Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน4 พฤษภาคม 2549
ผู้ประกอบการหน้าใหม่ชะลอลงทุนสปาหวั่นเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวหด-ตลาดอิ่ม             
 


   
search resources

Spa and Beauty




เดอะ โอเอซิส กรุ๊ปเชื่อธุรกิจสปาในไทยยังสดใส โดยคาดปีนี้เติบโต 30% ได้ฤกษ์เตรียมบุกเปิดสปาในกรุงเทพฯย่านสุขุมวิทในช่วงปลายปี มั่นใจจุดแข็งวัฒนธรรมการบริการแบบล้านนาเป็นจุดขาย ระบุไฮไลต์เด่นปีนี้งานพืชสวนโลกกระตุ้นนักท่องเที่ยวมาเชียงใหม่เพียบและสปาโต 50% ด้านนายกสมาคมไทยล้านนาสปาเผยสปาภาคเหนือโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ เชื่อใครมีความต่างอยู่รอด ส่วนตลาดรวมขณะนี้อยู่ในช่วงทรงตัว เพราะการแข่งขันที่สูงขึ้น

นายภาคิน พลอยแหวน ประธาน บริษัทเดสทินี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้บริหารเดอะ โอเอซิส สปา กรุ๊ป และสมาชิกสมาคมไทยล้านนาสปา เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจสปาในไทยปีนี้มองว่าจะมีอัตราการเติบโต 20-30%ในแง่รายได้ ซึ่งจากความแรงของธุรกิจสปาในปัจจุบันยังเชื่อว่าสปายังไปได้อีก 2-3 ปี ส่วนด้านการลงทุนของผู้ประกอบการรายใหม่เชื่อว่าจะชะลอตัวลงหรือผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยจะอยู่ได้ต้องมีการปรับกลยุทธ์และมาตรฐานให้เหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละกลุ่มและต้องมีจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจ

ปัจจุบันสปาของโอเอซิสเปิดให้บริการในรูปแบบเดย์ สปาและมีให้บริการแล้ว 4 แห่งที่เชียงใหม่ ได้แก่ เดอะ เชียงใหม่ โอเอซิส สปา, เดอะ ลานนา โอเอซิส สปา , เดอะ อโรม่า โอเอซิส เชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งในปีนี้บริษัทฯมีแผนเปิดสปาแห่งใหม่ในกรุงเทพฯเป็นครั้งแรกที่ย่านสุขุมวิท 32 บนพื้นที่ขนาด 1 ไร่ ภายใต้งบลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

"สาเหตุที่มาเปิดสปาในกรุงเทพฯ เนื่องจากมั่นใจในจุดแข็งของโอเอซิส สปาที่เด่นในเรื่องโปรดักส์ หรือการบริการต่างๆ เช่น วัฒนธรรมของคนภาคเหนือ, การรับส่งลูกค้าจากที่พัก หรือการนวดทรีตเมนต์ เป็นต้น โดยค่าบริการสปาจะอยู่ที่ประมาณ 2,000-7,000 บาท"

ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักของสปาที่เปิดในกรุงเทพฯจะแตกต่างจากที่เชียงใหม่ที่เน้นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 80% ส่วนสปาในกรุงเทพฯจะแบ่งลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 60% และที่เหลือเป็นคนไทย 30-40%

สำหรับยอดรายได้บริษัทฯคาดว่าสาขาใหม่ในกรุงเทพฯจะมีประมาณเดือนละ 5 ล้านบาท ส่วน 4 สาขาในเชียงใหม่คาดว่ายอดรายได้จะเติบโตขึ้น 10-20% จากยอดรายได้ปีที่แล้ว 30 ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมาพบว่าผลประกอบการสปายังดีอยู่ ถึงแม้จะมีปัญหาทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจชะลอตัว โดยในส่วนการเมืองมีผลกระทบต่อธุรกิจบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์มีการยกเลิกทริปไปบ้าง แต่ตรงนี้บริษัทฯก็มีแผนการตลาดออกมาเพื่อทำการตลาดแบบกว้างมากขึ้น

