Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์8 พฤษภาคม 2549
ระฆังยกแรก"ตลาดอนุพันธ์"สวรรค์เซียนหุ้นกระเป๋าหนัก             
 


   
www resources

โฮมเพจ ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย)- TFEX

   
search resources

เกศรา มัญชุศรี
Stock Exchange
ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย), บมจ.-TFEX




จุดพลุเปิดตลาดอนุพันธ์ "ทีเฟกซ์" เผยโฉม SET Index Futures 50 สินค้าใหม่ตัวแรก วางตำแหน่งฉายแววเป็นไฟฉายส่องอนาคต สวรรค์ของนักเก็งกำไรเงินหนา ที่พร้อมประลองความเสี่ยงเก็งกำไรกับอนาคตที่ไม่อาจคาดเดา แม้สัญญาณซื้อขายวันแรกจะเบาบาง เพราะนักลงทุนยังกล้าๆ กลัวๆ รอดูท่าทีช่วงเปิดตัว พร้อมทั้งศึกษาความรู้เพิ่มเติม คาดหวังเป็นม้าตีนปลาย มีจำนวนสินค้าใหม่-ปริมาณการเทรดเพิ่ม

ตลาดอนุพันธ์หรือ TFEX (Thailand Futures EXchange)ได้เปิดตัวทำการซื้อขายวันแรกเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2549 โดยมีพระราชบัญญัติสัญญาซื้อขายล่วงหน้า พ.ศ.2546 รองรับ และถูกกำกับโดย บริษัท ตลาดอนุพันธ์(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มองในแง่หนึ่งตลาดนี้ก็ถือได้ว่าเป็นการลงทุนในปัจจุบันโดยคาดการณ์ล่วงหน้าในอนาคต แต่ในอีกแง่หนึ่งก็เปรียบเสมือนสนามประลองฝีมือชั้นเซียนของนักเก็งกำไรด้วยเช่นกัน

สำหรับวันแรกที่มีการซื้อขายโชคอาจจะไม่เข้าข้างนักเพราะดัชนี SET 50 ที่อนุพันธ์SET Index Futures 50 ใช้เป็นตัวอ้างอิง ลดลง 2.77 จุด หรือ -0.52% แต่ก็ถือได้ว่ามีทิศทางที่ดีเป็นประกายแห่งความสดใสอยู่พอสมควรในการคาดการณ์อนาคตจากสัญญาราคาซื้อขายของอนุพันธ์ทุกตัวที่ยืนอยู่เหนือระดับ 533.86 จุด ซึ่งเป็นราคาปิดดัชนี SET 50 และมีปริมาณการซื้อขายทั้งสิ้น 150 สัญญา

เกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ ตลาดอนุพันธ์ กล่าวว่า "แม้ในวันแรกที่มีการซื้อขายจะมีปริมาณไม่สูงนักเพราะเป็นช่วงที่ผู้ลงทุนรอดูสถานการณ์และศึกษาข้อมูลต่างๆเพื่อตัดสินใจก่อนเข้ามาลงทุน แต่ก็เชื่อว่าหลังจากที่ได้มีการซื้อขายไประยะหนึ่งแล้ว ผู้ลงทุนจะเริ่มมีความมั่นใจและเข้าใจในการซื้อขายอนุพันธ์มากขึ้น รวมทั้งจะเห็นถึงประโยชน์ในการที่จะใช้อนุพันธ์บริหารความเสี่ยงจากการลงทุน หรืออาจจะมองเห็นโอกาสในการเก็งกำไรจากการซื้อขายอนุพันธ์ คาดว่าในปีนี้ตลาดฯจะมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยราว 1000 สัญญาต่อวัน"

"หากพิจารณาจากประสบการณ์ของตลาดอนุพันธ์ในประเทศใกล้เคียง ก็จะพบว่าช่วงแรกปริมาณการซื้อขายจะยังไม่สูงนัก แต่จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงหลังจากนั้น อาทิตลาดอนุพันธ์ของเกาหลีที่มีการซื้อขายมากเป็นอันดับของโลกในแง่จำนวนสัญญาที่ซื้อขายเฉลี่ยมากกว่า 10 ล้านสัญญาต่อวัน ทั้งๆที่ตลาดฯมีอายุเพียง 10 ปีเท่านั้น"

ด้านสัดส่วนประเภทผู้ลงทุนที่จะเข้ามาทำการซื้อขายในตลาดฯนี้ได้มีการประเมินว่าเบื้องต้นน่าจะมีสัดส่วนใกล้เคียงของตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากสินค้าชนิดแรกเป็นอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับดัชนีราคาหุ้น ซึ่งจากข้อมูลพบว่า ปีที่ผ่านมาสัดส่วนการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์มีผู้ลงทุนบุคคล, ผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนต่างชาติอยู่ที่ประมาณร้อยละ 62,10 และ 28 ของมูลค่ากรซ้อขายตามลำดับ

