|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"ณรงค์ ลีตสุวรรณ" เอ็มดีคนใหม่ราชบุรีโฮลดิ้ง เผยเล็งหาพันธมิตรรายใหม่ และมีนโยบายการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ในต่างประเทศ 2แห่ง พร้อมผลักดันโครงการพลังงานทดแทนในประเทศเพื่อรองรับสถานการณ์น้ำมันโลก ขณะทีผู้บริหารคนเก่า ชี้ ราชบุรีฯ เป็นบริษัทลูกอันดับต้นๆที่ กฟผ.ให้ลงทุนแทน
ณรงค์ ลีตสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ราชบุรีโฮลดิ้ง กล่าวว่า ได้เข้ารับตำแหน่งนี้เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตนเองมีนโยบายในการดำเนินงานคือ จะทำตามนโยบายเดิมแต่จะปรับรูปแบบองค์กรให้ มีความยืดหยุ่น และส่งผลดีต่อการขยายองค์กรมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ได้วางการขยายการลงทุนปี 2549 ไว้แล้วว่าจะเน้นธุรกิจผลิตไฟฟ้าโครงการขนาดใหญ่ โดยเน้นสร้างโรงไฟฟ้าต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งกำลังมองที่ประเทศกัมพูชาและประเทศพม่า ประเด็นสำคัญคือจะต้องขายกลับคืนมาในประเทศให้ได้ มากกว่าที่จะขายไฟให้กับต่างประเทศเหล่านั้น สำหรับโครงการโรงไฟฟ้า IPP นั้น ทางราชบุรีโฮลดิ้ง จะเข้าร่วมประมูลด้วยอย่างแน่นอนเพราะถือเป็นหนึ่งโครงการใหญ่ที่สำคัญของประเทศ
สำหรับการลงทุนภายในประเทศจะเน้นเรื่องพลังงานทดแทน เช่นพลังงานทดแทนจากแกลบ หรือ ใช้ บายโพรดักซ์จากกากวัสดุโรงงานไฟฟ้าภายในประเทศที่มีอยู่เดิม นั้นคือ บริษัท สยาม เอทานอล เอ็กซ์ปอร์ท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตแอลกอฮอล์เพื่อการส่งออกกำลังการผลิต 30,000 ตันต่อไป และต่อไปทางราชบุรีโฮลดิ้งจะต้องปรับตัวตามภาวะที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งต่อไปจะมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ทาง ราชบุรีโฮลดิ้ง ต้องมองหาพันธมิตรเข้ามาร่วมลงทุนเพิ่ม ดังจะเห็นได้จากการที่ทางราชบุรีได้ดึงบริษัทชุอูอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาร่วมมือในโครงการ บริษัทชูบุราชบุรี อิเล็คทริคเซอร์วิส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างเดินเครื่องไฟฟ้า ที่มีสัญญาเดินเครื่องภัย บริษัทราชบุรีเพาเวอร์ จำกัด ระยะเวลา 25ปี ซึ่งทางราชบุรี ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50
มั่นใจ กฟผ.สนใจมากที่สุด
ส่วนโอกาสของ ราชบุรีโฮลดิ้งเองในการเข้าไปรับงานขยายการลงทุนแทน กฟผ.ที่จะต้องกลับไปเป็นรัฐวิสาหกิจดังเดิม ส่งผลให้ไม่เกิดความคล่องตัวในการลงทุน จึงทำให้การลงทุนขนาดใหญ่อาจจะต้องให้บริษัทลูกซึ่งทาง กฟผ.ถือหุ้นอยู่เข้าไปลงทุนแทนนั้น บุญชู ดิเรกสถาพร อดีตกรรมการผู้จัดการ และปัจจุบันเป็น กรรมการบริษัท ราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)ด้วย กล่าวว่า ทาง ราชบุรีโฮลดิ้ง มีความมั่นใจในระดับหนึ่งว่าจะเป็น Priority แรกๆที่ กฟผ.จะเลือกให้ลงทุนแทน ด้วยสาเหตุที่ขณะนี้ กฟผ.เข้ามาถือหุ้นราชบุรีโฮลดิ้งอยู่ 40% ถือว่าสูงกว่าบริษัทลูกรายอื่นๆที่ทางกฟผ.ถือหุ้นเพียง 25% และถ้าจะเลือกลงทุนผ่านบริษัทราชบุรี ทาง กฟผ.จะได้รายรับในปริมาณที่มากกว่า ซึ่งทาง ราชบุรีโฮลดิ้งถือว่ามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร และเทคโนโลยีที่จะรองรับการลงทุนใหม่ๆได้
"ถ้ามองเฉพาะตัวเลขตอนนี้ บมจ.ราชบุรีโฮลดิ้งน่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆที่น่าสนใจ เพราะต่อไปการลงทุนของ กฟผ.จะเป็นได้อยากขึ้น เพราะถือเป็นหนี้สินของประเทศไปด้วย ซึ่งการพัฒนาประเทศต้องมองถึงการพัฒนาด้านสังคม ควบคู่พร้อมกันคงจะมาทุ่มให้กับการลงทุนด้านเดียวไม่ไหว" บุญชูกล่าว
เร่งสร้างโรงไฟฟ้าในลาว
นอกจากนี้ยังมีโรงไฟฟ้าที่อยู่ในระหว่างดำเนินการอยู่คือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 ซึ่งมีกำลังการผลิต 630 เมกกะวัตต์ /วัน และโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 3 มีกำลังการผลิต 460 เมกกะวัตต์/วัน นั้น เอ็มดีคนใหม่ กล่าวว่า สำหรับโครงการน้ำงึม 2 ได้จัดทำสัญญาเรื่องทางด้านการเงินใกล้เสร็จแล้ว จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในปี 2549 ส่วนโครงการน้ำงึม 3 นั้นอยู่ในระหว่างการเจรจาคิดอัตราค่าไฟฟ้า จะทำให้โรงงานไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 3 แล้วเสร็จล่าช้ากว่าโครงการน้ำงึม 2 เล็กน้อย โดย คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2554 หรือต้นปีพ.ศ. 2555 และสามารถนำรายได้เข้ามาให้กับราชบุรีโฮลดิ้ง เพิ่มมากขึ้น ขณะนี้สินทรัพย์ของ บมจ.ราชบุรีโฮลดิ้งมีทั้งสิ้น 69,494 ล้านบาท
"โรงไฟฟ้าพลังน้ำจะมีความล่าช้ามากกว่าโรงไฟฟ้าแบบอื่นๆ เพราะจะต้องขึ้นอยู่กับสภาวะระดับน้ำในแต่ละปีด้วย จึงทำให้ความล่าช้ามากกว่า แต่คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะทางลาวต้องการให้เข้าไปลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าอยู่แล้ว อีกทั้งเป็นสัญญาที่กำหนดไว้แล้วของทั้งสองประเทศ " ณรงค์กล่าว
|
|
|
|
|