|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ชี้น้ำมันในประเทศราคาแพงยาว แฉซ้ำ ปตท.ตัวการบิดเบือนตลาด ทำปั๊มเล็กกว่า 1 หมื่นปั๊มต้องปิดตัวลงภายใน 1 ปี ขณะที่ต่างชาติเตรียมถอนยวงลงทุน หลังถูกบีบค่าการตลาดเกินไป ผู้ค้าระบุคนไทยต้องใช้น้ำมันแพงต่ออีก 2 ปี เหตุต้องใช้เงินคืนกองทุนน้ำมัน “สมคิด” นัดถกวันนี้ แก้ปัญหาราคาสินค้า หลังเงินเฟ้อพุ่ง 6% รัฐบาลเสียงแข็ง ไม่ได้ฮั้ว ปตท.ขึ้นราคาน้ำมัน แถมการันตี ปตท.ทำหน้าที่ตามกลไกอย่างที่ดีสุดแล้ว นัดถกสถานการณ์น้ำมันอีกครั้งอังคารนี้
นายเทียนชัย จงพีร์เพียร นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน กล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันไตรมาส 3-4 ซึ่งปกติเป็นช่วงวัฎจักรขาขึ้น โดยเฉพาะดีเซลนั้นคาดว่าจะมีโอกาสแพงกว่าปกติ เนื่องจากในช่วงไตรมาส 2 หรือกลางปีนี้ ราคาน้ำมันได้ปรับตัวสูงทั้งที่ควรจะต่ำตามวัฎจักร ประกอบกับยังต้องติดตามมติของสหประชาชาติ (UN) ที่จะมีต่ออิหร่านในวันที่ 9 พ.ค.ว่าจะออกมาอย่างไร เพราะอิหร่านถือเป็นผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 2 ของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก (เอเปค) ผลิตน้ำมันถึง 3.9 ล้านบาร์เรล/วัน หากน้ำมันจากอิหร่านหายไป 1 ล้านบาร์เรล/วันคงทำให้น้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ปรับเหนือระดับ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
“ต้องเข้าใจว่าขณะนี้การผลิตน้ำมันกับความต้องการของโลกค่อนข้างตึงตัว เมื่อกองทุนหรือเฮดจ์ฟันด์ออกมาเก็งกำไรด้วยก็ยิ่งทำให้ราคาขึ้นไปสูงมาก ดังนั้นทิศทางราคาน้ำมันแพงจะยังคงยาวไปถึงปี 2550 แน่นอน” นายเทียนไชยกล่าว
***อีก1ปีปั๊มเล็กอาจเจ๊งหมด
นายเทียนไชยกล่าวว่า การที่รัฐบาลใช้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เป็นกลไกในการชะลอปรับขึ้นราคาน้ำมันในประเทศ ไม่ให้สะท้อนราคาตลาดโลกนั้น ทำให้ช่วงนี้ปตท.จะขายน้ำมันถูกกว่ารายอื่นๆ 40 สต./ลิตร บางครั้งถึง 90 สต./ลิตร ซึ่งในระยะสั้นวิธีการดังกล่าวเป็นผลดีต่อประชาชนที่ได้ใช้น้ำมันราคาถูกกว่าตลาดโลก แต่ในระยะยาวจะส่งผลให้ระบบการค้าน้ำมันไม่เกิดการแข่งขันที่ดี เพราะผู้ค้าอิสระรายเล็กๆ ที่สายป่านทางธุรกิจสั้น และไม่มีโรงกลั่นเป็นของตัวเองที่ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 10,000 ปั๊มอาจต้องทยอยปิดตัวเองลง ซึ่งคาดว่าหากเป็นเช่นนี้อีกแค่ 1 ปีจะเหลือแค่ผู้ค้ารายใหญ่ อาทิ ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ซึ่งจะทำให้เกิดการผูกขาดทาง
นอกจากนี้ ระยะยาวยังกระทบต่อการเข้ามาลงทุนของบริษัทข้ามชาติในไทย ซึ่งก่อนหน้าได้มีการถอนการลงทุนกิจการน้ำมันไปบ้างแล้ว โดยเชลล์ขายโรงกลั่น ส่วนบีพี และคิวเอท ถอนการลงทุนจากไทย และหากค่าการตลาดน้ำมันในประเทศต่ำจนเกินไป ระยะยาวจะส่งผลกระทบให้บริษัทน้ำมันที่มีโรงกลั่นเป็นของตัวเองหันไปส่งออกน้ำมันมากขึ้น ซึ่งจะทำอาจเกิดขาดแคลนได้
***หมดสิทธิ์เห็นราคาน้ำมันลด
รายงานข่าวจากผู้ค้าน้ำมันระบุว่า ในช่วง 2 ปีนับจากนี้ไปหากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลดลง แต่ราคาขายปลีกในประเทศจะยังทรงตัวในระดับสูงต่อไป เพราะไทยยังต้องใช้หนี้น้ำมันกว่า 65,000 ล้านบาทให้หมด โดยต้องติดตามว่ารัฐบาลจะใช้กองทุนนำมันเชื้อเพลิงเข้าไปช่วยพยุงราคาขายปลีกในประเทศอีกหรือไม่ หลังจากประกาศลดเงินนำส่งกองทุนน้ำมันในส่วนดีเซล 1 บาท/ลิตรไปเมื่อ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา
***“สมคิด”ถกรับมือสินค้าพุ่งวันนี้
รายงานจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า วันนี้ (8 พ.ค.) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลราคาสินค้ามาประชุมเพื่อหามาตรการบรรเทาความเดือนร้อนจากราคาสินค้าให้กับประชาชน หลังจากที่เงินเฟ้อเดือนเม.ย.ยับขึ้นมาอยู่ระดับ 6% เพราะผลกระทบจากราคาน้ำมัน ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น คาดว่า จะมีการดำเนินโครงการธงฟ้าราคาประหยัด และอิ่มทั่วฟ้าราคาเดียว ให้มากขึ้นทั่วประเทศ