"โดยส่วนตัวมองว่าจะเหมาะสมกว่าหากผู้ลงทุนในตลาดนี้มีเงินมากพอสมควร สมมติว่ามีเงินลงทุน 5 หมื่นบาท แนะนำว่าควรจะนำเงินจำนวนนี้ไปฝากธนาคารรับดอกเบี้ยน่าจะดีกว่า" เกศรา กล่าว

ความแตกต่างหลักของตลาดตราสารอนุพันธ์ SET 50 การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ ตราสารอนุพันธ์จะมีวันหมดอายุในเวลาที่กำหนดซึ่งแบ่งเป็น 3, 6 , 9 และ 12 เดือนนับแต่วันออก และราคาซื้อขายก็คือดัชนี SET 50 ที่คาดการณ์ล่วงหน้าว่าจะเป็นในวันหมดอายุดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าราคาจะอิงการคาดการณ์จำนวนและราคาซื้อขายล่วงหน้าของหุ้น 50 ตัวหลักในกระดานเฉลี่ยรวมกัน ภายใต้การเจรจาตกลงซื้อขายจากปัจจุบันเป็นการคาดการณ์เชิงมหภาคในอนาคต

ขณะที่การซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์จะทำการซื้อขายเป็นรายตัวที่เป็นการดูเชิงจุลภาคมากกว่า ซึ่งหุ้นจะมีการจ่ายปันผล, แตกพาร์ได้, มีการออกลูกหุ้น และไม่มีวันหมดอายุ ในขณะที่ตรารอนุพันธ์จะเป็นตรงกันข้าม

ทั้งนี้ตราสารอนุพันธ์ SET 50 ถือได้ว่าเป็น Product ตัวแรกของตลาดฯและมี Product Line 4 ตัวประกอบด้วย SET 50 JUN xx/ SET 50 SEP xx/ SET 50 DEC xx และ SET 50 MAR xx ซึ่งวัดจากวันหมดอายุห่างกันช่วงละ 3 เดือนตามลำดับ โดยต่อไปตลาดฯมีโครงการว่าจะนำสินค้าอ้างอิงที่ผ่านการซื้อขายแบบล่วงหน้านี้เข้ามาเทรดเพิ่มเติมอีกอาทิ น้ำมัน, ทองคำ, เงินตราต่างประเทศ ฯลฯ

การตกลงซื้อขายนี้ก็ยังคงต้องมีโบรกเกอร์เป็นคนติดต่อประสานงานเหมือนในตลาดหลักทรัพย์เช่นกัน ซึ่งขณะนี้มีโบรกเกอร์ที่เป็นสมาชิกของตลาดซื้อขายอนุพันธ์แล้ว 20 ราย

สำหรับจุดเด่นที่ทำให้ตลาดฯนี้มีเสน่ห์ดึงดูดนักลงทุนมีอยู่ 2 ปัจจัยด้วยกันคือ การซื้อตราสารสามารถจ่ายเพียงเงินประกันขั้นต้นเพียงส่วนหนึ่งก่อนได้และทุกวันจะมีการ Mark to Market ตอนปิดทำการเทียบให้ได้เห็นว่าอนุพันธ์ที่เราถืออยู่ได้กำไรหรือขาดทุน ซึ่งหากเป็นกำไรก็จะมีเงินเข้าบัญชีให้แต่หากขาดทุนก็ต้องวางเงินประกันเพิ่ม

แต่ปัญหาหนึ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับตลาดฯนี้ซึ่งเพิ่งเปิดทำการได้เพียงไม่กี่วันก็คือ รายงานของสายงานวิจัยและข้อมูลสารสนเทศหรือ SET NOTE ที่ระบุว่าในรอบ 4 ปีที่ผ่านมามีหุ้นน้องใหม่เข้ามาทำการซื้อขายในการดานเพิ่มขึ้น 37% ขณะที่มีผู้ลงทุนใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 25%เท่านั้น ซึ่งนั่นก็หมายถึงอุปทานที่มีมากกว่าอุปสงค์ทำให้ราคาของหุ้นไม่สูงเท่าที่ควร ดังนั้นการเปิดตลาดฯนี้จึงเปรียบเสมือนอีก 1 ในช่องทางที่จะดูดเงินจากระบบไปอีกทำให้มีอุปทานเพิ่มทวีขึ้นอีก

ไม่ว่าตลาดซื้อขายล่วงหน้าจะถูกมองว่าเป็นทูตสวรรค์หรือซาตานของระบบตลาดทุนไทย แต่วันนี้กลไกของมันได้ถูกจุดชนวนให้ขับเคลื่อนแล้ว และช่วงเวลาต่อจากนี้ไปก็จะเป็นคำตอบของอนาคตที่จะชี้ให้เห็นได้ว่าเราเดินมาถูกทิศถูกทางเพียงใด

สำหรับในฟากมิติของนักลงทุนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตลาดใด ใหม่หรือเก่า หลักการที่เป็นความจริงและคงยืนหยัดเสมอก็คือ "High Risk High return" เสี่ยงมากก็ได้มาก เมื่อมีกำไรก็ย่อมมีขาดทุน เพราะการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง.....   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us