Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน4 พฤษภาคม 2549
"เอ็กซิม แบงก์"อ่วมหนี้เน่าพุ่งกันสำรองเพิ่ม-ทำกำไร Q1 วูบ             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย

   
search resources

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
สถาพร ชินะจิตร
Banking and Finance




EXIM BANK แผ่วกำไรไตรมาสแรกลด 50 ล้าน จาก153 ล้าน เหลือ 103 ล้าน ผลกันสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นหลังพบยอด NPLพุ่งในช่วงปลายปี 48 พร้อมยันไม่เกี่ยวกับสินเชื่อตามนโยบายรัฐ และเตรียมออกพันธบัตรสกุลเงินบาท อายุ 5 ปี 3,200 ล้าน ระดมทุนไปปล่อยกู้ให้แก่โครงการในประเทศเพื่อนบ้าน ตามแผนพัฒนาตราสารหนี้แห่งเอเชีย

นายสถาพร ชินะจิตร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ของปี 2549 EXIM BANK ว่า มีกำไรสุทธิจำนวน 103 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 153 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลสุทธิเพิ่มขึ้น 49 ล้านบาท และกำไรก่อนสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญและขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้เพิ่มขึ้น 49 ล้านบาทด้วยเช่นกัน โดยในไตรมาส 1 ของปี 2549 EXIM BANK ยังคงมีค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญและขาดทุนจากการปรับโครงสร้างหนี้รวม 286 ล้านบาท เทียบกับ 187 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

สำหรับสินทรัพย์รวม ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2549 มีจำนวน 69,986 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจาก 70,499 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2548 ยอดเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2549 มีจำนวน 60,851 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 60,327 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2548 โดยสินเชื่อในประเทศที่เป็นสกุลเงินบาทยังเพิ่มขึ้นในอัตราที่น่าพอใจ แต่สินเชื่อที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมีมูลค่าลดลง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ลดลงจาก 41.07 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อสิ้นปี 2548 เป็น 38.84 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อสิ้นไตรมาส 1 ปี 2549 ในขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) เท่ากับ 6,785 ล้านบาทหรือร้อยละ 11.2 ของยอดเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 6,420 ล้านบาทหรือร้อยละ 10.6 ณ สิ้นปี 2548 สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2549 เท่ากับร้อยละ 15.5

กรรมการผู้จัดการได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า สำรองหนี้สูญจำนวนที่ค่อนข้างสูงดังกล่าวเป็นผลมาจาก NPLs เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี 2548 และต่อเนื่องในไตรมาสนี้ แต่เชื่อมั่นว่าภาระสำรองหนี้สูญในไตรมาส 2 ควรจะดีขึ้น สำหรับสินเชื่อตามนโยบายที่ได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาลตามมาตรา 23 ไม่มีรายการใดที่จัดเป็นหนี้มีปัญหา

นอกจากนี้ ในไตรมาส 1 ของปี 2549 EXIM BANK ได้ดำเนินการเพื่อผลักดันแผนการสนับสนุนการส่งออกและการลงทุนไทยในต่างประเทศซึ่งมีความคืบหน้าหลายโครงการ อาทิ การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ส่งออกในอุตสาหกรรมกุ้งแช่เย็นแช่แข็งของไทย โดย EXIM BANK ออกหนังสือค้ำประกัน (Standby L/C) ให้แก่ผู้ส่งออกเพื่อใช้ในการวาง Continuous Bond ให้กับกรมศุลกากรของสหรัฐอเมริกาสำหรับค่าภาษีนำเข้ากุ้งแช่เย็นแช่แข็งของสหรัฐอเมริกา และเพื่อเป็นการสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทนน้ำมันในอนาคต EXIM BANK ได้อนุมัติสินเชื่อให้แก่โครงการผลิตเอทานอลจำนวน 2 ราย รวมเป็นวงเงิน 2,184 ล้านบาท

นายสถาพรกล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินงานผลักดันให้เกิดตราสารหนี้แห่งเอเชีย (Asian Bond) ว่า EXIM BANK จะดำเนินการเกี่ยวกับการออกพันธบัตรใน 2 รูปแบบควบคู่กัน รูปแบบแรกเป็นพันธบัตรสกุลเงินบาทอายุ 5 ปีซึ่งออกในนามของธนาคารเองในวงเงิน 3,200 ล้านบาท เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปปล่อยกู้ให้แก่โครงการในประเทศเพื่อนบ้าน โดยพันธบัตรดังกล่าวได้ขายหมดแล้วที่อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.95 โดยออกพันธบัตรในวันที่ 3 พฤษภาคม 2549 ส่วนรูปแบบที่สองอยู่ในระหว่างดำเนินการ โดย EXIM BANK ช่วยสนับสนุนให้หน่วยงานรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้านเป็นผู้ออกพันธบัตรเอง ซึ่งโครงการแรกเป็นการสนับสนุนให้การไฟฟ้าลาวออกพันธบัตรสกุลเงินบาทเพื่อนำเงินไปใช้ในโครงการไฟฟ้าของลาวในวงเงินประมาณ 2,500 ล้านบาท และพันธบัตรดังกล่าวจะจำหน่ายให้แก่นักลงทุนประเภทสถาบันในไทย โดยมี EXIM BANK เป็นผู้ค้ำประกัน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us