นอกจากนี้ปีนี้ยังเป็นปีที่ไทยจะจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกเทิดพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ที่เชียงใหม่ในวันที่ 1 พ.ย. 49- 31 ม.ค. 50 ตรงนี้เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวแห่เข้าเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก และจะทำให้ธุรกิจสปาในภาคเหนือเติบโตมากหรือกว่า 40-50%

**ชี้สปาภาคเหนือเด่นด้านวัฒนธรรม**

ด้านนายการย์วิชย์ วงษ์ทอง ผู้จัดการทั่วไป ของ บริษัท เดอะ เฮลลิ่ง ริสชี่ สปา จำกัด และนายกสมาคมไทยล้านนาสปา กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจสปาทางภาคเหนือนั้น ถือว่าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งผู้ประกอบการเองและกลุ่มลูกค้า เนื่องจากความโดดเด่นไม่เหมือนใคร เพราะสปาของทางภาคเหนือนั้นจะมีความเป็นเอกลักษณ์ของชาวล้านนา รวมทั้งสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยภูเขา ต้นไม้ ซึ่งมีความแตกต่างจากสปาทางแถบภาคใต้อย่างชัดเจน โดยขณะนี้ทางสมาคมล้านนา สปา นั้น มีสมาชิกประมาณ 50 ราย แต่ที่ได้ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีเพียง 17 รายเท่านั้น

สำหรับกลุ่มค้าหลักของธุรกิจสปาในภาคเหนือนั้นกว่า 80% จะเป็นชาวต่างประเทศ และ 20 % เป็นชาวไทย แต่ในขณะนี้ทางสมาคมฯกำลังร่วมกับผู้ประกอบการในการช่วยกันผลักดันให้คนในพื้นที่โดยเฉพาะคนไทย หันมาใช้บริการสปามากขึ้น เพราะคนไทยยังเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญในการที่จะทำให้ธุรกิจสปาสามารถดำเนินอยู่ได้

ทั้งนี้สถานการณ์ของธุรกิจสปาทางภาคเหนือนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงทรงตัว เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้น บวกกับการที่จะเข้ามาทำธุรกิจนี้จะต้องมีความแตกต่างหรือเอกลักษณ์เฉพาะจึงจะอยู่ได้ เช่น การนำสปามารวมกับโยคะหรือการทำดีท็อกซ์ หรือเฮลท์สปา อย่างที่เดอะ เฮลลิ่ง ริสชี่ สปา ได้ทำอยู่

สำหรับผลการดำเนินงานตลอด 3 ปีที่ผ่านมานั้น ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จนทำให้บริษัทฯเตรียมเปิดสปาอีกแห่ง คาดว่าจะเปิดในทำเลติดทะเลทางภาคใต้และยังคงมีความเป็นล้านนาและเฮลท์สปาเช่นเดิม ส่วนการดำเนินงานได้นั้นต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยทางภาครัฐเป็นหลัก โดยเฉพาะการที่ทางภาครัฐยังให้ความสำคัญกับธุรกิจสปาอีกหรือไม่ รวมไปถึงสภาพเศรษฐกิจที่ควรจะเป็นอีกด้วย จึงจะสามารถดำเนินการเปิดสปาแห่งใหม่นี้ได้

ปัจจุบันเดอะ เฮลลิ่ง ริสชี่ สปา มีสมาชิกกว่า 300 ราย มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นชาวต่างชาติ โดยในปีนี้บริษัทฯจะเน้นช่องทางการประชาสัมพันธ์ผ่านทางเว็บไซด์เป็นหลัก แต่ยังคงให้ความสำคัญกับลูกค้าในท้องถิ่นเช่นเดียวกัน โดยจะมีการจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษ รวมไปถึงการทำดีท็อกซ์รูปแบบใหม่ๆเข้ามาอีกทางหนึ่งด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us