ตลาดฟิตเนสปีนี้ยังแข่งเดือด เยส!ฟิตเนสเล็งขยายสาขาใหม่เพิ่ม 2 แห่ง ภายใต้งบลงทุนสาขาละ 150 ล้านบาท เผยการลงทุนอาจเป็นของผู้ถือหุ้นเดิมหรือพันธมิตรรายใหม่ก็ได้ พร้อมมีแผนระดมทุนจดทะเบียนเพิ่มอีก 30 ล้านบาท ส่วนการดำเนินธุรกิจปีนี้เตรียมทำการตลาดมากขึ้น พร้อมนำเสนอโปรแกรมใหม่แบบเฉพาะกลุ่ม ล่าสุดเปิดตัวโปรแกรมออกกำลังกายแนวใหม่ "ไซเคิล คาราโอกี้" ปั่นไปร้องไป หวังดันสมาชิกเพิ่ม 10-15% และยอดรายได้สิ้นปีแตะ 50 ล้านบาท

นายไกวัล ชุ่มวัฒนะ ผู้อำนวยการบริหาร บริษัทเอ็กซ์เซอร์เทนเมนต์ จำกัด ผู้บริหารสถานออกกำลังกายภายใต้ชื่อ "Yes! Fitness" เปิดเผยว่า แผนการขยายสาขาของเยส! ฟิตเนส บริษัทฯมีแผนเปิดสาขาเพิ่มอีก 2 แห่งในบริเวณกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับพันธมิตรอยู่ คาดว่าจะสามารถเพิ่มให้บริการได้ 1 แห่งปีนี้ ภายใต้งบลงทุนสาขาละ 150 ล้านบาท บนขนาดพื้นที่ 2,000 ตารางเมตรขึ้นไป

ทั้งนี้การขยายสาขาใหม่นั้นอาจจะต้องมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกเท่าตัวหรือประมาณ 60 ล้านบาท จากเดิมมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 30 ล้านบาท แบ่งเป็นของบริษัทอีจีวี เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด ในเครือบริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นสัดส่วน 60% และบริษัท อัลเมล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดถือหุ้น 40% โดยการขยายสาขาใหม่นั้นอาจเป็นการลงทุนเองของบริษัทฯหรือร่วมลงทุนกับพันธมิตรใหม่ก็ได้

ส่วนแผนการขยายสาขาที่เกิดความล่าช้าไปจากแผนเดิม เนื่องจากนโยบายธุรกิจจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ยังไม่มีความชัดเจน จึงทำให้ปัจจุบันเยส! ฟิตเนสมีเปิดบริการเพียง 1 แห่งที่บิ๊กซี ราชดำริ

อย่างไรก็ตามภายหลังมีการควบรวมกันระหว่างอีจีวีและเมเจอร์ ซึ่งมีธุรกิจสถานออกกำลังกายแคลิฟอร์เนีย ว้าวฟิตเนสที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ถือหุ้นอยู่ 49% ทำให้เกิดความซับซ้อนในการบริหารธุรกิจ ซึ่งตรงนี้ทางบริษัทเมเจอร์ฯได้ตั้งคณะกรรมการบริหารส่วนกลางขึ้นมาเพื่อทำหน้าปรึกษาและประสานงานในส่วนของธุรกิจเยส ฟิตเนสว่าจะดำเนินธุรกิจต่อไปหรือขายหุ้นทิ้ง โดยทางผู้บริหารของบริษัท อัลเมลฯก็ต้องการรับทราบความชัดเจนและได้ยื่นเรื่องมาให้พิจารณาตัดสินใจหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเชื่อว่าเร็วๆนี้คงรู้ผล

นายไกวัล กล่าวด้วยว่า การดำเนินธุรกิจของเยส! ฟิตเนสปีนี้จะมีการทำตลาดสู่สาธารณชนมากขึ้น ภายใต้งบการตลาดกว่า 10 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทฯได้เปลี่ยนโลโก้ใหม่ให้มีสีสันสดใสและปราดเปรียวมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมกันนี้ยังเน้นการหาโปรแกรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองลูกค้า อาทิ โปรแกรมออกกำลังกายแนวใหม่ "ไซเคิล คาราโอกี้" โดยผู้เล่นสามารถปั่นจักรยานแบบแอโรบิคพร้อมร้องคาราโอเกะไปด้วยพร้อมกัน รวมถึงการทำโปรแกรมเฉพาะกลุ่มเพื่อเจาะลูกค้าในแต่ละกลุ่มไป เช่น คอร์สสอนเต้นลาตินหรือคอร์สออกกำลังกายสำหรับแม่บ้าน เป็นต้น

"สำหรับค่าบริการของเยส! ฟิตเนสถือว่าแพงกว่าแคลิฟอร์เนีย ว้าวอยู่ 5% และมีราคาถูกกว่าฟิตเนส เฟริส์ท 10% ซึ่งราคาค่าบริการของเราจะแบ่งเป็นแบบรายปี 20,000 บาท รายเดือน 8,000 บาท และรายวัน 400 บาท ซึ่งลูกค้าที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกแบบรายปีและ 6 เดือน"

ทั้งนี้เยส!ฟิตเนสเปิดดำเนินการมาครบรอบ 2 ปีแล้ว โดยปัจจุบันมีสมาชิกเกือบ 3,000 ราย สิ้นปีคาดว่าจำนวนสมาชิกจะเพิ่มอีก 10-15% โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของเยส! ฟิตเนสจะเป็นอายุ 25 ปีขึ้นไปหรือวัยทำงาน

สำหรับยอดรายได้ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าที่ 50 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นจากปีที่แล้วที่มีรายได้ประมาณ 30-40 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาพบว่ายอดรายได้เป็นไปตามเป้าหรือประมาณเดือนละ 4 ล้านบาท ส่วนจุดคืนทุนคาดว่าต้องใช้เวลาภายใน 2 ปี

ภาพรวมของธุรกิจสถานออกกำลังกายในปัจจุบันมีการแข่งขันกันรุนแรงมากขึ้น เห็นได้จากการเปิดตัวของธุรกิจรายใหม่และการที่คนออกกำลังกายมากขึ้น ในส่วนของมูลค่าตลาดรวมของฟิตเนสคาดว่าจะมีกว่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป และมีอัตราการเติบโตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา 30-40% ในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 15-20% จากปัจจัยลบต่างๆ เช่นราคาน้ำมันปรับขึ้นเรื่อยๆ เป็นต้น