|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“สีเดลต้า” เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ “Toptech Premer สีหายใจได้” ชูจุดขายระบายความชื้นจากปูนช่วยร่นเวลาก่อสร้าง 1 เดือน ทาได้แม้ในฤดูฝน ตั้งเป้ากวาดยอดขาย 200 ล้านบาทในปีแรก จากมูลค่าตลาดสีรองพื้น 1,600 ล้านบาท
นายรณฤทธิ์ ตั้งคารวคุณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สีเดลต้า เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับ Elioken บริษัทวิจัยทางด้านเคมีจากฝรั่งเศส พัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้กับผลิตภัณฑ์สีรองพื้นใหม่ Toptech Premer เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการใช้สีรองพื้นและสีทับหน้าในปัจจุบัน โดยใช้เวลาในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่และทดลองผลิตในประเทศเป็นเวลาถึง 2 ปี
ทั้งนี้ จากการวิจัยพบว่า ปัญหาของการใช้สีรองพื้นในปัจจุบัน ได้แก่ สีลอกร่อน สีจาง สีพอง ยังมีให้พบเห็นกันอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับในตลาดสีรองพื้นยังมีช่องว่างอยู่มาก เนื่องจากยังไม่มีผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์สินค้า ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างแท้จริง และงานก่อสร้างปัจจุบันยังต้องการใช้เวลาที่สั้นลง อีกทั้งตลาดยังมีความรู้ในการใช้สีเทคนิคน้อย จึงเห็นว่าสามารถสร้างแบรนด์ใหม่ในตลาดสีรองพื้นขึ้นมาได้
สำหรับผลิตภัณฑ์ Toptech Premer มีคุณสมบัติในการยึดเกาะที่ดี เนื่องจากโมเลกุลของเม็ดสีมีขนาดเล็กกว่าสีทั่วไป ทำให้สามารถซึมเข้าไปในพื้นผิวได้ลึกกว่าสีรองพื้นปกติถึง 4 เท่า ในขณะเดียวกันในสีจะมีฟิล์มเพื่อกันคราบเกลือและด่าง ที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาของอากาศกับปูนฉาบไม่ให้ออกมาจากเนื้อสี แต่จะปล่อยให้ความชื้นของปูนสามารถระเหยผ่านออกมาได้ คุณสมบัติดังกล่าวทำให้สามารถทาสีรองพื้นได้ใน 7 วัน หลังจากฉาบปูนเสร็จ ในขณะที่สีรองพื้นปกติจะต้องทิ้งปูนให้แห้งประมาณ 1 เดือน ซึ่งจะช่วยแก้ให้โครงการจัดสรรมีระยะเวลาก่อสร้างที่เร็วขึ้น
ในส่วนของการทำตลาดสีรองพื้นToptech Premer ที่บริษัทได้วางไว้ เป็นสีรองพื้นในระดับพรีเมี่ยมมีราคาสูงกว่าสีรองพื้นทั่วไป 10% หรือราคาประมาณ 2,200 บาทต่อถัง โดยในปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ 200 ล้านบาท หรือประมาณ 12% ของตลาดรวมสีรองพื้นที่ปัจจุบันมีมูลค่าตลาด 1,650 ล้านบาท ใช้วิธีกระจายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายของบริษัทที่มีอยู่ประมาณ 400-500 รายทั่วประเทศ และการจัดโรดโชว์ ผ่านตัวแทนจำหน่ายและโครงการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ช่างสี และผู้รับเหมา
นายรณฤทธิ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมของสีทาอาคารมีประมาณ 12,000 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 700 ล้านบาท สำหรับในปีนี้ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ประมาณ 900 ล้านบาท จากการเปิดผลิตภัณฑ์สีรองพื้น แม้ว่าในช่วงไตรมาสแรกภาวะตลาดสีจะทรงตัวจากปัจจัยลบต่างๆ และกำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนที่การขายจะชะลอตัวลง แต่ Toptech Premer สามารถใช้ในฤดูฝนได้ จึงเชื่อว่าจะช่วยให้บริษัทยังมียอดขายเข้ามาต่อเนื่อง
สำหรับการก่อสร้างโรงงานใหม่มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 3-4 เท่า จากเดิมที่ผลิตได้ประมาณ 12 ล้านลิตร ขณะนี้การก่อสร้างโรงงานยังมีความล้าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ จากเดิมที่จะต้องสามารถเดินเครื่องผลิตได้ในปีที่ผ่านมา และยังไม่แน่ใจว่าจะเสร็จภายในปีนี้หรือไม่ เนื่องจากปัญหาในด้านการก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่ได้เร่งเพื่อให้สามารถเดินกำลังผลิตได้เร็วทันแผนเดิมแต่อย่างใด
ด้านนายอลัน เฟลม ผู้จัดการฝ่ายเทคนิคการผลิต บริษัท Elioken กล่าวว่า การพัฒนาเทคโนโลยีของสี จะเน้นการพัฒนาคุณสีให้ใช้ได้กับวัสดุที่มีความหลากหลาย การพัฒนาสีร่วมกับบริษัทเดลต้า ถือเป็นโครงการในช่วงสั้นที่บริษัทได้เข้ามาดำเนินการในประเทศไทย และมีความเป็นไปได้ว่าในอนาคตบริษัทจะเข้ามาทำธุรกิจเกี่ยวกับงานวิจัยทางเคมีในไทยเพิ่มขึ้น
|
|
|
|
|