"แคปปิตอล โอเค" บริษัทสินเชื่อเงินด่วนสิงคโปร์เดินหน้ารุกธุรกิจสินเชื่อและบัตรเครดิต ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าปีนี้เพิ่มจากปีก่อนไม่น้อยกว่า 20% หรือเพิ่มยอดสินเชื่อจาก 1.1 หมื่นล้าน เป็น 1.5 หมื่นล้าน ลั่นลูกค้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านราย เล็งปรับสัดส่วนลูกค้ากรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเป็น 50/50 พร้อมขยายสาขาจาก 10 เป็น 15 แห่ง มั่นใจภายในปี 50 มีกำไร

วานนี้ (3 พ.ค.) ผู้บริหารบริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด เปิดแถลงข่าวทิศทางการดำเนินงานของบริษัทพร้อมเปิดตัวสินเชื่อและบัตรเครดิตใหม่ โดยนายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทฯ เปิดเผยว่า ปี 2549 บริษัทฯ ตั้งเป้าจะขยายฐานลูกค้ารวมให้เพิ่มขึ้นจากปีก่อนไม่น้อยกว่า 20% โดยจะมีสัดส่วนลูกค้ากรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอย่างละ 50% จากปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าของบริษัท แบ่งเป็นอยู่ในต่างจังหวัด 60% อีก 40 อยู่ในกรุงเทพฯ

"ปีนี้เรามีแผนจะบุกตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลให้เพิ่มขึ้น ทั้งสินเชื่อเงินกู้ สินเชื่อเงินผ่อน และบัตรเครดิต โดยจะชูกลยุทธ์การตลาดด้วยการตอบแทนลูกค้าที่มีวินัยทางการเงินอย่างต่อเนื่อง"

นายอารักษ์เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดบริการใหม่ 2 ประเภท ได้แก่ สินเชื่อเงินสดหมุนเวียนไลท์โลน ซึ่งสมัครใช้บริการเพียงครั้งเดียว ลูกค้าจะมีเงินใช้ตลอดไป โดยสามารถเบิกเงินได้ง่ายผ่านทางโทรศัพท์ทุกวัน ตลอด 24 ชม. และลูกค้าสามารถเลือกวิธีการชำระให้เงินให้เหมาะสมกับสภาวะทางการเงินของตนเองในแต่ละเดือนได้ นอกจากนี้ ยังมีบริการบัตรเครดิตแคปปิตอล โอเค แพลทินัม ซึ่งเป็นบัตรที่เพิ่มอำนาจการบริหารเงิน โดยรวมวงเงินบัตรเครดิต วงเงินสินเชื่อเงินสด และวงเงินสินเชื่อเงินผ่อนไว้ในบัตรเดียว เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น สำหรับลูกค้าที่มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 15,000 บาทขึ้นไป

นายจามิกร บูรณะนนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล โอเค เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจะเพิ่มทุน 500 ล้านบาทในเดือนมิ.ย.นี้ จากทุนจดทะเบียนปัจจุบันที่มี 2.5 พันล้านบาท เพื่อนำไปขยายธุรกิจ โดยจะขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นเพิ่มทุน 500 ล้านบาท เพื่อขยายกิจการในเรื่องการขยายสาขา และเป็นทุนในการปล่อยสินเชื่อ แต่จะเพิ่มเต็มวงเงินหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความจำเป็นการใช้เงิน

นายขวัญชัย โหมดประดิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการด้านการตลาด บริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด เปิดเผยว่า ณ สิ้นเม.ย. 2549 วงเงินสินเชื่อรวมอยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท จำนวนลูกค้า 9 แสนราย คาดว่าสิ้นปีนี้พอร์ตสินเชื่อรวมจะอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตจากปีก่อน 20% ส่วนจำนวนลูกค้าจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 1.5 ล้านราย จากปี 2548 มีลูกค้า 7 แสนราย ด้านรายละเอียดพอร์ตสินเชื่อแบ่งเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลสัดส่วน 60% ธุรกิจเช่าซื้อ 30% และบัตรเครดิต 10%

ทั้งนี้ ต้องไม่มีปัญหาหรือสถานการณ์รุนแรง แต่ถ้ามีเหตุการณ์นอกเหนือความคาดหมายคาดว่าบริษัทฯ จะมีลูกค้า 1.3 ล้านราย พร้อมกันนี้ จะขยายสาขาอีก 4-6 สาขาจากปัจจุบันที่มีอยู่ 10 สาขา

นายขวัญชัยคาดว่า บริษัทฯ จะถึงจุดคุ้มทุน และเริ่มปีกำไรในสิ้นปี 2550 โดยเชื่อว่า สินชื่อบัตรเครดิตยังเติบโตอย่างมั่นคง เนื่องจากเป็นสินเชื่อระยะสั้น ซึ่งคาดว่าถ้าสถานการณ์ไม่ดี อย่างมากปีนี้ก็ไม่มีกำไร แต่ภายในปีหน้าจะมีกำไรอย่างแน่นอน

"เราทำธุรกิจนี้ลูกค้าของเราเป็นคนดีจ่ายตรงตลอด จนถึงปัจจุบันความสามารถขำระหนี้ของลูกค้าก็ยังเป็นปกติ " รองกรรมการผู้จัดการ แคปปิตอล โอเค กล่าวและว่า ขณะนี้ ต้นทุนการเงินของบริษัทเพิ่มขึ้น 1% จากการปรับตัวขึ้นของดอกเบี้ย และภาวะการเมืองที่ยังไม่มีความชัดเจน

สำหรับแคปปิตอล โอเค มีบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และธนาคารดีบีเอส สิงคโปร์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ ในสัดส่วน 60/40