|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บิ๊ก อีเวนท์เมืองไทย เกรียงไกร อินเด็กซ์ฯ มองภาพรวมธุรกิจหลังผ่านจุดเติบโตสูงสุด ถึงคราวฝนแล้ง เติบโตช้าลง เหตุลูกค้าใช้งานอีเวนท์เลอะเทอะ จนเสห่ห์หดหาย จากนี้อีเวนท์ที่จะขายได้ต้องอัดแน่นด้วยประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การตลาดได้ตรงจุด ชี้ถึงจุดเปลี่ยนจากอีเวนท์ปริมาณ สู่ยุคอีเวนท์คุณภาพ
บทบาทของธุรกิจอีเวนท์ เป็นกิจกรรมสื่อสารการตลาดกึ่งกลางที่ได้รับการผลักดันให้เติบโตอย่างรวดเร็วจากกิจกรรมสื่อสารการตลาดรอบข้างในช่วงที่ผ่านมา เหมือนช่วงน้ำขึ้น ฟ้าฝนหล่นโปรย
ฟากหนึ่งของการสื่อสารการตลาด คือการหยิบใช้สื่อเพื่อสื่อสารข้อมูลออกไปในแนวกว้าง ที่เรียกขานกันว่า Above the Line เริ่มมีข้อสงสัยในความคุ้มค่าของงบประมาณมหาศาลที่จ่ายไปแต่ละแผนงาน และการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง ว่าแท้จริงแล้วเงินทุกบาทที่จ่ายไปในการซื้อสปอตโฆษณาโทรทัศน์ไพร์มไทม์ สปอตวิทยุคลื่นฮอต หน้าสี่สีของนิตยสารชื่อดัง หรือป้ายบิลบอร์ดมหึมากลางใจเมือง ได้ประสิทธิผลจริงหรือเปล่า เจ้าของสินค้าและบริการหลายรายจึงเลือกที่จะลดการใช้จ่ายผ่านสื่อ หันมาจัดอีเว้นท์ ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตัวเป็น ๆ ชัดเจน แล้วใช้การประชาสัมพันธ์ในเครื่องมือในการกระจายข่าว
ส่วนอีกฟากในฝั่งของ Below the Line คือการประชาสัมพันธ์ ที่เคยเป็นกิจกรรมสื่อสารการตลาดในรูปแบบราบเรียบ การจัดงานแถลงข่าว เปิดตัวสินค้า แนะนำบริการแบบธรรมดา พื้น ๆ ธุรกิจอีเว้นท์ถูกหยิบมาใช้เพื่อสร้างสีสันต์ สร้างกิจกรรมที่สามารถสร้างความสนใจของคนที่มากขึ้น
ปัจจัยทั้ง 2 ด้านสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจอีเวนท์มาระยะหนึ่ง การเติบโตของธุรกิจปีละ 14-15% ก่อเกิดผู้ให้บริการการจัดอีเว้นทรายเล็ก-ใหญ่ เป็นจำนวนมาก แต่วันนี้ เกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ อีเวนท์ เอเจนซี่ จำกัด(มหาชน) หัวแถวของผู้ดำเนินธุรกิจอีเวนท์ระดับภูมิภาค กลับมองว่า ธุรกิจอีเวนท์ต่อจากนี้ถึงคราวถดถอย การเติบโตในปีนี้จะลดเหลือเพียง 5%
"วันนี้ อีเวนท์ ไม่ได้เป็นกิจกรรมสื่อสารการตลาดที่เจ้าของธุรกิจจะใช้มากขึ้น แต่จะเป็นการเลือกใช้เฉพาะกิจกรรมที่มองเห็นว่าทำให้การตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้นมากกว่า หลายปีที่ผ่านมาทุกคนใช้อีเวนท์แบบเลอะเทอะมาก จนวันนี้เสน่ห์ของอีเวนท์หมดไป หรือคลายประสิทธิภาพลงไปบ้าง ดังนั้น ปีที่ผ่านมาจึงเห็นเจ้าของสินค้าเปลี่ยนกลยุทธ์หันไปใช้เครื่องมือการตลาดอื่น ๆ โดยเฉพาะ Sale Promotion การลด แลก แจก แถม กันหลายต่อหลายราย แต่ Sale Promotion ก็มีข้อจำกัดที่สามารถใช้เพื่อกระตุ้นลูกค้าในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น"
