประหยัดพลังงาน จึงจะมีมาตรการสนับสนุนเพื่อลดภาระต้นทุนให้ผู้ผลิตรถยนต์ ที่ติดตั้งเครื่องยนต์ต่างโรงงาน แต่อาจไม่ได้ลดภาษีถึง 10% เท่ากับกับผู้ผลิตรถยนต์ติดตั้งเอ็นจีวีจากโรงงานเบ็ดเสร็จ แต่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายเทียบเท่ากับต้นทุนจากการติดตั้งเครื่องยนต์ต่างโรงงาน

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน กรมสรรพสามิต และผู้ประกอบการผลิตรถยนต์ จะได้หารือร่วมกันในวันจันทร์ที่ 8 พ.ค.นี้ เพื่อร่วมกำหนดคุณสมบัติของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่จะต้องติดตั้งเครื่องยนต์เอ็นจีวี นอกโรงงาน รวมถึงบริษัทผู้รับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงาน ให้แล้วเสร็จ เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 9 พ.ค.

ด้านนายสมชัย อภิวัฒนพร รองอธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า กรมสรรพสามิตเตรียมจัดเก็บภาษีก๊าซธรรมชาติ ประเภท ก๊าซเอ็นจีวี ซึ่งปัจจุบันกำหนดในพิกัดภาษีสรรพสามิตอยู่แล้ว แต่ยังได้รับการยกเว้นการจัดเก็บภาษีอยู่ในขณะนี้ แต่ที่ผ่านมา นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เห็นว่า ควรถึงเวลาเหมาะสมที่จะจัดเก็บภาษี เฉลี่ย 2 บาทต่อลิตร ส่วนจะเริ่มเก็บภาษีเมื่อไรนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในระดับนโยบายต่อไป

อย่างไรก็ตาม รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ประเมินว่า แม้ กรมจะเริ่มเก็บภาษีสรรพสามิตก๊าซเอ็นจีวี แต่เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มฐานการจัดเก็บภาษีของกรมไม่มากนัก เพราะปัจจุบัน รถยนต์ที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวี ยังมีจำนวนไม่มาก เนื่องจากสถานีบริการ ยังมีจำนวนน้อย ทำให้ประชาชนยังไม่สนใจใช้มาก

โดยประกาศกรมสรรพสามิต ปัจจุบันลดอัตราภาษีให้กับโรงงานผลิตรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องยนต์เอ็นจีวีเบ็ดเสร็จภายในโรงงานเหลือ 20% จากอัตราจริง 30% แต่ถ้ารถยนต์ที่ผลิตจากโรงงานนั้นแล้วไปติดตั้งเครื่องยนต์เอ็นจีวี ในโรงงานอื่นจะคิดภาษีในอัตรา 30% โดยคำนวณภาษีจากราคารถยนต์หน้าโรงงานรวมกับราคาเครื่องยนต์เอ็นจีวีแล้วคูณด้วย 30% ทำให้ราคารถยนต์แพงกว่ารถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องยนต์เอ็นจีวีแล้วเสร็จภายในโรงงานผลิตรถยนต์

ก่อนหน้านี้ นายวิเศษ จูภิบาล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากการหารือกับค่ายรถยนต์ ต่างให้ความสนใจที่จะผลิตรถยนต์ที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวี เพื่อสนับสนุนนโยบายการลดภาระของประเทศจากราคาน้ำมันแพง โดยมีทั้งค่ายรถยนต์ที่ลงทุนทำไลน์ผลิตเครื่องยนต์เอ็นจีวีจากโรงงาน เช่น เบนซ์ และค่ายรถยนต์ที่มีติดตั้งเครื่องยนต์เอ็นจีวี หลังประกอบรถยนต์เสร็จสิ้น หรือ “DETROFIT” เช่น โตโยต้า โดยค่ายรถยนต์ให้ความเห็นว่า เพื่อสนับสนุนการผลิตรถยนต์ประเภทนี้ก็ควรจะมีการลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์เอ็นจีวี แต่ยังให้ความเห็นที่แตกต่างกัน โดยบางส่วนเห็นว่า ภาษีของรถยนต์ 2 ประเภท ดังกล่าว ควรจะอยู่ในอัตราเดียวกันคือ 20% แต่บางส่วนให้ความเห็นว่ารถ DETROFIT ควรมีอัตราภาษีประมาณ 25%

“ในขณะนี้คงขึ้นอยู่กับกระทรวงการคลังจะพิจารณาว่าจะลดภาษีรถยนต์เอ็นจีวีในส่วน DETROFIT เป็นเท่าใดจากอัตราภาษีรถยนต์ทั่วไปที่ 30% ซึ่งหากพิจารณาเรื่องนี้ได้เร็ว ก็คาดว่าโครงการผลิตรถยนต์เอ็นจีวีจะแพร่หลายได้เร็วขึ้น เพราะค่ายรถยนต์ไม่ต้องลงทุนไลน์ผลิต ซึ่งต้องใช้เวลาหลายปี โดยส่วนตัวเห็นว่าการลดอัตราภาษีลงเพียง 5% หรือเหลือเพียง 25% ก็น่าจะเพียงพอ จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องรายได้ภาษี” นายวิเศษ กล่าว

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการโครงการส่งเสริมการใช้ก๊าซเอ็นจีวี ทดแทนน้ำมัน โดย ครม.ได้อนุมัติยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องยนต์เอ็นจีวีไปแล้ว ในขณะที่หากเป็นโครงการผลิตรถยนต์เอ็นจีวีจากไลน์ผลิต ก็ได้รับการลดภาษีจากร้อยละ 30 เหลือร้อยละ 20 ซึ่งในขณะนี้มีเพียงค่ายเบนซ์เท่านั้นที่ลงทุน และจะเริ่มผลิตในปลายปีนี้ทั้งรุ่น “E-CLASS” และรถเมล์เอ็นจีวี ส่วนค่ายรถยนต์อื่นๆ รอความชัดเจนจากนโยบายภาษีของรัฐบาลเรื่อง “DETROFIT” โดยโตโยต้าพร้อมที่จะทำรถยนต์เอ็นจีวีรูปแบบนี้ มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะจำหน่ายให้แก่กลุ่มแท็กซี่ ในขณะที่ค่ายจีเอ็มให้ความสนใจเช่นกัน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us