โดยโครงการธงฟ้านั้น จะมีการติดต่อผู้ผลิตขนาดกลางและเล็ก หรือผู้ประกอบการที่มีสินค้าคุณภาพ เพื่อมาจัดจำหน่ายให้กับประชาชนในราคาถูกกว่าท้องตลาด 10-30% โดยจะดำเนินการทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน จะเร่งรัดเพิ่มจำนวนรถเข็นในโครงการอิ่มทั่วฟ้าจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปพร้อมข้าวเมนูละ 10 บาท ไปตามต่างจังหวัดตั้งแต่เดือนมิ.ย.นี้ให้มากขึ้น
ส่วนมาตรการดูแลภาวะราคาสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำมัน และการป้องกันการฉวยโอกาสนั้น ได้มีการเพิ่มบัญชีสินค้าติดตามดูแลจาก 150 เป็น 170 รายการ โดย 20 รายการที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ หมวดอาหารสด 4 รายการ คือ ผักกาดขาวปลี กะหล่ำปลี ผักกวางตุ้ง หอยแครง หอยแมลงภู่ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม 3 รายการ คือ น้ำผลไม้พร้อมดื่มบรรจุภาชนะผนึก ผลไม้บรรจุภาชนะผนึก ผักบรรจุภาชนะผนึก หมวดของใช้ประจำวัน 1 รายการ คือ ใบมีดโกน หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า 2 รายการ เครื่องฟอกอากาศ เครื่องเล่นวิทยุ-เทป-คอมแพ็กดิสก์ หมวดบริภัณฑ์ขนส่ง 1 รายการ คือ ไส้กรองอากาศ หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี 1 รายการ คือ ก๊าซเอ็นจีวี หมวดยารักษาโรคและเวชภัณฑ์ 5 รายการ คือ ยาแก้ไข้หวัด ยาบรรเทาปวดกล้ามเนื้อ ยาใส่แผลสด พลาสเตอร์ยา สำลี และหมวดทั่วไป 3 รายการ คือ กระเป๋านักเรียน ถุงเท้านักเรียน และเครื่องกรองน้ำ
ทั้งนี้ หากสินค้าในกลุ่มติดตามดูแลทั้ง 170 รายการนี้ มีการเคลื่อนไหวของราคาผิดปกติ หรือมีการกักตุน จะมีการพิจารณานำเข้ามาเป็นสินค้าควบคุม เพื่อให้มีมาตรการทางกฎหมายเข้าไปบริหารจัดการ
**รัฐบาลเสียงแข็งไม่ได้ฮั้วปตท.ขึ้นราคา
พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ฮั้วกับ ปตท.ในการขึ้นราคาน้ำมัน แม้ว่าบมจ.ปตท.ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจในการกำกับดูแลของรัฐ แต่รัฐยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งการดำเนินการในเรื่องราคาน้ำมัน ทาง ปตท. จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการทำตามกลไกตลาด
ทั้งนี้ การออกมาระบุถึงกรณีดังกล่าว เนื่องจากกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตระหว่างรัฐบาลและบริษัท ปตท. ว่าอาจจะมีการฮั้วกัน โดยไม่มุ่งที่จะช่วยเหลือประชาชนก่อน เนื่องจากรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ปตท. แต่ไม่สามารถควบคุมในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ได้
พล.ต.อ.ชิดชัยกล่าวอีกว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 9 พ.ค.นี้ จะพูดคุยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมัน และเรื่องการใช้จ่ายเงินของภาครัฐ ที่ส่งผลกระทบต่อส่วนราชการ พร้อมทั้งหามาตรการลดส่วนที่ไม่จำเป็นที่ต้องใช้จ่ายในภาครัฐ เช่น การดูงานต่างประเทศ หรือหากมีการประชุมจะทำเป็นระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อประหยัดพลังงาน และให้เกิดสมดุลในการใช้จ่าย ทั้งนี้ ขอยืนยันรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามดูผลกระทบในหลายเรื่อง นอกจากนี้ รัฐบาลต้องเร่งสร้างรายได้ โดยจะพยายามทำให้สนามบินสุวรรณภูมิเปิดใช้ได้
ส่วนกรณีที่นักวิชาการออกมาระบุว่า อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) อาจโตน้อยกว่าประเทศเวียดนาม นั้น พล.ต.อ.ชิดชัย กล่าวยอมรับว่า เรื่องบ้านเมืองไม่นิ่งมีส่วนสำคัญ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องการเมืองมีผลโดยตรงกับเศรษฐกิจ
|
|
|
|
|