เกรียงไกรมองว่า แนวโน้มของธุรกิจอีเวนท์นับจากนี้ว่า จะเป็นช่วงที่ธุรกิจจะมีอัตราการเติบโตที่ลดน้อยลง เปรียบเหมือนเป็นฤดูแล้ง หลังจากที่ฟ้าฝนได้ตกลงให้ความชุ่มชื้นมาหลายปี ส่งผลให้ผู้ประกอบการผุดเพิ่มเป็นดอกเห็ด แต่นับจากนี้ผู้ที่จะอยู่รอดดำเนินธุรกิจต่อไปได้ต้องมีความตั้งใจที่จะทำธุรกิจนี้จริง เพราะเมื่อเจ้าของสินค้าที่เคยใช้อีเวนท์กันอย่างมากมาย เมื่อ 2-3 ปีก่อน ต้องกลับมาตอบคำถามจากฝ่ายบริหารว่า ลงทุนไปแล้วคุ้มค่าหรือไม่ ดังนั้น ต่อจากนี้ แม้เจ้าของสินค้าจะเห็นว่าอีเวนท์ยังเป็นกิจกรรมสื่อสารทางการตลาดที่สำคัญ แต่การจะลงทุนใช้อีเวนท์อย่างไร จะต้องพิจารณากันมากขึ้น มีเหตุมีผลมากขึ้นว่าจะใช้เพราะอะไร ตอบโจทย์การตลาดข้อไหน
ทั้งนี้เมื่อเจ้าของสินค้ามีความคาดหวังในงานอีเวนท์ที่สูงขึ้น ในส่วนของผู้ประกอบการในธุรกิจอีเวนท์ก็จำเป็นต้องกลับมาคิดงานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีอิมแพ็คมากขึ้น สามารถต่อยอดให้เห็นผลในด้านการประชาสัมพันธ์ และการทำตลาดให้มากขึ้น ซึ่งเมื่อโจทย์ทางธุรกิจที่ยากขึ้นเช่นนี้ จะส่งผลให้ปีนี้ปริมาณงานอีเวนท์จะลดลง แต่จะได้เห็นงานที่มีการใส่กลยุทธเข้าไปอย่างเต็มที่ คิดมากขึ้น และมั่นใจว่าตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปจะได้เห็นงานอีเวนท์ที่มีครีเอทีฟสูง ๆ เป็นงานคุณภาพสูงกลับมาให้เห็นอีกครั้ง
เมื่องานอีเวนท์มีแนวโน้มที่จะพัฒนารูปแบบของงานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น แต่ในด้านบุคลากร เกรียงไกรกลับมองว่า ภาพรวมของบุคลากรในวงการอีเวนท์วันนี้ยังไม่มีความพร้อม หลาย ๆ บริษัทที่เกิดขึ้น ผลิตบุคลากรที่ยังมีทัศนคติในการมองธุรกิจอีเวนท์ว่าเป็นเพียงการคิดกิจกรรมการตลาดกิจกรรมหนึ่งเท่านั้น มองว่าเป็นเพียงแผนกอีเวนท์ ที่ทำหน้าที่ผลิต และควบคุมดูแลการจัดงาน
"อีเวนท์ไม่ใช่โปรดักชั่น แต่อีเวนท์คือ Strategic Thinking ที่ต้องคิดในเชิงกลยุทธ อีเวนท์คือการสื่อสารทางการตลาดผ่านกิจกรรม"
แต่ทั้งนี้การเติบโตด้านบุคลากรในวงการอีเวนท์ ถือว่ามีแนวโน้มที่ดี เมื่อ Event Marketing ถูกบรรจุเป็นวิชาที่เปิดสอนอยู่ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย ทั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เกรียงไกร กาญจนะโภคิน ที่รับหน้าที่อาจารย์พิเศษสอนวิชานี้มากว่า 4 ปี กล่าวว่า กลุ่มนักศึกษาในยุคนี้มีความเข้าใจเรื่องงานอีเวนท์มากขึ้น เพราะคนเหล่านี้เติบโตขึ้นมาจากธุรกิจอีเวนท์ เข้าใจงานด้านอีเวนท์ดีกว่าคนยุคก่อน เนื่องจากชีวิตประจำวันของคนยุคนี้จะพบเห็นงานอีเวนท์อยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะอยู่ในห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ สถาบันการศึกษา ฯลฯ และเมื่อคนเหล่านี้ได้มีโอกาสเข้าสู่ธุรกิจอีเวนท์ เชื่อว่า ความรู้ ความเข้าใจในธุรกิจ ที่ซึมซับมาโดยตลอด จะทำให้บุคลากรในวงการอีเวนท์มีคุณภาพที่จะสร้างสรรค์งานคุณภาพได้ในอนาคต
|
|
|
|
|